ญี่ปุ่นเตรียมส่งวัคซีนช่วยเพื่อน ส่ง AstraZenecaให้เวียดนามและมาเลเซีย

รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมส่งวัคซีน AstraZeneca ให้เวียดนามและมาเลเซียอย่างเร็วที่สุดภายในเดือนนี้ จากรายงานที่เผยแพร่ใน Yumiuri ระบุว่า การจัดหาวัคซีนให้ทั้งสองประเทศนี้น่าจะอยู่นอกโครงการ Covax ที่มีองค์การอนามัยโลกคอยจัดการเพื่อแจกจ่ายวัคซีนไปให้ประเทศที่มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อย

Japan will give vaccine to Vietnam Malaysia

การเตรียมส่งวัคซีนให้ทั้งมาเลเซียและเวียดนามของญี่ปุ่นนี้จะต้องให้ทั้งสาธารณสุขของทั้งสองประเทศนี้อนุมติก่อนจึงจะสามารถส่งมอบได้ ส่วนเรื่องการจัดทำวัคซีนของญี่ปุ่นนั้นอาจจะมีการประกาศผ่านการประชุมทางไกล (teleconference) ในระดับสุดยอดผู้นำที่จะมีขึ้นภายในเดือนนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีรายงานจาก NHK ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาส่งมอบวัคซีนให้เวียดนาม

ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นก็ส่งมอบวัคซีน AstraZeneca ให้ไต้หวันไปราว 1.24 ล้านโดส ด้านรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็มีวัคซีนเพียงพอกับจำนวนประชากรของตนเองแล้วตอนนี้ก็พยายามผลักดันให้วัคซีนฉีดได้ทั่วโลก ด้านรัฐบาลเวียดนามเองก็พยายามจัดซื้อวัคซีนให้ได้ 150 ล้านโดสภายในปีนี้เพื่อจะสามารถฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมอัตราประชากรอย่างน้อย 75% เวียดนามต้องพยายามฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 80% เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้ก็ยังขาดแคลนวัคซีนอยู่ เวียดนามพบคนติดเชื้อโควิดในประเทศมากกว่า 91 คนจากสองจังหวัดที่มีการรายงานว่าพบการติดเชื้อ ทำให้ตอนนี้คนติดเชื้อราว 8,541 คน หลายจังหวัดในเวียดนามมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทั้งในฮานอย โฮจิมินห์ รวมถึงบริเวณ Bac Ninh ที่ที่มีโรงงานซัมซุงตั้งอยู่

ในส่วนของมาเลเซียนั้น วันอาทิตย์นี้มีการรายงานว่าพบคนติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 6,241 คน มีคนอาการหนักอยู่ราว 890 คน มี 444 คนที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ด้านสาธารณสุขก็ออกมาประกาศเตือนหลายครั้งหลายคราให้โรงพยาบาลเตรียมพร้อมรับมือกับคนไข้ที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก การรายงานจากสาธารณสุขล่าสุดระบุว่า มี 87 คนที่เสียชีวิตเพราะโควิด-19 โดยแบ่งเป็นพลเมืองในประเทศ 84 คนและคนต่างประเทศ 3 คน คนที่ติดเชื้อมีตั้งแต่อายุ 33 ปีถึง 89 ปี

การติดเชื้อเพิ่มขึ้นในมาเลเซียล่าสุดส่งผลให้ประเทศมีคนติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับต้นปีที่ผ่านมา จำนวนคนติดเชื้อโดยรวมอยู่ที่ 603,100 คน ด้าน Munir Majid นักวิชาการอิสระจากสถาบันคลังสมอง CARI เชี่ยวชาญเรื่องประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า การติดเชื้อเพิ่มใหม่ในมาเลเซียต่อจำนวน 1 ล้านคนในปัจจุบัน ทำให้ปัจจุบันมาเลเซียมีการติดเชื้อมากกว่าในอินเดียแล้ว

Japan Japanese ชาวญี่ปุ่น
ภาพจาก Shutterstock

ในส่วนของอินเดีย ตอนนี้เริ่มมีการลดการล็อคดาวน์มากขึ้นหลังจากที่คนติดเชื้อเริ่มน้อยลง เริ่มให้ร้านค้าต่างๆ เปิดดำเนินกิจการได้บ้างประปราย ออฟฟิศทั่วไปก็สามารถเปิดให้ทำการได้แต่ให้คนเข้าออฟฟิศลดลง 50% สถานการณ์ตอนนี้ที่เดลีกำลังค่อยๆ ดีขึ้นอย่างช้าๆ และเตรียมสร้างคลังสำหรับเก็บรักษาอ็อกซิเจนที่สามารถบรรจุได้มากถึง 420 ตัน

รัฐมนตรี Kjriwal ระบุว่า อนาคตเมืองเดลีจะสามารถจัดการกับการติดเชื้อได้มากถึง 37,000 คนต่อวัน ซึ่งเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมาก็มีติดเชื้อมากถึง 28,395 คน ในทางตอนเหนือของอุตตรประเทศซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ ยังคงมีการจำกัดเคอร์ฟิวตอนกลางคืนสำหรับ 55 เขตจากทั้งหมด 75 เขต ทางฝั่งตะวันตกของเมืองมหาราษฏระที่เป็นเมืองอุตสาหกรรมจะให้ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร และสำนักงานต่างๆ กลับมาเปิดได้ตามปกติหลังจากที่มีการติดเชื้อต่ำกว่า 5%

สำหรับเขตที่มีการติดเชื้อโควิด-19 ต่ำกว่า 600 คนจะได้รับอนุญาตให้ไม่ต้องล็อคดาวน์แต่ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ขณะที่เมืองที่มีคนติดเชื้อมากกว่า 600 คนจะต้องถูกล็อคดาวน์จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง อินเดียมีคนติดเชื้อรวม 120,529 คนต่อวัน มีอัตราการตายเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3,380 คน มีคนติดเชื้อโควิดสะสมรวม 28.69 ล้านคน เสียชีวิตรวม 344,082 คน

สัปดาห์หน้ารัฐมนตรีต่างประเทศจากจีนและอาเซียนกำลังจะหารือกันในสัปดาห์หน้าถึงประเด็นความร่วมมือเพื่อจัดการกับโควิด-19 ระบาด การประชุมจะเริ่มในวันที่ 7 มิถุนายนที่เมืองฉงชิ่ง จีน เป็นโอกาสครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์อาเซียนจีน

ที่มา – SCMP, CNA, NPR

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา