ฮีโร่อเมริกันบูม – เศรษฐกิจซบ ทำกลุ่มของเล่นญี่ปุ่นเหนื่อยหนัก

กลุ่มเจนเนอร์เรชั่นเอ็กซ์ และวาย ต่างเติบโตมากับคาแร็คเตอร์การ์ตูนญี่ปุ่น อย่าง กันดั้ม หรือ ไอ้มดแดง กันเป็นส่วนใหญ่ แต่ในยุคของเด็กรุ่นใหม่ ไม่ได้มีแค่คาแร็คเตอร์การ์ตูนญี่ปุ่น ยังมีซุปเปอร์ฮีโร่สัญชาติอเมริกันที่เข้ามาตีตลาดไทยจนได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เช่น มาร์เวล ดีซี เบ็นเท็น ทำให้ตลาดของเล่นญึ่ปุ่นนิ่งไประยะหนึ่ง

imag0199

ไม่ใช่คาแร็คเตอร์ไม่ดี แต่มันไม่โดนใจ

เด็กรุ่นใหม่ รู้จักหรือสนใจกันดั้ม และ ไอ้มดแดงกันน้อยลง

ธนพล กิจเลิศไพโรจน์ ผู้บริหารสายการตลาด บริษัท ดรีมทอย จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายของเล่นลิขสิทธิ์แท้แบรนด์ Bandai (บันได) จากญี่ปุ่น ยอมรับว่า ตอนนี้สินค้าของเล่นจากประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะกลุ่มคาแร็คเตอร์ เช่น Masked Rider (ไอ้มดแดง) และ One Piece (วันพีช) มียอดขายลดลงต่อเนื่องมา 3 ปี

เทียบเท่ากับช่วงซุปเปอร์ฮีโร่สัญชาติอเมริกันปล่อยภาพยนตร์ออกมา และสร้างกระแสชื่นชอบคาแร็คเตอร์เหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ Iron Man (ไอร่อนแมน)

“ไม่ใช่คาแร็คเตอร์ Masked Rider ยุคใหม่ไม่ดีนะ แต่ถ้าเทียบความนิยมในตอนนี้ กับอดีต ต้องบอกว่าห่างกันเยอะ เพราะซุปเปอร์ฮีโร่ฝั่งอเมริกันโดนใจเด็กๆ ในตอนนี้มาก ประกอบกับทางฝั่งอเมริกันมีการวางแผนการตลาดดี และทุ่มงบกับตรงนี้เยอะ ทำให้เกิดกระแสซุปเปอร์ฮีโร่ขึ้นทั่วโลก ดังนั้นในกลุ่มดิสทริบิวเตอร์ขายของเล่น ถ้าใครถือซุปเปอร์ฮีโร่อเมริกันไว้ก็จะสบายหน่อย แต่ถ้าใครถือแต่ญี่ปุ่นไว้อย่างเดียว ก็คงต้องทำการบ้านกันหนักหน่อย เพื่อรอดพ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้”

imag0197

เศรษฐกิจชะลอตัว ทำกลุ่มขาจรหาย

ขณะเดียวกันการที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าใช้จ่าย แม้จะมีกำลังซื้ออยู่บ้าง จนยอดขายจากกลุ่มที่ไม่ได้ซื้อของเล่นเป็นประจำ หรือขาจร หายไปจากตลาด

โดยเฉพาะไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ที่ปกติเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของตลาดของเล่น เพราะเป็นช่วงเปิดเทอม และเข้าหน้าฝน กลับเงียบเหงายิ่งกว่าปี 2558 เกือบเท่าตัว แต่โอกาสที่ภาพรวมตลาดของเล่นจะเติบโต 5 – 10% ยังมีอยู่ ผ่านช่วงไตรมาส 4 ที่มีการจับจ่ายใช้สอยสูงที่สุด

นอกจากนี้เรื่องเศรษฐกิจยังทำให้กลุ่มของเล่นเด็ก 4 – 10 ขวบ มียอดขายลดลงเช่นกัน เพราะถึงเด็กจะไม่มีปัญหาเรื่องกำลังซื้อ แต่ผู้ตัดสินใจซื้อคือกลุ่มผู้ใหญ่ที่เจอพิษเศรษฐกิจทำให้ไม่อยากใช้จ่าย ในทางกลับกันของเล่นในกลุ่มเด็กโต หรือของเล่นที่มีแฟนคลับของตัวเองอยู่แล้ว จะสามารถจำหน่ายในช่วงเศรษฐกิจซบเซาได้ เพราะกลุ่มนี้ซื้อเป็นประจำ ดังนั้นกลุ่มผู้ค้าของเล่นจึงต้องวางแผนการตลาดกันใหม่ เพราะถ้าไปเจาะกลุ่มเด็ก ก็เท่ากับการมอมเมาเยาวชนไปฟรีๆ และไม่ได้ยอดขายกลับมา

imag0202

Gunpla ยอดยังดี เพราะฐานผู้ซื้อแข็ง

แต่ถึงยังไง กันดั้ม ก็ยังเป็นพระเอกในบรรดาของเล่นคาร์แรกเตอร์จากญี่ปุ่นอยู่ดี

ธนพล เสริมว่า รายได้ของบริษัทปีนี้น่าจะอยู่ที่ 200 ล้านบาท เติบโตจากปี 2558 ราว 15% โดยสินค้าที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทมากที่สุดคือ Gunpla (กันพลา) คิดเป็น 100 ล้านบาท หรือ 50% ของรายได้บริษัท รองลงมาเป็น Masked Rider, One Piece และอื่นๆ คละกัน และเพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี จึงจัดงาน Gunpla Expo ในวันที่ 30 ก.ย. – 9 ต.ค. ที่สยามพารากอน ชูจุดเด่นเรื่องโปรโมชั่นลดราคาเทียบเท่ากับที่ประเทศญี่ปุ่น

สำหรับผู้นำเข้าของเล่นในประเทศไทยปัจจุบันมี 6 รายใหญ่ เช่น ดรีมทอย, คิดส์แอนด์คิดส์ และเคซีทอย แข่งขันกันผ่านลิขสิทธิ์คาแร็คเตอร์ตัวละครต่างๆ และการทำตลาดร่วมกับภาพยนตร์ หรือการ์ตูนที่ฉายในประเทศไทย

ที่สำคัญกลุ่มสินค้าของเล่นที่เป็นคาแร็คเตอร์นั้น การละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงการนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย มีแนวโน้มลดลง เพราะผู้เล่นในตลาดเกือบทุกรายสามารถนำสินค้าเข้ามาได้เร็วขึ้น ประกอบกับการทำราคาให้เข้าถึงผู้บริโภคชาวไทยได้ดีขึ้นเช่นกัน

สรุป

ในวงการของเล่น ถ้าตอนนี้ใครไม่กลับมาดูบริษัทตัวเอง และรีดไขมันที่ไม่ดีออกไป โอกาสที่จะอยู่รอดในธุรกิจนี้ก็ยาก เพราะจะหากินกับแฟนบอยอย่างเดียวก็คงอยู่ไม่ได้ การมีขาจรเขามาช่วยสร้างสีสันจึงจำเป็น แต่กลุ่มขายของเล่นก็เหมือนเล่นล็อตเตอร์รี่ เพราะไม่รู้ว่าการ์ตูน หรือภาพยนตร์เรื่องนั้นจะดังหรือไม่ ถ้าดังก็ดีไป แต่ถ้าแป๊กของเล่นที่สั่งมาก็ขายยาก และคงต้องออกจากตลาดไป

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา