หลังจากที่คนไอทีอินเดียต้องตกงานกันระนาว เพราะทักษะไม่ถึงตามที่ตลาดต้องการ ล่าสุด มีสตาร์ทอัพให้คำปรึกษาชีวิตไปจัดแคมเปญ พบว่า คนไอทีอินเดียที่ตกงานกำลังย่ำแย่ ทั้งสภาพจิตใจ และสถานะทางการเงิน แต่ไม่กล้าบอกใคร
ตกงาน กระทบจิตใจ ส่วนใหญ่เป็นคนไอที ต้องให้คำปรึกษา
สตาร์ทอัพในอินเดียที่ชื่อว่า YourDost (Dost แปลว่า เพื่อน ในภาษาฮินดู) ได้จัดแคมเปญ 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน – 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อให้คำปรึษาชีวิตกับคนอินเดียที่ตกงาน ปรากฏว่า ได้รับการสอบถามมากกว่า 1,000 ครั้ง มีการโทรมาเข้ามาถึง 260 สาย และแชทเข้ามาอีกกว่า 800 ข้อความ โดยส่วนใหญ่นั้นระบุถึงภาวะซึมเศร้าและความรู้สึกกังวลจิตใจที่ได้เผชิญ
สาเหตุมาจาก บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ในอินเดียทยอยปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง เอาแค่ 3 บริษัทคือ Infosys, Wipro, และ Cognizant ก็ปลดไปพนักงานไปแล้วกว่า 56,000 คนในปีนี้ แถมมีการคาดการณ์ไว้ว่า ในวงการไอทีอีก 5 ปี คนอินเดียจะตกงานไม่ต่ำกว่า 600,000 คนอีกด้วย
มีสถิติจาก YourDost ที่น่าสนใจ โดยรวบรวมจากการให้คำปรึกษา ดังนี้
- 62.5% ของคนตกงานโทรมาขอความช่วยเหลือจากอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล เนื่องจากความรู้สึกไม่มั่นคงในสถานะทางการเงิน
- 63% ของคนตกงานที่มาขอคำปรึกษา มีเงินออมน้อยกว่ารายจ่ายที่ต้องใช้ถึง 3 เดือน
- 57% ไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อน
- ส่วนใหญ่ทำงานได้ไม่ถึง 2 ปี แต่ตกงานมาแล้วเกิน 3 เดือน
- เมืองบังคาลอร์มียอดขอคำปรึกษาสูงสุด 15% ตามมาด้วยมหาราษฏระที่ 12% และเดลี 11%
นอกจากนั้น ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัย East Anglia พบว่า “การสูญเสียงานเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์ มากกว่าการเป็นหม้ายหรือหย่าร้างเสียอีก” เพราะคนที่ตกงานมีแนวโน้มต้องการการฟื้นฟูจิตใจด้วยงานใหม่ที่จ่ายสูงกว่าเดิม หรือไม่ก็มีศักดิ์ศรีมากกว่าเดิม ถึงจะช่วยเยียวยาสภาพจิตใจได้
สรุป
การปลดพนักงานกันเป็นจำนวนมากในวงการไอทีอินเดีย ทำให้คนที่ตกงานซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น “professional” สูญเสียทั้งงาน เงิน และศักดิ์ศรี เมื่อสตาร์ทอัพให้คำปรึกษาชีวิตมาเปิดให้บริการจึงได้ผลตอบรับดี แต่เอาเข้าจริงแล้ว ต้นเหตุของการตกงานในภาคไอทีอินเดียมาจากทักษะที่ไม่ถึงเกณฑ์ที่ตลาดต้องการ ทางออกจึงมี 2 ทางคือ พัฒนาทักษะ หรือไม่ก็ต้องหาอย่างอื่นทำ เพราะวงการนี้แข่งขันกันที่ฝีมือ ถ้ามือไม่ถึง ตลาดก็คงไม่ดึงตัวไปร่วมด้วย
ที่มา – techinasia
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา