ตลาดหุ้นไทยในช่วงหลายปีอยู่ในสภาพเสือลำบาก เพราะเราหาหุ้นเติบโตไม่ได้ ขาดหุ้นในอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์ควบคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก เพราะเราขาดความรู้ตลอดจนเทคโนโลยี เพื่อใช้ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม หรือเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ความสามารถในการขยายตัวไปในตลาดอื่นๆ ที่เติบโตก็เป็นไปอย่างจำกัด เพราะเราขาดความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ ครั้นจะพึ่งพิงการบริโภคภายในประเทศก็เติบโตอย่างจำกัด เพราะสภาวะเศรษฐกิจสังคมการเมืองภายในประเทศไม่เอื้อ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็พยายามอัดใส่กันเข้าไป แต่ก็มาชะงักด้วยปัญหาวิกฤตโควิด-19 และความวุ่นวายต่างๆ ในประเทศกันเองอีก จึงไม่แปลกใจที่หุ้นไทยเลยไม่ไปไหน โอกาสการลงทุนตอนนี้จึงต้องเป็นการควานหาหุ้น เพื่อหาโอกาสหมุนเวียนซื้อขายทำกำไรช่วงสั้นกันมากกว่าการที่จะลงทุนระยะยาวโดยหวังการเติบโต
การลงทุนในหุ้นต่างประเทศจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้มีการหยิบยกพูดคุยกันมาเสมอ โดยเฉพาะในแง่ของการกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท เพื่อให้มีการกระจายความเสี่ยง ซึ่งถ้าดูแค่การเปลี่ยนแปลงของดัชนีตลาดหุ้น ในปีนี้ที่ทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ดัชนี SET Index จากต้นปีมาตอนนี้ยังติดลบร้อยละ 20 ในขณะที่ดัชนี Nasdaq ของตลาดหุ้นอเมริกาบวกไปกว่าร้อยละ 30 และถ้าถอยหลังออกไปดูหลายๆ ปี ก็จะยิ่งพบว่าในแต่ละปีตลาดหุ้นไทยเราบวกลบไปมาไม่ไปไหน ในขณะที่ตลาด Nasdaq ที่มีหุ้นที่มีการเติบโตสูงนั้นโตเอาทุกปี
โดยเมื่อได้ไปดูสถิติที่ลูกค้าของหลักทรัพย์บัวหลวงได้ลงทุนตรงในตลาดหุ้นต่างประเทศ คือ ตลาดหุ้นอเมริกา ฮ่องกง และเวียดนามในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มีผลตอบแทนเป็นบวกและเป็นกอบเป็นกำสำหรับหลายๆ ท่าน เมื่อเปรียบเทียบกับผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นไทยที่ส่วนใหญ่ยังผันผวนกันหลายปีแล้ว ทำให้ตอนนี้การลงทุนต่างประเทศจึงเป็นกระแสที่คึกคักมาก เพราะเราสามารถเลือกหุ้นรายตัวได้หลากหลายและเป็นหุ้นที่มีการเติบโตสูง และที่สำคัญ คือ สร้างผลตอบแทนได้ดีด้วย โดยมีทีมงานเราให้คำแนะนำ และสำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ยังไม่สะดวกในการไปซื้อหุ้นต่างประเทศโดยตรงก็สามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้เช่นกัน เพราะเป็นวิธีการที่ง่าย สะดวก และเหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาติตตามการลงทุน ด้วยวิธีการซื้อขายก็ทำได้ง่ายๆ ผ่านออนไลน์ ด้วยแอปพลิเคชัน Streaming for Fund
ล่าสุดผมได้ลองซื้อกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ ตามที่ทีมงานกองทุนรวมเราแนะนำ โดยผมได้ทยอยซื้อ กองทุน ONE-UGERMF ซึ่งเป็นกองทุน RMF ลงทุนในหุ้นต่างประเทศแบบแอคทีฟ เมื่อเดือนกันยายนที่แล้วนี้เอง และอีกกองคือ กองทุนรวม BCAP USND100 ที่ลงทุนใน Invesco QQQ Trust กองทุน ETF ที่ล้อตามดัชนี Nasdaq100 บริษัทชั้นนำเติบโตเร็วในกลุ่ม IT ที่ผ่านไปไม่ถึงเดือนมีผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนรวม RMF หุ้นไทยที่สะสมมาหลายปีก่อนหน้านี้ด้วย เลยทำให้นึกครับว่า บางทีการลงทุนหุ้นต่างประเทศที่เรามองว่า เป็นทางเลือกการลงทุนในการกระจายความเสี่ยง อาจกลายเป็นทางเลือกที่ต้องเลือก หากเรายังอยากให้เงินลงทุนเติบโต ภายใต้สภาพเศรษฐกิจการเมืองของไทยเราที่ยังไม่ไปไหนกันแบบนี้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา