ญี่ปุ่น เดินหน้าดึงดูดนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก พยายามคิดหากิจกรรมใหม่ๆ หวังเม็ดเงินช่วยฟื้นฟูประเทศได้เร็วขึ้น
เรื่องดึงดูดนักท่องเที่ยวรวยๆ เข้าประเทศนี้ ญี่ปุ่นไม่ได้เพิ่งเริ่มทำ ก่อนหน้านี้ ก็พยายามลดมาตรการหรือขั้นตอนในการเข้าไปพำนักพักพิงในประเทศเพิ่มขึ้นเพราะหวังว่ารายได้จากกลุ่มนักท่องเที่ยวคนรวยนี่แหละที่จะช่วยฉุดรั้งให้ประเทศหลุดพ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะหลังโควิดระบาดเป็นต้นมา
ล่าสุด ไม่ใช่แค่ต้องมาพำนักพักอาศัยอยู่ญี่ปุ่นเป็นเวลายาวนาน แต่แค่เพียงแวะไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ถือว่าพอใจแล้ว เรื่องนี้ Japan Today รายงานว่า ญี่ปุ่นกำลังดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น โดยยกตัวอย่างการท่องเที่ยวของกลุ่มคนรวยขึ้นมา เช่น การเที่ยวด้วยการโดยสารเฮลิคอปเตอร์แบบ On demand คือท่องเที่ยวตามความต้องการของนักท่องเที่ยว ไปจนถึงการล่องเรือยอร์ชส่วนตัว เหล่านี้ถือเป็นการใช้เงินแบบกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับ Ultra-rich
การท่องเที่ยวแบบมีจุดหมายปลายทางที่คนทั่วๆ ไปชอบไปก็คือ โตเกียว เกียวโต ไปจนถึงโอซากา แต่การท่องเที่ยวในกลุ่มคนรวยคือ การสนองความต้องการในที่ที่คนรู้จักน้อย คนเข้าถึงยาก มีวัฒนธรรมที่มีความเฉพาะตัว พิเศษ ไม่เหมือนใคร เรื่องนี้ Shintaro Masuda ผู้ก่อตั้งและ CEO แห่ง Blank Marketing & Management Ltd. ให้ความเห็นไว้ว่า การจะดึงเงินออกจากกลุ่มคนรวยได้ มีอยู่สองอย่าง ก็คือทั้งจากการท่องเที่ยวและการพยายามเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจังหวัดต่างๆ ให้มีแหล่งดึงดูดที่น่าสนใจมากขึ้น
ตัวอย่างจากบริษัทร่วมทุนในจังหวัด Mie ที่พัฒนาแอพพลิเคชันที่เรียกว่า Airc ขึ้นมา เป็นแอพที่ทำขึ้นเพื่อให้เรียกใช้บริการเฮลิคอปเตอร์ได้ตามความพอใจ เพื่อให้ผู้ใช้บริการ เรียกบริการจากพื้นที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งในญี่ปุ่นได้ เหมือนใช้บริการเรียกรถผ่านแอพแบบ Uber ซึ่งผู้ใช้บริการที่ต้องการเดินทางโดยเลี่ยงรถติดในเมืองหลวง อยากจะเดินทางจากโตเกียวไปภูเขาไฟฟูจิภายใน 30 นาที ก็สามารถเรียกแอปแล้วทำการจองเฮลิคอปเตอร์ได้ หลังจากนั้นแอพฯ ก็จะจัดส่งเฮลิคอปเตอร์มารับลูกค้าและนำไปส่งยังลานจอดเฮลิคอปเตอร์ตามจุดหมายที่กำหนด
นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างจาบริษัท Blank Marketing & Management ที่พยายามจะพัฒนาแพลตฟอร์มที่เตรียมจะปล่อยให้ใช้บริการภายในฤดูร้อนหน้า ด้วยการพร้อมเสิร์ฟบริการทุกรูปแบบ ทั้งจัดหาที่พัก จองร้านอาหาร และจัดเตรียมกิจกรรมให้ผ่านระบบการแชทโต้ตอบกับลูกค้าได้ เช่น ถ้าลูกค้าต้องการกินหอยเม่นหรือเม่นทะเล แอพฯ ก็จะจัดหาร้านอาหารที่ดีที่สุดทั่วประเทศให้ โดยระบุร้านอาหาร กำหนดเส้นทาง และทำการจองสิ่งที่จำเป็นให้ทั้งหมด
ซีอีโอ Masuda กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวแบบหรูนี้ จะเป็นกลุ่มคนที่ต้องการเห็นในสิ่งที่ปกติชีวิตเขาไม่เคยเห็น หรือต้องการรับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้รับมาก่อน แอพฯ จะหาทางตอบสนองความต้องการของลูกค้าเหล่านี้
ทั้งนี้ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (Japan National Tourism Organization: JNTO) นิยามกลุ่มนักท่องเที่ยวเศรษฐีว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง (high-value travelers) คือผู้ที่ใช้จ่ายเงินในการไปเยือนญี่ปุ่นต่อครั้งราว 1 ล้านเยนหรือประมาณ 7,000 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2.56 แสนบาท
ข้อมูลจากกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมและการท่องเที่ยว ญี่ปุ่น ระบุว่า นักท่องเที่ยวมูลค่าสูงมาจาก 6 ประเทศ ดังนี้ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย และจีน คิดเป็น 1% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด แต่สามารถสร้างรายจ่ายจากการเดินทางได้มากถึง 11.5%
ที่มา – Japan Today
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา