ธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือ Bank of Japan ออกรายงานสถิติการใช้บัตรพรีเพดสมาร์ทการ์ดเพื่อการจ่ายเงินในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มียอดชำระคิดเป็นเงิน 5.007 แสนล้านเยน หรือประมาณ 1.48 แสนล้านบาท โดยถือเป็นตัวเลขที่เกิน 5 แสนล้านเยนครั้งแรก
บัตรสมาร์ทการ์ดแบบพรีเพด อย่างเช่น Suica ที่ออกโดย JR East เป็นบัตรที่นิยมใช้กันมากในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีการออกบัตรแล้วกว่า 360 ล้านใบ โดยถ้าคิดเฉลี่ยต่อคนจะอยู่ที่ 3 ใบต่อหนึ่งคน และจำนวนธุรกรรมที่เกิดขึ้นจากบัตรสมาร์ทการ์ดนั้นเพิ่มขึ้น 4.5% อยู่ที่ 5.42 ล้านครั้งในปี 2017 และจำนวนเครื่องจ่ายเงินที่รองรับสมาร์ทการ์ดนั้นสูงขึ้น 15.6% มาอยู่ที่ 2.3 ล้านเครื่อง และยอดการใช้จ่ายตลอดปี 2017 อยู่ที่ 5.19 ล้านล้านเยน หรือ 1.54 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ ยอดการใช้งานบัตรสมาร์ทการ์ดนั้นกลับมีการใช้จ่ายต่อครั้งเฉลี่ยต่ำลง 32 เยนมาอยู่ที่ 959 เยนในปี 2017 และเมื่อคำนวณมูลค่าธุรกรรมทั้งหมดนั้นเติบโตคิดเป็นเพียง 1.1% ในปีที่แล้ว ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับการเติบโต 10.8% ในปี 2016
การเติบโตที่ช้าลงของการใช้จ่ายผ่านบัตรสมาร์ทการ์ดในญี่ปุ่น มาจากความท้าทายของช่องทางการจ่ายเงินอื่นที่กำลังเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ โดยธนาคารญี่ปุ่นต่างก็เน้นการโปรโมตบัตรเดบิตในช่วงหลังนี้ ซึ่งยอดธุรกรรมผ่านบัตรเดบิตในประเทศญี่ปุ่นนั้นเพิ่มขึ้น 90% ใน 2 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 107.56 ล้านครั้ง
ส่วนช่องทางการจ่ายเงินด้วย QR code ในญี่ปุ่นก็เริ่มเติบโตขึ้นจากการเข้ามาของ Alipay และตอนนี้สถาบันการเงินขนาดใหญ่ 3 แห่งของญี่ปุ่นคือ Mitsubishi UFJ, Mizuho และ Sumitomo Mitsui ก็ได้จับมือกันเพื่อทำมาตรฐาน QR code ใช้ในญี่ปุ่นแล้ว
ที่มา – Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา