ญี่ปุ่นพัฒนาการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศเพื่อรองรับการทำงานระยะไกลในช่วงโควิดระบาด หลังจากที่เทรนด์ “workation” กำลังเป็นที่นิยม (การทำงานแบบ workation ก็คือการทำงานระยะไกลแบบ ทำงานไปด้วย พักผ่อนไปด้วย)
ทางอุทยานแห่งชาติญี่ปุ่นเตรียมยกระดับสถานที่ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้สะดวกมากขึ้นด้วยงบสนับสนุนจากกระทรวงสิ่งแวดล้อม แต่รายละเอียดยังไม่แน่ชัดว่าจะใช้ระยะเวลายาวนานเท่าไร ทาง Shinijiro Koizumi รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมระบุ เราอยากให้คนไปเยี่ยมชมอุทยาแห่งชาติบริเวณใกล้เคียงก่อน ทางรัฐบาลสนับสนุนแนวคิดการทำงานแบบ workation เพราะหวังว่าจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นหลังถูกโควิดโจมตีอย่างหนักหน่วง
ตัวอย่างการปรับตัวของโรงแรมในญี่ปุ่นสำหรับการรับมือยุค New Normal ที่ผู้คนหันมาทำงานระยะไกลมากขึ้น โรงแรม Chuzenji Kanaya ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ Nikko ในจังหวัด Tochigi ทางตอนเหนือของโตเกียว เตรียมจัดทำพื้นที่สำหรับให้คนทำงานตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป แยกออกมาจากห้องพักแขกอีกที โดยเจ้าหน้าที่โรงแรมเล่าว่า เราอยากจะเสนอแผนให้แขกสามารถทำงานในตอนเช้าและร่วมกิจกรรมเดินป่า พายเรือแคนูกับครอบครัวเขาได้ในตอนบ่าย เป็นต้น
การปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจท่องเที่ยวของญี่ปุ่นคือการเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับลูกค้าที่ต้อง work from home มากขึ้น มีทั้งการปรับห้องพักแขกให้กลายเป็นห้องทำงานได้สะดวกขึ้น แน่นอนว่ามันดึงความสนใจของผู้คนได้มาก โดยเฉพาะช่วงที่เกิดโควิดระบาดจนไม่กล้าเดินทางไปทำงานเพราะเลี่ยงการเบียดเสียดกับผู้คน เลี่ยงการติดเชื้อไปในตัว
เจ้าหน้าที่โรงแรมบางคนก็กล่าวว่า พวกเขาต้องการให้ผู้คนที่ต้องทำงานระยะไกลได้รู้สึกผ่อนคลายได้บ้าง จากสภาพแวดล้อมที่แตกต่างออกไปจากเดิม แค่นั้นไม่พอ อุทยานแห่งชาติเหล่านี้ยังเตรียมแผนให้สามารถเช่าเตนท์ได้ เช่าแบตสำรองแบบพกพาได้ ขยายพื้นที่สำหรับให้สัญญาณ Wi-Fi ในอุทยานสี่แห่งด้วยกัน
รัฐมนตรี Koizumi เคยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบุคลากร Japan Airlines และ Unilever ที่สนับสนุนให้มีการทำงานแบบ workation ทั้งคู่ พวกเขาย้ำกับรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมว่า สิ่งสำคัญก็คือต้องเชื่อใจพนักงานมากกว่าจะมานั่งกังวลว่าพนักงานนั้น ทำงานจริงหรือไม่ และนี่คือปัจจัยแห่งความสำเร็จในการนำนโยบาย workation มาใช้ให้เกิดประสิทธิผล
ที่มา – Japan Today
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา