ปฏิเสธไม่ได้ว่า “เพชร” ยังเป็นที่ต้องการของตลาดตลอดเวลา แม้จะมีสินค้าใหม่ๆ เข้ามาดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคมากขึ้น และเหตุนี้เองทำให้ Jubilee ที่มีหน้าร้านขายเพชรมากที่สุดในไทยสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ขายอัญมณีจนรายได้ 1,548 ล้านบาท
Jubilee ถือเป็นแบรนด์อัญมณีที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของไทย เพราะก่อตั้งมาเมื่อปี 2536 โดยช่วงแรกเป็นการเปิดเพียงไม่กี่สาขา และทำการขยายหน้าร้านในรูปแบบเฟรนไชส์ไปตามจังหวัดต่างๆ จนในปี 2544 ได้พลิกวงการอัญมณีผ่านการตั้งจุดขายในห้างสรรพสินค้า จนกลายเป็นร้านอัญมณี Counter Brand รายแรกของไทย
และเมื่อกลยุทธ์ดังกล่าวสำเร็จไปด้วยดี Jubilee ก็ประกาศเข้าจดทะเบียนในตลาดทรัพย์เมื่อปี 2552 พร้อมกับวางโครงสร้างธุรกิจใหม่ไล่ตั้งแต่การจัดซื้ออัญมณีที่มีคุณภาพที่สุดเพื่อให้ทีมออกแบบของบริษัทนั้นสร้างสรรค์สินค้าที่สวยงามตรงใจผู้ซื้อ จากนั้นก็จ้างพาร์ทเนอร์ภายนอกผลิตแต่บริษัทก็ยังคุมคุณภาพตลอดเวลา
ที่สำคัญเพื่อให้ลูกค้ามีการเข้ามาใช้บริการประจำ Jubilee ก็มีการทำ Loyalty Program หรือบัตรสมาชิกเพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำภายในร้านมากขึ้น เพราะปัจจุบันจุดจำหน่ายก็มีถึง 130 แห่ง (ข้อมูลสิ้นปี 2561) ครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว ประกอบด้วยหน้าร้าน 3 แบบคือ Flagship Store, Jubilee Shop และ Counter Brand
เพิ่มแบรนด์สร้างความแตกต่างในตลาด
ขณะเดียวกัน Jubilee ยังมีการแบ่งแบรนด์ออกมาเป็น 2 รูปแบบคือ Jubilee Diamond หรือแบรนด์ต้นตำหรับ กับ Forevermark ที่เน้นทำตลาดในต่างประเทศ ผ่านการออกแบบที่ตรงใจกลุ่มคนทั่วโลกเป็นหลัก และอิงกับเทศกาลต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้อมากที่สุด
สำหรับตัวสินค้าของ Jubilee นั้นก็ประกอบด้วยแหวนเพชร, กำไร และเครื่องประดับในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกตกแต่งด้วยอัญมณี โดยเฉพาะเพชร ซึ่งในประเทศไทยนั้นบริษัทมีการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ และกระตุ้นยอดขาย
จากกลยุทธ์ทั้งหมดนี้เองทำให้ Jubilee มียอดขายในปี 2561 ที่ 1,548.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.4% มีกำไรสุทธิที่ 678.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.2% หรือคิดเป็น 44% ของยอดขายที่ทำได้ ส่วนปี 2562 นั้น Jubilee ก็เตรียมเพิ่มจุดจำหน่าย และยอดขาย กับกำไรให้ได้มากกว่าเดิมด้วย
เร่งขยายหน้าร้าน พร้อมคุมค่าใช้จ่าย
การเพิ่มจุดจำหน่ายนั้น Jubilee เตรียมขยายหน้าร้านอีก 4-5 แห่งในห้างสรรพสินค้าต่างๆ พร้อมกับเริ่มต้นทำหน้าร้านบนโลกออนไลน์เพื่อตอบรับความต้องการใหม่ๆ ด้วย ส่วนการเพิ่มยอดขาย กับกำไรนั้นจะเริ่มตั้งแต่การอบรมพนักงานให้มีความสามารถในแง่มุมมต่างๆ มากขึ้น
นอกจากนี้ยังเตรียมพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มที่ไม่เคยเข้ามาซื้อสินค้ากับ Jubilee มาก่อน ทั้งยังพัฒนาระบบสมาชิกที่ทำให้เกิดการซื้อซ้ำ และเพิ่มมูลค่าในการซื้อต่อครั้งที่มากกว่าเดิม แต่ทั้งหมดนี้ต้องอยู่บนการทำตลาดที่ตรงความต้องการกับผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มด้วย
อย่างไรก็ตามการเพิ่มยอดขายอย่างยั่งยืนนั้น Jubilee ต้องควบคุมค่าใช้จ่าย และมีการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิม ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดนี้ได้ Jubilee ก็ยังเป็นร้านจำหน่ายอัญมณี โดยเฉพาะเพชรเบอร์ต้นๆ ของไทย ผ่านยอดขาย และกำไรที่เติบโตอย่างยั่งยืน
สรุป
Jubilee เป็นร้านเพชรที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้ซื้อทั้งในไทย และต่างชาติ เพราะด้วยการได้รับมาตรฐานระดับโลก และมีหน้าร้านที่ครอบคลุมทั่วประเทศ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูว่า Jubilee จะสามารถทำตลาดในต่างประเทศได้ดีแค่ไหน เพราะนั่นคือแหล่งรายได้ในอนาคต และหากประสบความสำเร็จก็ไม่แปลกที่ Jubilee จะเติบโตก้าวกระโดด
อ้างอิง // Jubilee Opportunity Day, ภาพ Facebook ของ Jubilee
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา