ญี่ปุ่นเร่งดึง Tech Talent จากอินเดีย ยกระดับเศรษฐกิจเทคโนโลยี-แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานทักษะสูง

ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกปลดคนเทคกันรึ่ม แต่ ‘ญี่ปุ่น’ กลับต้องการแรงงานกลุ่มนี้มากขึ้น หลังเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานฝีมือด้านเทคนิคและเทคโนโลยีขั้นสูง 

จริงๆ เรื่องนี้ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เคยคาดการณ์ในปี 2022 ว่าในปี 2030 ญี่ปุ่นจะขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมไอทีประมาณ 7.9 แสนตำแหน่ง

แม้รัฐบาลญี่ปุ่นออกนโยบายดึงดูดคนเก่งให้เข้ามาทำงานในประเทศ แต่บริษัทญี่ปุ่นมักต้องการแรงงานที่ทั้งมีฝีมือ และมีทักษะภาษาญี่ปุ่นในระดับสูง ทำให้แรงงานต่างชาติหลายคน ยังไม่ตัดสินใจมาทำงาน

ล่าสุด ญี่ปุ่นยังไม่ยอมแพ้ และหันไปดึงดูดบุคลากรจาก ‘อินเดีย’ ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิต ‘Tech Talent’ ของโลก ผ่านโครงการ ‘LOTUS Programme’ ที่เปิดทางให้นักศึกษาปริญญาโท และนักวิจัยหลังปริญญาโทจากอินเดีย เข้ามาทำวิจัยในญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปีเต็ม

โครงการนี้อยู่ภายใต้การสนับสนุนของ ‘Japan Science and Technology Agency’ (JST) ซึ่งร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งสองประเทศ เพื่อกำหนดหัวข้อวิจัยร่วมในสาขาที่ญี่ปุ่นต้องการเร่งพัฒนา ไม่ว่าจะเป็น AI เทคโนโลยีชีวภาพ วัสดุศาสตร์ พลังงาน ควอนตัม เซมิคอนดักเตอร์ ไปจนถึงโทรคมนาคม 

ซึ่งค่าใช้จ่ายแบ่งกันรับผิดชอบระหว่างสองประเทศ โดย JST จะสนับสนุนประมาณ 3 ล้านเยนต่อคนต่อปี (ประมาณ 6.46 แสนบาท) ขณะที่อินเดียรับผิดชอบค่าเดินทาง และสถาบันที่เข้าร่วมออกค่าใช้จ่ายด้านการวิจัย

ภายในปีแรกของการดำเนินงานมีผู้สมัครกว่า 1,300 คน แต่ผ่านการคัดเลือกเพียง 300 คนเท่านั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของนักวิจัยอินเดียที่อยากเข้ามามีประสบการณ์ในญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก 

Kazuhito Hashimoto ประธาน JST ยอมรับว่า ความสนใจจากอินเดียมากเกินคาด และประกาศเป้าหมายในอนาคตว่าจะขยายจำนวนผู้เข้าร่วมเป็น 3,000 คนต่อปี

ภาครัฐ-เอกชน เร่งหาคนเก่งไอที

ความพยายามนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ระดับมหาวิทยาลัยหรือห้องทดลองเท่านั้น แต่ยังไปถึงภาคธุรกิจด้วย รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมแนะนำผู้เข้าร่วมโครงการให้ไปฝึกงานในบริษัทญี่ปุ่น

โดยมีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เข้ามาช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและการใช้ชีวิต เพื่อสร้างเส้นทางให้นักวิจัยกลายเป็น ‘แรงงานทักษะสูง’ ที่ปักหลักทำงานในญี่ปุ่นได้จริง

ไม่ใช่แค่ภาครัฐเท่านั้น แต่เอกชนญี่ปุ่นก็กำลังแย่งตัวคนเก่งจากอินเดียอย่างจริงจัง หนึ่งในตัวอย่างคือ ‘Zenken’ บริษัทที่ช่วยจับคู่นักศึกษาชาวอินเดียกับบริษัทญี่ปุ่นมาแล้วกว่า 400 คน

Zenken ทำงานใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยกว่า 50 แห่งในอินเดีย โดยเฉพาะเมืองเบงกาลูรูที่ได้ชื่อว่า ‘ซิลิคอนแวลลีย์’ ของอินเดีย เพื่อเข้าถึงนักศึกษาที่สนใจทำงานต่างประเทศ

หลังคัดเลือกแล้ว Zenken จะช่วยเตรียมความพร้อมทั้งทักษะและภาษา ด้วยการจัดคอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นกว่า 470 ชั่วโมงแบบออนไลน์ ให้นักศึกษาเรียนก่อนเดินทางไปเริ่มงานจริงในญี่ปุ่น

Junnosuke Hayashi ซีอีโอของ Zenken เล่าว่า ปัจจุบันบริษัทมีฐานข้อมูลนักศึกษาที่สนใจทำงานในญี่ปุ่นอยู่กว่า 5,000 คน ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญของบริษัทญี่ปุ่นที่ต้องการแรงงานใหม่

โดยเฉพาะในช่วงที่สหรัฐฯ เริ่มปิดกั้นโอกาสการย้ายถิ่นฐานของแรงงานต่างชาติ การหันมามองญี่ปุ่นจึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดึงดูดได้

วางรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว

แม้ญี่ปุ่นจะมีนักศึกษาชาวอินเดียประมาณ 800 คนที่เรียนอยู่ในประเทศ ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับกว่า 130,000 คนที่ไปเรียนต่อในสหรัฐฯ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นเชื่อว่าตัวเลขนี้สามารถขยายได้อีกมาก หากสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมทั้งในแง่โอกาสการทำงาน และคุณภาพชีวิตหลังเรียนจบ

ขณะเดียวกัน บทบาทของมหาวิทยาลัยอินเดียก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยผู้นำของสถาบันอย่าง ‘Indian Institute of Technology’ (IIT) แสดงท่าทีชัดเจนว่าอยากส่งนักศึกษาไปเรียนรู้และทำงานในญี่ปุ่น เพราะเห็นว่ามีความเข้าใจในวัฒนธรรม และอุตสาหกรรมที่เอื้อต่อการสร้างเส้นทางอาชีพระยะยาว

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าญี่ปุ่นกำลังสร้างอีโคซิสเต็มดึงดูดคนเก่งอย่างจริงจัง ไม่เพียงเพื่ออุดช่องว่างแรงงาน แต่ยังเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคต

ที่มา: Nikkei Asia, PM India, JST, Asian Community News

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา