แล้ว ‘สี จิ้นผิง’ จะคิดยังไง? ‘ทรัมป์’ ทำดีลแร่แรร์เอิร์ธกับ ‘ญี่ปุ่น’ ก่อนจะไปจีนในอีกไม่กี่วัน

ถ้านี่เป็น ‘สี จิ้นผิง’ ก็คงจะนอยด์มากๆ ….

หลังจากที่ประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เดินทางเยือนหลายประเทศเพื่อลงนามข้อตกลงสำคัญ ล่าสุดเขามาที่ญี่ปุ่น เพื่อพบนายกรัฐมนตรี ‘ซานาเอะ ทากาอิจิ’ และลงนามข้อตกลงสำคัญที่กรุงโตเกียว

‘ทากาอิจิ’ ย้ำว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘ยุคทองใหม่’ ของความสัมพันธ์สหรัฐ-ญี่ปุ่น

ข้อตกลงแรกยืนยันการลงทุนของญี่ปุ่นในสหรัฐฯ มูลค่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 17.91 ล้านล้านบาท) ครอบคลุม 7 ภาคธุรกิจหลัก เพื่อเร่งสร้างความสามารถแข่งขันในอนาคต ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ AI พลังงาน แรร์เอิร์ธ การต่อเรือ ยา และ อวกาศ

ข้อตกลงนี้มากับสหรัฐฯ จะลดอัตราภาษีนำเข้าญี่ปุ่นสูงสุดเหลือ 15% และการเปิดตลาดสำคัญให้บริษัทญี่ปุ่น รวมถึงการนำเข้ารถยนต์ และสินค้าทางการเกษตร

ข้อตกลงอีกฉบับเป็นกรอบความร่วมมือด้านแรร์เอิร์ธ และแร่ธาตุสำคัญ ทั้งสองประเทศจะร่วมระบุโครงการสำคัญ สนับสนุนทางการเงินภายในหกเดือน พร้อมเร่งกระบวนการอนุญาต เพื่อขยายการผลิต และการแปรรูปนอกจีน

เป้าหมายคือ ลดความเสี่ยงของซัพพลายเชน และสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

‘ทากาอิจิ’ ใช้โอกาสนี้ยกย่อง ‘ทรัมป์’ ในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระดับโลก ตั้งแต่อาเซียนจนถึงตะวันออกกลาง และเสนอ ‘ทรัมป์’ เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

‘ทรัมป์’ เองก็ชื่นชม ‘ทากาอิจิ’ พร้อมสนับสนุนการขยายศักยภาพทางทหาร และการค้าร่วมกัน

พบปะจีนสัปดาห์นี้

‘ทรัมป์’ มีกำหนดพบกับประธานาธิบดี ‘สี จิ้นผิง’ ที่เกาหลีใต้ในสัปดาห์นี้ ระหว่างการประชุม Apec ช่วงท้ายของทริปเอเชียที่แวะมาเลเซียและญี่ปุ่น โดย ‘ทรัมป์’ ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายมีหลายประเด็นสำคัญต้องหารือ ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดจากสงครามการค้า และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์

ประเด็นหลักของการพูดคุยครั้งนี้ คือมาตรการทางการค้าและภาษี หลัง ‘ทรัมป์’ ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 100% เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายน เพื่อตอบโต้การควบคุมการส่งออกแรร์เอิร์ธของจีนที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญต่อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

จีนเป็นผู้ผลิต และมีอำนาจทางการแปรรูปแรร์เอิร์ธเกือบทั้งโลก การจำกัดการส่งออกของจีน ทำให้หลายประเทศเริ่มกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของซัพพลายเชน และความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

มีการวิเคราะห์ว่า จีนอาจใช้แรร์เอิร์ธเป็นเครื่องต่อรอง เพื่อผลักดันให้สหรัฐฯ ทบทวนภาษี 20% ที่เชื่อมโยงกับประเด็นเฟนทานิล ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ เริ่มหาพันธมิตรด้านวัตถุดิบหายากกับประเทศอื่น เช่น ออสเตรเลียและไทย

ประเด็นนี้คาดว่า จะเป็นหัวข้อสำคัญบนโต๊ะเจรจาระหว่าง ‘ทรัมป์’ และ ‘สี จิ้นผิง’ สะท้อนว่าแรร์เอิร์ธ กำลังกลายเป็นอาวุธใหม่ในเกมมหาอำนาจ เหมือนที่พลังงานและเทคโนโลยีเคยเป็น

สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น พยายามสกัดจีน

นักวิเคราะห์มองว่า ข้อตกลงเหล่านี้ไม่เพียงเปิดยุคทองทางเศรษฐกิจ และพันธมิตร แต่ยังสะท้อนความพยายามของสหรัฐฯ และญี่ปุ่นในการสกัดอิทธิพลจีน ผ่านการสร้างซัพพลายเชนแร่สำคัญ และการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นตั้งเป้าเพิ่มงบกลาโหมเป็น 2% ของ GDP เร็วขึ้นสองปี เพื่อแสดงความพร้อมต่อความมั่นคงร่วมกับสหรัฐฯ ‘ทากาอิจิ’ และ ‘ทรัมป์’ จะร่วมประชุมกับภาคธุรกิจเพื่อผลักดันการลงทุนจริง

ขณะที่กรอบความร่วมมือด้านแรร์เอิร์ธจะช่วยให้สองประเทศควบคุม และกระจายแหล่งวัตถุดิบสำคัญ ลดการพึ่งพาจีน

การประชุมครั้งนี้สะท้อนว่า ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ญี่ปุ่นไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่เป็นเครื่องมือเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ซึ่งทั้งสองฝ่ายหวังว่าจะสร้างความมั่นคงและผลประโยชน์ระยะยาวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

ที่มา: White House, Nikkei Asia, Japan Times, The Guardian

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา