ปลายปี 2020 ที่ผ่านมาอิสราเอลก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ต้องแย่งชิงวัคซีนต้านโควิดเหมือนกับประเทศอื่นๆ เช่นกัน อิสราเอล ประเทศที่มีประชากรเกือบ 10 ล้านคน มีนักการเมือง 2 คนให้คำมั่นว่าจะเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีการฉีดวัคซีนเร็วที่สุดในโลกและจะแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวกับผลกระทบจากโควิดระบาดด้วย บริษัทผลิตยา Pfizer ตกลงจัดส่งวัคซีนให้อิสราเอลตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา
Prime Minister Benjamin Netanyahu and Health Minister Yuli Edelstein received the second dose of the anti-corona virus vaccine this evening.
PM Netanyahu: "I am certain that all citizens of Israel who are about to receive the second dose of the vaccine are excited like me." pic.twitter.com/hdcYIirnih
— PM of Israel (@IsraeliPM) January 9, 2021
Yuli Edelstein รัฐมนตรีสาธารณสุขระบุว่า บริษัทวัคซีนสามารถกอบโกยกำไรได้มากตราบเท่าที่บริษัทสามารถจัดส่งวัคซีนได้รวดเร็ว
บางบริษัทประสบปัญหาส่งวัคซีนต้านโควิด-19 ช้า ทั้งนี้พลเมืองอิสราเอลฉีดวัคซีนโดสแรกไปแล้วกว่า 2.6 ล้านคน และโดสที่สองกว่า 1.1 ล้านคน ส่วนใหญ่คนที่ได้รับวัคซีนคือคนที่มีอายุมากว่า 60 ปี Netanyahu นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุว่า ประเทศเขาฉีดวัคซีนเร็วกว่าสหรัฐฯ 10 เท่า ไม่มีประเทศไหนทำได้ อย่างไรก็ดี อิสราเอลกำลังเตรียมการเลือกตั้งใหม่ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้
นอกจากจะฉีดวัคซีนต้านโควิดอย่างรวดเร็วแล้ว วัคซีนที่พรีออเดอร์ไว้ทั้งของ Moderna และ AstraZeneca ก็เตรียมจัดส่งให้ภายในเดือนมีนาคมนับล้านโดส แม้จะมีการพูดถึงบ้างว่าอิสราเอลอาจจะสต็อกวัคซีนไว้เกินจำเป็นแต่รัฐมนตรีสาธารณสุขก็ออกมาปฏิเสธรายงานดังกล่าว
รัฐมนตรีสาธารณสุขอิสราเอลระบุว่า เราไม่ได้อยู่ในธุรกิจที่ต้องมีการสต็อกวัคซีนต้านโควิดมากเป็นพิเศษ แต่ที่พรีออเดอร์หรือสั่งซื้อไว้ในปริมาณมากก็เพื่อต้องการทำให้แน่ใจว่าจะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับการใช้งาน นอกจากนี้ยังมองว่าการกระจายวัคซีนไปยังปาเลสไตน์นั้นไม่ใช่หน้าที่ของอิสราเอล อิสราเอลจะดูแลประชาชนเป็นอันดับแรกเพราะเป็นผู้จ่ายภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย ปาเลสไตน์ต้องดูแลตัวเอง
Prime Minister Netanyahu and Health Minister Edelstein welcomed a shipment of @pfizer anti-corona virus vaccines.
"This is a great day for Israel with a huge shipment that has arrived in the framework of Operation Back to Life, a plane full of injections of encouragement." pic.twitter.com/yW1JYzmhYs
— PM of Israel (@IsraeliPM) January 10, 2021
แม้องค์การสหประชาชาติระบุว่า ตามสนธิสัญญาออสโลต้องปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ ต้องรับผิดชอบด้านสาธารณสุขแก่พื้นที่ที่ยึดครองหรือจนกว่าจะยุติการยึดครองนั้น ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติเรียกร้องให้อิสราเองขยายโครงการฉีดวัคซีนไปยังชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เวสต์แบงค์และฉนวนกาซ่าที่อิสราเอลยึดครองอยู่
ด้านปาเลสไตน์ก็กำลังรอวัคซีนจากรัสเซีย วัคซีน Sputnik V และรอการจ่ายแจกวัคซีนจากโครงการเสาหลักแห่งวัคซีน Covax ด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนระบุว่า หากอิสราเอลไม่ฉีดวัคซีนให้ชาวปาเลสไตน์ในบริเวณที่ถูกยึดครองนั่นหมายความว่ากว่า 4.5 ล้านคนจะยังไม่ได้รับการป้องกันจากโควิด-19 นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรมและกฎหมาย การเพิกเฉยต่อวิกฤตด้านสาธารณสุขดังกล่าวเป็นเรื่องที่แย่เกินกว่าจะรับได้
อย่างไรก็ตาม ชาวอิสราเอลฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสแรกไปแล้วราว 40% ซึ่งก็มีการศึกษาพบว่า ผู้สูงวัยที่อายุเกิน 60 ปีที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อยราว 60% ติดเชื้อโควิดใหม่
PM Netanyahu: "I am certain that our amazing HMO medical teams and of course the nurses whose enthusiasm I can see, how they come to work with great energy together with the doctors, and MDA and Health Ministry personnel; all of them together, they will get this done." pic.twitter.com/SeTEZ3cK7V
— PM of Israel (@IsraeliPM) January 10, 2021
ที่มา – Financial Times, Independent
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา