ญี่ปุ่นแห่ใช้รถยนต์มือสองผ่าน Car Subscription ดันตลาดเติบโต 25 เท่า รวมมูลค่า 50,000 ล้านเยน

คนญี่ปุ่นแห่เช่าใช้รถยนต์มือสอง ทำบริการ Car Subscription ในญี่ปุ่นโต 25 เท่า คาดปี 2025 มีมูลค่าตลาด 50,000 ล้านเยน หรือราว 12,000 ล้านบาท เหตุชิป และชิ้นส่วนขาดแคลน ทำผู้ผลิตส่งมอบรถยนต์ใหม่ล่าช้า

Car
ภาพจาก Pakutaso

ตลาดเช่าใช้รถยนต์เติบโตในประเทศญี่ปุ่น

สำนักข่าว Kyodo รายงานว่า จากปัญหาชิป และชิ้นส่วนขาดแคลน ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหาการส่งมอบรถยนต์ได้ตรงเวลา ทำให้ผู้บริโภคที่นั่นเริ่มหันไปใช้บริการ Car Subscription และเลือกใช้รถยนต์มือสองเป็นหลัก เนื่องจากราคาถูก และไม่ต้องติดสัญญาระยะยาว

เช่น Teigaku Carmo-kun ผู้ให้บริการ Car Subscription ที่เริ่มต้นธุรกิจปี 2018 มีรถยนต์มือสองให้เช่าใช้กว่า 5,000 คัน และไม่จำกัดระยะทางขับขี่ ได้รถภายใน 4 วันหลังทำสัญญา โดยมีสัญญาขั้นต่ำเพียง 1 ปี ซึ่งแตกต่างจากสัญญาเช่ารถยนต์บริษัทชั้นนำที่ขั้นต่ำ 3 ปี

หากเจาะไปที่ราคาจะพบว่า ราคารถยนต์มือสองขนาดเล็กเมื่อเช่าใช้กับ Teigaku Carmo-kun จะมีค่าใช้จ่ายราว 33,000 เยน/เดือน หรือ 8,400 บาท และทางบริษัทมีรถใหม่ให้เช่าใช้เช่นกัน แต่ด้วยรถมือสองที่ราคาประหยัดกว่า จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือช่วงวัย 20-30 ปี รวมถึงมีทั้งคนในเมือง และนอกเมืองใช้บริการ

JMA Research Institute คาดการณ์ว่า ภาพรวมตลาด Car Subscription ในประเทศญี่ปุ่นจะมีมูลค่ากว่า 50,000 ล้านเยน ภายในปี 2025 เติบโต 25 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2019 เพราะนอกจากผู้เล่นรายย่อยเติบโต กลุ่มแบรนด์ใหญ่ เช่น Toyota และ Suzuki หันมาให้บริการ Car Subscription เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากขึ้น

สำหรับในประเทศไทย นอกจาก Toyota จะทำตลาด Car Subscription ในชื่อ Kinto ที่เริ่มต้นราคาหลักหมื่นบาท/เดือน ในรถยนต์ขนาดเล็ก และยังมีกลุ่มสตาร์ตอัพท้องถิ่นที่ให้บริการเช่นกัน อาทิ Eazy Car และ Drivemate ที่ให้บริการในราคาหลักหมื่นบาทเช่นกัน

สรุป

บริการ Car Subscription ค่อย ๆ เติบโต และเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะราคาประหยัด, ได้รับรถยนต์ในเวลารวดเร็ว และไม่มีข้อผูกมัด ถ้าเบื่อก็เปลี่ยนรุ่นได้ ซึ่งเรื่องทั้งหมดตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตอิสระ และน่าจะเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศไทยมากขึ้น

อ้างอิง // Japan Today, Kinto

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา