เดี๋ยวนี้ เรามักจะเห็นคนถือพัดลมพกพา หน้าตาเหมือนไดร์เป่าผมขนาดจิ๋ว ตามสถานที่แจ้งต่างๆ โดยเฉพาะในงานรับปริญญา แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า พัดลมที่ใช้กันทั่วบ้านทั่วเมืองนี่ยี่ห้ออะไร?
‘JisuLife’ คือแบรนด์พัดลมพกพาสัญชาติจีน ผู้มีฐานลูกค้ากว่า 10 ล้านคนทั่วโลก พร้อมช่องทางจำหน่ายทั้งออนไลน์ออฟไลน์เกิน 40 ประเทศ จนครองแชมป์ขายดีอันดับ 1 บน Shopee และ Lazada แถมยังได้อันดับ 3 บนแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Amazon ด้วย
ล่าสุด JisuLife ตอกย้ำความเป็นแบรนด์อันดับ 1 ของโลก ขึ้นแท่นผู้นำตลาดพัดลมพกพาในไทย หลังจากเปิดตัวไม่กี่ปี ด้วยรายได้ในประเทศปีนี้ที่ทะลุเกิน 140 ล้านบาท
JisuLife เผยว่า จุดแข็งของบริษัทคือ Brand Positioning ในการเป็นแบรนด์ที่ยึดมั่นเรื่อง ‘ความสะดวก สบาย นวัตกรรม การทำโปรเจกต์พิเศษ และการใส่ใจ’ อย่างต่อเนื่อง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา JisuLife มุ่งมั่นด้านการวิจัยพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกสบายในการใช้ชีวิตกลางแจ้ง จากการใช้สินค้าที่สะดวกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบัน พัดลมพกพาของ JisuLife มีเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรมากกว่า 670 รายการ รวมถึงได้รางวัล ‘F Design Awards’ ถึง 4 ครั้งจากเยอรมนีด้วย
JisuLife ประสบความสำเร็จเพราะเจาะตลาดเก่ง
ถ้าถามว่าทำไม JisuLife ถึงประสบความสำเร็จในไทยขนาดนี้ คำตอบก็คงไม่พ้นเรื่องกลยุทธ์การเจาะตลาดของบริษัท
ในปี 2024 JisuLife ได้เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักของงาน ‘Y-Series Entertainment Awards 2024’ งานประกาศรางวัลอีเวนต์บันเทิงแนวหน้าของไทย ซึ่งช่วยให้ Brand Awareness แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่ทั้งในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนั้น JisuLife ยังจัดแคมเปญเพื่อเจาะตลาดคนไทยรุ่นใหม่อีกมากมาย เช่น
- เปิดตัว Brand Ambassador เป็น ‘บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล’ พร้อมแคมเปญ ‘JisuLife x Bilkin Gift Box’
- เปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงรุ่น ‘Life9’ พัดลมมือถือที่สร้างกระแสไวรัลบน TikTok
- ร่วมมือกับแบรนด์ไทยอย่าง ‘Maltese’ เปิดตัวคอลเลกชันพิเศษอย่าง Pro1, Life9 และ Life7
- สปอนเซอร์งาน T-POP Music Festival
- เข้าร่วมกิจกรรม GMMTV School Tour 2024
‘Leo Chen’ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวถึงกลยุทธ์ในประเทศไทยว่า บริษัทจะเน้นสื่อสารกับผู้บริโภควัยรุ่นและวัยทำงานที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย และให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย โดยเฉพาะชนชั้นกลางหรือผู้มีรายได้สูงในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต
กรณีนี้ถือเป็นเคสตัวอย่างให้เห็นว่า แบรนด์สัญชาติจีนก็ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคไทยได้ ต่อให้จะขายในราคาพรีเมียมสูงถึง 3,000 กว่าบาท ก็ยังจำหน่ายได้เรื่อยๆ
โดยปัจจุบัน สินค้าที่ขายดีที่สุดบน TikTok ของ JisuLife มียอดซื้ออยู่ที่ราวๆ 21,900 ชิ้น ในราคาประมาณ 1,600-2,500 บาท
ช่องทางการขายก็เน้นความทันสมัย
สำหรับกลยุทธ์ช่องทางการจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ JisuLife มุ่งหน้าในการจัดโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง เช่น 11:11 หรือ Black Friday ด้วยการลดแลกแจกแถมเพื่อดึงดูดผู้บริโภค
JisuLife ยังสร้างโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางให้ลูกค้าเข้ามาสั่งซื้อกันง่ายขึ้น แถมมีคอนเทนต์แนะนำหรือรีวิวสินค้าผ่านการใช้อินฟลูเอนเซอร์ในคลิปสั้นๆ ด้วย
ในแง่ของช่องทางออฟไลน์ JisuLife ร่วมมือกับกลุ่มค้าปลีกชั้นนำของไทยหลายเจ้า เพื่อจำหน่ายสินค้าตามแผนกอิเล็กทรอนิกส์และของใช้ภายในบ้าน รวมถึงจัด Pop-up Store เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ แก่ผู้บริโภค
Chen เชื่อว่า การผลิตสินค้าที่ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า จะช่วยผลักดันให้ JisuLife เป็นแบรนด์ที่ครองใจคนไทยระยะยาวได้
ในอนาคต บริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป โดยเน้นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สนองความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาค
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา