ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาด Startup ในประเทศไทยค่อนข้างเงียบ และจากจุดนี้เอง ธุรกิจ Co-Working Space ก็เหมือนจะไม่สู้ดี แต่ทำไม JustCo อีกผู้ให้บริการ Co-Working Space ในไทยถึงเติบโต และพร้อมขยายสาขา
วางแผนดี-กลุ่มทุนเป็นบริษัทอสังหาฯ
JustCo คือผู้ให้บริการ Co-Working Space สัญชาติสิงคโปร์ และมีผู้ลงทุนเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ Frasers Property ทำให้มุมมองการทำธุรกิจไม่ได้อยากพลิกรูปแบบการทำงาน หรือมองแค่การขยายธุรกิจนี้ให้ครอบคลุมหลายประเทศทั่วโลก
คง วัน ลง ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ JustCo เล่าให้ฟังว่า การทำธุรกิจ Co-Working Space ไม่ว่าจะไปทำที่ประเทศไหนก็ไม่มีอะไรง่าย เพราะรูปแบบพื้นที่ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต่างกัน ซึ่งหลังจากให้บริการในไทยมา 2 ปีก็ได้ประสบการณ์ทำธุรกิจมากมาย และประสบการณ์นั้นก็ทำให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
“ผมคาดหวังว่าการลงทุน Co-Working Space ในแต่ละแห่งที่ประเทศไทยน่าจะคืนทุนได้ใน 3-4 ปี ซึ่งที่แรกของเราในสาทรก็ค่อนข้างท้าทาย เพราะเราไม่รู้มาก่อนว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่หลังจากเปิดแห่งที่สอง และสามตามมา ก็เริ่มเรียนรู้ และพัฒนาแผนเพื่อขยายสาขาเพิ่ม ผ่านความต้องการ Co-Working Space ในไทยที่ยังเติบโต”
ลงทุนจนกลายเป็นเบอร์หนึ่งในเรื่องพื้นที่
สำหรับ JustCo ปัจจุบันมี Co-Working Space ในไทย 3 แห่งคือ สาทร, วิทยุ และสามย่าน โดยในสาทร และวิทยุนั้นมีอัตราการใช้พื้นที่ 85% ส่วนในสามย่านที่เพิ่งเปิดใหม่ และเป็น Co-Working Space ที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในไทยก็มีอัตราการใช้พื้นที่ 95% ของทั้งหมด ที่สำคัญมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นการเช่าจากลูกค้าระดับองค์กร
“JustCo ยังลงทุนขยายสาขาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เช่นในไตรมาสที่ 3 จะมีสาขาในย่านราชประสงค์เป็นแห่งที่ 4 ยิ่งตอนนี้องค์กรขนาดใหญ่เริ่มหันมาใช้ Co-Working Space มากขึ้น ก็ทำให้เราสามารถเติบโตในประเทศไทยได้ดี รวมถึงเดินหน้าตามแผนเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดนี้ที่เอเชียแปซิฟิคได้”
ปัจจุบัน JustCo มีสมาชิกที่เช่าใช้ Co-Working Space ทั้งหมด 25,000 คน ให้บริการทั้งหมด 40 สาขาใน 7 ประเทศ รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 1.4 แสนตร.ม. เป็นอันดับหนึ่งในสิงคโปร์, ไทย และใกล้เคียงอันดับหนึ่งที่ออสเตรเลีย และเร่งขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วเอเชียแปซิฟิค
ท้าทายมากกว่าแค่บริหารพื้นที่ให้กำไร
ทั้งนี้การบริการงานในประเทศไทยนั้นมีความท้าทายมากกว่าแค่ทำให้ธุรกิจมีกำไรจากการมีรายได้จากการใช้บริการมากกว่าค่าเช่าตึกสำนักงานที่ JustCo เป็นผู้รับผิดชอบ เช่นการทำธุรกิจในไทยช่วงแรกค่อนข้างหาพนักงานได้ลำบาก ผ่านการเป็นธุรกิจใหม่ และยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยมากนัก
ขณะเดียวกันการเดินหน้าทำธุรกิจโดยไม่ให้เกิดการลอยแพของสมาชิกที่สมัครใช้บริการ JustCo ในประเทศไทย ก็ทำให้การขยายสาขานั้นต้องวิเคราะห์อย่างละเอียด จึงไม่แปลกที่การขยายสาขาของ JustCo จะเป็นพื้นที่ธุรกิจ หรือ CBD เป็นหลัก ไม่มีการออกไปชานเมือง หรือย่านที่ไม่สะดวกในการเดินทาง และการใช้ชีวิต
“ก่อนหน้านี้การจะเปิด Co-Working Space ในประเทศไทย JustCo มองว่าต้องอยู่ในออฟฟิศเกรดเอ และมีพื้นที่แค่ 2,000 ตร.ม. ก็เพียงพอ แต่พอทำธุรกิจไประยะหนึ่งก็เริ่มมองว่า 7,000-8,000 ตร.ม. ถึงจะเหมาะสม ส่วนจะเดินหน้าขยายสาขาตามนักลงทุนอันดับต้นๆ ของบริษัทหรือไม่ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการวางแผน”
สรุป
เมื่อธุรกิจ Co-Working Space ขึ้นอยู่กับการบริหารต้นทุนค่าเช่าที่ถูกต้อง ทำให้การวางราคา และหาพื้นที่ที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ทุกบริษัทต้องวางแผนมาเป็นอย่างดี ซึ่ง JustCo ก็น่าจะเป็นอีกองค์กรที่น่าจับตาว่าจะเดินหน้าเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดนี้ที่ไทย และเอเชียแปซิฟิคได้หรือไม่ เพราะตัวอย่างที่ผิดพลาดในธุรกิจนี้มันก็มีให้เห็นแล้ว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา