คนจำนวนมากอาจเคยได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ว่า คุณทำสิ่งนั้นไม่ดี สิ่งนี้ก็ทำไม่ได้ ทำอะไรก็ดูผิดหูผิดตาคนอื่นไปหมด คุณอาจไม่ได้มีคุณค่าเท่าที่คนอื่นประเมิน แต่จริงๆ แล้ว อาจเป็นเพราะแค่อยู่ผิดที่
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับชะตาชีวิตของผู้คนจำนวนมาก วิธีคิดที่อาจถูกที่ ถูกทางมากขึ้นอาจจะเรียบง่ายมากๆ นั่นก็คือ ถ้าที่นี่มันไม่ใช่ ก็แค่ย้ายไปที่อื่น แบบที่มันเกิดขึ้นกับ Shoji Morimoto ที่ถูกปลดออกจากงานที่ทำตั้งแต่ปี 2018 แถมยังถูกไล่ออกพร้อมแบกคำวิจารณ์ติดตัวกลับมาด้วยว่า “ขาดความคิดริเริ่ม วันๆ ไม่ทำอะไรเลย”
นี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาหาวิธีสร้างรายได้ให้ตัวเองใหม่ ด้วยการปล่อยให้คนอื่นมาเช่าตัวเอง เพื่อที่จะไม่ต้องทำอะไร
ลูกค้าของเขาไม่ได้มาจากความเหงาเท่านั้น แต่มันมาจากคนที่รู้สึกแปลกแยกจากสังคม ไม่อยากทำอะไรคนเดียว แต่ก็อยากมีเพื่อน แต่ก็อยากได้เพื่อนที่ไม่ต้องเป็นเพื่อนในชีวิตจริงก็ได้ แค่ไปทำกิจกรรมเป็นเพื่อนก็พอ
เช่น ให้ไปนั่งรอนั่งวิ่งมาราธอนกำลังวิ่งเข้าเส้นชัย ให้ไปคอนเสิร์ตเป็นเพื่อน คือไปทำอะไรก็ได้เป็นเพื่อนคนจ้าง ยกเว้นเรื่องเพศ
สิ่งที่ Morimoto ทำ ไม่ใช่นักบำบัด แต่แค่อยู่เป็นเพื่อน
เคยมีลูกค้าขอให้เขารับฟังเรื่องราวเลวร้ายที่เขาพบเจอมา สิ่งที่ Morimoto ทำก็คือ ฟังเงียบๆ ตั้งใจฟัง ตอบให้น้อยที่สุด และพยักหน้าบ้าง
เขาบอกว่า มีคนส่งคำขอให้เขาทำกิจกรรมเป็นเพื่อนมากถึง 1,000 ข้อความต่อปี และเขาก็ปล่อยให้ลูกค้าตัดสินใจเองว่าจะให้ค่าตอบแทนเขาเท่าไร เขาเคยคิดค่าตอบแทนอยู่ที่ 65-195 เหรียญสหรัฐต่อครั้งสำหรับ 2-3 ชั่วโมง คิดเป็นเงินประมาณ 2,000-6,5000 บาท เขามีรายได้ต่อปีราว 2.7 ล้านบาท
เขาเพิ่งหันมาใช้โมเดลการจ่ายค่าตอบแทนแบบ pay-as-you wish คืออยากจ่ายเท่าไรก็จ่ายมา เมื่อปีที่แล้วนี่เอง เขาบอกว่ามันน่าสนุกดี แต่ก็ไม่รู้ว่าจะใช้การคิดค่าตอบแทนแบบนี้ไปนานเท่าไรเหมือนกัน
สิ่งที่ Morimoto ทำ ก็คือเอาข้อเสียที่บริษัทเก่าปลดเขาออก และเอาพฤติกรรมที่มองว่า วันๆ เขาไม่ทำอะไรเลย ไปขายหารายได้ และก็ขายได้จริงซะด้วย
โมเดลนี้อาจจะเป็นงานใหม่สำหรับโลกอนาคตอันใกล้ แต่เหมาะสมมากกับญี่ปุ่นยุคนี้ เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ถูกมองว่า พวกเขาเลิกตามหาความรักแล้ว ไม่อยากแต่งงาน และไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ที่ยุ่งยาก พวกเขาแค่ต้องการใครสักคนไปเดท ไปดินเนอร์ ไปทำกิจกรรมเป็นเพื่อน เพราะเพื่อนในชีวิตจริงอาจจะไม่ได้มีเยอะ หรือแม้จะมีเยอะก็หาเวลาว่างตรงกันแทบไม่ได้
ส่งผลให้การให้บริการแบบไปร่วมกิจกรรมด้วยกันแต่ไม่ต้องการสานสัมพันธ์ต่อ กลายเป็นช่องว่างที่โมเดลอย่าง Morimoto อยู่ว่างๆ ไม่ได้ทำอะไร เข้ามาช่วยถมให้เต็มได้
ที่มา – CNBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา