แจ๊ค หม่า: ถ้าชาติหน้ามีจริง จะไม่ทำธุรกิจแบบนี้อีก ผมอยากมีความสุขกับชีวิตของตัวเอง

Jack Ma แจ๊ค หม่า

ข่าวการเตรียมวางมือของแจ๊ค หม่าแห่ง Alibaba สร้างความสนใจให้กับคนทั่วโลก เพราะนี่เป็นการประกาศแผนการสืบต่อกิจการครั้งแรกของบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในเอเชีย

  • ปัจจุบัน Alibaba มีมูลค่ากิจการ 4.2 แสนล้านดอลลาร์ และมีพนักงานอยู่ในอาณาจักรมากถึง 86,000 คน

แต่รู้หรือไม่ว่า แจ๊ค หม่าเคยพูดถึงความในใจของการก่อตั้ง Alibaba และชีวิตหลังการวางมือไว้หลายครั้งแล้ว

ถ้าชาติหน้ามีจริง จะไม่ทำธุรกิจแบบนี้อีก

หม่าเคยพูดถึงการก่อตั้ง Alibaba ไว้ว่า “สิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต คือการก่อตั้ง Alibaba” เพราะ “ผมแค่ต้องการทำธุรกิจเล็กๆ ขึ้นมาอันหนึ่ง และไม่ได้ต้องการให้มันใหญ่โต เพราะ[ถ้าใหญ่โต]มันต้องใช้ความรับผิดชอบสูง รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่ตามมาอีกมากมายด้วย”

ถ้าชาติหน้ามีจริง (If I still can have a next life – ถ้าแปลตรงๆ จะได้ว่า ถ้าผมยังสามารถมีชีวิตในชาติหน้า) ผมจะไม่ทำธุรกิจแบบนี้อีก ผมจะเป็นตัวของตัวเอง ผมต้องการมีความสุขกับชีวิต”

“ทุกๆ วันก็ยุ่งเหมือนกับเป็นประธานาธิบดี และผมไม่มีอำนาจใดๆ (น่าจะหมายความว่า ไม่มีอำนาจแบบประธานาธิบดี) ผมไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง”

ไม่ขอตายในออฟฟิศ แต่ขอจบชีวิตที่ชายหาด

ก่อนหน้าที่แจ๊ค หม่าจะส่งไม้ต่อตำแหน่งซีอีโอให้กับแดเนียล จาง ในปี 2015

ย้อนไปก่อนหน้านั้น 2 ปี คือในปี 2013 ในขณะนั้น หม่ายังเป็นซีอีโอของ Alibaba หม่าเคยบอกไว้ว่า “ตอนที่ผมวางมือจากตำแหน่งซีอีโอ ผมบอกกับทีมว่า ผมควรจะมีเวลาไปตีกอล์ฟที่ชายหาด” พร้อมทั้งบอกว่า “ผมไม่ขอตายในออฟฟิศของตัวเอง ผมต้องการจบชีวิตที่ชายหาด”

ประเด็นก็คือ แม้หม่าจะไม่ได้นั่งเป็นซีอีโอของ Alibaba มาตั้งแต่ปี 2015 และเขาก็ไม่ต้องลงไปปฏิบัติงานเองทั้งหมด แต่เขาจำเป็นต้องใช้เวลาส่วนใหญ่เดินทางไปในหลายที่ทั่วโลก เพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับบริษัทในการพบปะกับบรรดาผู้นำทั้งทางด้านธุรกิจและการเมืองทั่วโลก

มีข้อมูลระบุว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีคลิปวิดีโอที่แชร์กันในโลกออนไลน์ พบว่า แจ๊ค หม่าแสดงอาการเหนื่อยล้าในงานประชุมเรื่องปัญญาประดิษฐ์ โดยก่อนหน้านั้น 1 วัน เขาเพิ่งกลับมาจากงานที่ฮ่องกงตอน 4 ทุ่ม และเข้าพบประธานาธิบดีของฝรั่งเศสในเช้าวันนั้น

  • เข้าใจว่า เหตุการณ์ทำนองนี้น่าจะเกิดกับหม่าอยู่บ่อยครั้ง และนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่ขอตายในออฟฟิศ แต่ขอจบชีวิตที่ชายหาดก็เป็นได้
แจ๊ค หม่า Jack Ma
Photo: Shutterstock

ช่วงที่มีความสุขที่สุด คือตอนเป็นครู และมีรายได้ 433 บาทต่อเดือน

ทุกคนน่าจะได้เห็นข่าวกันแล้วว่า แจ๊ค หม่าจะกลับไปทำงานด้านการศึกษาอีกครั้ง หลังจากวางมือจากตำแหน่งประธานกรรมบริษัทในปีหน้า โดยจะส่งไม้ต่อให้กับแดเนียล จาง ซีอีโอคนปัจจุบัน

ถ้าใครที่ตามข่าวของหม่ามาโดยตลอด คงไม่แปลกใจ เพราะเขาพูดถึงการจะกลับไปทำงานด้านการศึกษาที่เขารักมาโดยเสมอ

ตามประวัติแล้ว หม่าเคยสอนภาษาอังกฤษอยู่ที่โรงเรียนในหางโจวกว่า 6 ปี และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน 10 ของคุณครูรุ่นใหม่ที่มีวิธีการสอนที่โดดเด่นที่สุดในปี 1994

หม่าเคยพูดถึงการทำธุรกิจไว้ว่า “ผมไม่เคยถูกฝึกมาให้ทำธุรกิจ ไม่เคยเป็นแม้กระทั่งนักบัญชีหรือโปรแกรมเมอร์ สิ่งเดียวที่ผมทำ คือเรียนรู้และถ่ายทอดแบ่งปัน ผมทำงานเป็นผู้ประกอบการแบบเดียวกันกับที่ผมเป็นครู”

หม่าเรียกตัวเองใน Alibaba ว่าเป็น CEO ที่มาจากคำว่า Chief Education Officer หรือประธานด้านการศึกษาของบริษัท (โดยปกติ CEO มาจากคำว่า Chief Executive Officer หรือ ประธานกรรมการบริหารของบริษัท) เพราะฉะนั้น ด้วยจิตวิญญาของความเป็นครู หม่าจึงต้องการให้คนรุ่นใหม่ในองค์กร (ลูกศิษย์) มาแทนที่ตำแหน่งของเขา และที่สำคัญต้องไปได้ไกลกว่าอาจารย์ของตัวเอง

นอกจากนั้น หม่ายังเคยบอกไว้ด้วยว่า “ช่วงที่มีความสุขที่สุดในชีวิต คือตอนที่เป็นครูจนๆ ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง และมีรายได้เพียง 91 หยวนต่อเดือน” (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 433 บาท)

ข้อมูล – South China Morning Post

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา