หลังจากใช้โมเดลเดิมทำตลาดมาเป็น 10 ปี ในที่สุด Isuzu อีกพี่ใหญ่ในวงการรถกระบะไทยก็เปิดตัว D-Max โฉมใหม่เสียที โดยครั้งนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่มากมาย ส่วนการออกแบบนั้นยังมีหน้าตาคล้ายรุ่นเดิม
ตลาดรถกระบะไทย 6.4 แสนคันสนุกแน่
ภาพรวมการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยเมื่อปี 2561 อยู่ราว 1 ล้านคัน แต่กว่า 2 ใน 3 ของตัวเลขนี้เป็นรถกระบะ ผ่านจำนวนราว 6.4 แสนคัน จึงไม่แปลกที่ตลาดรถกระบะนั้นถูกให้ความสำคัญจากค่ายผู้ผลิตรถยนต์ และพร้อมมีหน้าใหม่เข้ามาชิงแชร์ในตลาดนี้ตลอดเวลา
แต่แม้ว่ายักษ์ใหญ่อย่าง Toyota จะส่งรุ่นใหม่มาเขย่าตลาดแค่ไหน หรือค่ายสหรัฐอเมริกา รวมถึงจีนที่พยายามสร้างความแตกต่างให้กับตลาดรถกระบะ แบรนด์ Isuzu ที่เน้นจำหน่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ก็ยังเติบโต และครองตำแหน่งผู้นำอันดับต้นๆ ของตลาดนี้ไว้ได้
ยิ่งล่าสุด Isuzu ประกาศเปิดตัว D-Max รุ่นใหม่หลังทำตลาดรุ่นก่อนหน้านี้มาเป็น 10 ปี ก็ทำตลาดนี้ต้องคึกคักแน่ๆ เพราะเมื่อปลายปี 2560 ทาง Toyota ได้ส่งรุ่น Minor Change ให้กับ Hilux Revo พร้อมทำโมเดลใหม่ๆ ออกมาตอบโจทย์ตลาดไทย รวมถึงในปี 2562 ก็มีแบรนด์ MG เข้ามารุกตลาดรถกระบะด้วย
ออฟชั่นจัดเต็ม ส่วนการตกแต่งยังคล้ายเดิม
ภาพรวมของ D-Max รุ่นใหม่นั้นแบ่งเป็น 5 รุ่นหลักคือ
- D-Max V-Cross ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยกสูง มีทั้งแบบแค็บ และ 4 ประตู
- D-Max Hi-Lander ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง มีทั้งแบบแค็บ และ 4 ประตู
- D-Max Cab4 ขับเคลื่อน 2 ล้อ ตัวเตี้ย 4 ประตู
- D-Max Spacecab ขับเคลื่อน 2 ล้อ ตัวเตี้ย แบบแค็บ
- D-Max Spark กระบะตอนเดียว ตัวเตี้ย มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ
เรียกว่าออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกกลุ่ม แถมยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 แบบคือ 1.9 ลิตรเทอร์โบ และ 3.0 ลิตรเทอร์โบ เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ ทำให้ D-Max ของ Isuzu แตกต่างกับ Toyota ที่เน้นทำตลาดเครื่องใหญ่เป็นหลัก และยังเป็นผู้นำให้ผู้ผลิตกระบรายอื่นๆ เริ่มหันมา Downsizing เครื่องยนต์เพื่อตอบโจทย์เรื่องประหยัดน้ำมัน
ในทางกลับกันการตกแต่งภายใน-ภายนอกของ D-Max รุ่นใหม่นั้นยังมีความคล้ายรุ่นที่เดิมที่ทำตลาดมาเป็น 10 ปี เช่นตัวกระจังหน้า และแผงไฟท้าย ส่วนตัวออฟชั่นต่างๆ ที่ใส่เข้ามานั้นค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานของคนไทย เช่นหน้าจอสัมผัสที่คอนโซลกลาง, แอร์หลัง และกล้องหลัง รวมถึงเซ็นเซอร์ช่วยจอด
ฆ่าไม่ตายด้วยราคาตั้งแต่ 5.1 แสน – 1.15 ล้านบาท
สำหรับตัวราคาของ D-Max รุ่นใหม่ของ Isuzu นั้นเริ่มต้น 5.1 แสนบาท จนไปถึง 1.15 ล้านบาท ใกล้เคียงกับคู่แข่งแบรนด์อื่นๆ แต่ก็แลกมากับศูนย์บริการ และค่าอะไหล่ ที่ค่อนข้างตอบโจทย์คนไทย จนถึงตอนนี้ Isuzu จำหน่ายแค่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ก็สามารถยึดตำแหน่งหนึ่งในผู้นำของตลาดนี้ได้
ส่วนตัวผู้เขียนเชื่อว่า D-Max โฉมใหม่ของ Isuzu นั้นถ้าหากมองแค่ภายนอกอาจเป็น Minor Change มากกว่า Model Change เพราะยังคง DNA ของรุ่นก่อนหน้านี้ไว้พอสมควร แต่เมื่อมาดูภายในนั้นต่างกันมาก โดยเฉพาะในรุ่นยกสูง-ขับสี่ เพราะจัดเต็มเรื่องเทคโนโลยี และการออกแบบที่ล้ำกว่ารุ่นเดิมของ Isuzu ค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตามในตลาดรถกระบะตอนนี้ Triton ของ Mitsubishi เพิ่งเปิดตัวรุ่น Minor Change ไป ประกอบกับทาง Toyota เองก็พยายามเร่งทำตลาด Hilux Revo รุ่นย่อยต่างๆ ให้โดนใจตลาดที่สุด ส่วนแบรนด์สหรัฐอเมริกาตอนนี้อาจดูเงียบๆ แต่ที่เงียบที่สุดคงไม่พ้น Mazda ที่อีกไม่นานคงเตรียมตัวออกรุ่นใหม่แล้ว
สรุป
หาวัดยอดขายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ตามตัวเลขของ Toyota ในปี 2561 ทาง Isuzu นั้นตามหลัง Toyota เพียงไม่กี่หมื่นคัน แถมก่อนหน้านี้ Isuzu ยังขึ้นเป็นอันดับหนึ่งได้ ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่า การเปิดตัว D-Max โฉมใหม่จะทำให้ Isuzu กลับมาเป็นเบอร์หนึ่งในใจคนไทยอีกครั้งก็เป็นได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา