ไม่รอราชการ ไม่โทษคนอื่น นายกฯ ญี่ปุ่นลุยตรง เร่งจัดหาวัคซีนให้ประชาชนอย่างเร็วที่สุด

ถ้ามีการสำรวจอันดับนักการเมืองและประเทศที่ใส่ใจประชาชนอย่างที่สุด หนึ่งในนั้นต้องมีญี่ปุ่น เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สถานทูตญี่ปุ่นในวอชิงตันรับสายโทรศัพท์จากผู้นำประเทศ โยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

Yoshihide Suga โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
TOKYO, JAPAN – SEPTEMBER 12, 2020 (Photo by Charly Triballeau – Pool/Getty Images)

จากนั้น ก็เริ่มมีการเจรจาเกิดขึ้นระหว่างญี่ปุ่นกับสำนักงานใหญ่ที่ผลิตวัคซีนแบรนด์ Pfizer การต่อสายตรงดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีซูงะ อาจทำให้มองว่ามีการสับสนกัน ระหว่างหน้าที่นายกฯ กับกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการได้ ซึ่งเรื่องวัคซีนนี้ทางกระทรวงได้หารือกับ Pfizer ในญี่ปุ่นแล้วเพียงแต่ยังไม่ได้ทำความตกลงกัน สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลให้ผู้นำประเทศมาก นายกฯ ซูงะรู้สึกว่าใช้เวลานานเกินไป จึงเจรจากับบริษัทผลิตยาโดยตรง

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซูงะประกาศว่า วัคซีนต้านโควิดจาก Pfizer น่าจะมีให้ใช้ได้ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ หลังการหารือกับ Pfizer โดยตรง ทำให้ญี่ปุ่นสามารถรับวัคซีนได้ในเดือนมกราคมแทนที่จะเป็นเดือนกุมภาพันธ์ หมายความว่าการเจรจาดังกล่าวประสบความสำเร็จ ทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นได้รับวัคซีนใช้เร็วขึ้น โดยบุคลากรทางการแพทย์จะได้รับวัคซีนก่อนเป็นอันดับแรก ตามด้วยคนสูงวัยในเดือนมีนาคม และประชาชนทั่วไปจะรับวัคซีนได้ในเดือนเมษายนขึ้นไป

Photo by Colton Jones on Unsplash

รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งใจจะให้วัคซีนแก่ประชาชนทั้งประเทศได้ภายในครึ่งแรกของปี 2021 ญี่ปุ่นคิดว่าจะได้รับวัคซีนเพียงพอสำหรับ 60 ล้านคนแรกจาก Pfizer และ 20 ล้านจาก Moderna ในเดือนมิถุนายน และอีก 60 ล้านคนจาก AstraZeneca

การฉีดวัคซีนนี้ญี่ปุ่นมีความระมัดระวังในการใช้งานค่อนข้างมากเพราะเคยมีประสบการณ์จากการฉีดวัคซีนโรคคางทูม โรคหัด โรคหัดเยอรมันมาแล้ว ผู้คนทั่วประเทศได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากการฉีดวัคซีนในช่วงปี 1989 ราว 1,800 คน ทำให้รัฐบาลต้องชดใช้ค่าเสียหายต่อเหยื่อที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว วัคซีน MMR จึงถูกระงับการใช้งานไปในปี 1993

นับตั้งแต่นั้นมา ญี่ปุ่นก็เข้าไปมีส่วนร่วมในการร่วมพัฒนาวัคซีนด้วย ขณะเดียวกัน หลายประเทศก็เริ่มมีความยืดหยุ่นในการเข้าถึงวัคซีนมากขึ้น และยังมีความหวังว่าวัคซีนจะช่วยสกัดโควิดได้ด้วย ด้านสหรัฐอเมริกาเตรียมฉีดวัคซีนจาก Moderna ให้ประชาชน แต่ฉีดโดสเดียวแทนที่จะฉีดสองโดสตามคำแนะนำ ส่วนอังกฤษ อาจจะให้ผู้ป่วยได้รับวัคซีนจากผู้ผลิตยาที่แตกต่างกันสำหรับโดสแรกและโดสที่สอง

Osaka Japan โอซาก้า ญี่ปุ่น
ภาพจาก Shutterstock

สำหรับวัคซีนที่ผลิตจาก Pfizer-BioNTech นี้ ต้องฉีดสองโดสโดยฉีดห่างจากกันราว 3 สัปดาห์และจะต้องเก็บรักษาวัคซีนในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นได้ตั้งทีมสำหรับเตรียมการด้านนี้ไว้แล้วพร้อมกับเตรียมระบบโลจิสติกส์เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนสำเร็จก่อนที่โตเกียวโอลิมปิกจะเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้

ที่มา – Nikkei Asia

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา