วันหยุดยาวอาจเต็มไปด้วยสิ่งล่อตาล่อใจและโอกาสต่างๆ มากมาย แต่สำหรับอาชญากรผู้ประสงค์ร้ายแล้ว วันพักผ่อนของคุณกลับกลายเป็นโอกาสให้พวกเขาคิดค้นวิธีการก่อภัยคุกคามได้อย่างแยบยล คุณมีแผนออกเดินทางท่องเที่ยวเร็วๆ นี้หรือไม่? แล้วคุณทราบหรือไม่ว่านักท่องเที่ยวมักตกเป็นเหยื่อของอาชญากรไซเบอร์ที่ฉวยโอกาสจากความประมาทของนักเดินทางและช่องโหว่ในอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ เพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเป้าหมาย พร้อมนำภัยร้ายมาสู่อุปกรณ์ของผู้ใช้งาน? การจู่โจมในรูปแบบนี้สามารถล้วงข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือที่ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัย แล็ปท็อป อุปกรณ์แบบสวมใส่ หรือแม้แต่ช่องทางอื่นๆ บนโลกโซเชียล
แกรี่ เดวิส หัวหน้าแผนกการรักษาความปลอดภัยของผู้บริโภค บริษัท อินเทล ซีเคียวริตี้ กล่าวว่า “ผู้บริโภคอาศัยเทคโนโลยีเพื่อติดต่อสื่อสารถึงกันทั้งในโลกออฟไลน์และโลกดิจิตอล ไม่ว่าจะในที่ทำงาน ที่บ้าน หรือยามหยุดพักร้อน ทั้งนี้ ผู้บริโภคออนไลน์มักใช้อุปกรณ์สื่อสารระหว่างการท่องเที่ยวเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญโดยไม่ได้คำนึงถึงภัยที่อาจเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เราจึงให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักและการให้คำแนะนำเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ดีในการท่องโลกออนไลน์ โดยจะตักเตือนให้ผู้บริโภคเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อเดินทางท่องเที่ยว”
หากวันหยุดยาวนี้คุณอยากหนีชีวิตวุ่นวายในเมือง หรือกำลังวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เรามีคำแนะนำดีๆ ในการรักษาความปลอดภัย และข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณสูญหายหรือถูกโจรกรรมระหว่างช่วงเวลาพักผ่อนหย่อนใจของคุณ:
· สร้างกำแพงป้องกันยามเล่นโซเชี่ยล: เรารู้ดีว่าการรอคอยที่สนามบินเป็นสิ่งที่แสนน่าเบื่อจนคุณต้องหันมาฆ่าเวลาบนโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดตสถานะ เช็คอิน หรือแชร์เซลฟี่สุดเป๊ะของคุณ แต่พฤติกรรมเหล่านี้มีแต่จะเป็นการช่วยให้อาชญากรสามารถตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ของคุณได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ผ่านทางความเคลื่อนไหวในโลกโซเชี่ยลของคุณ ก่อนจะลงมือฉวยโอกาสเมื่อคุณไม่ทันตั้งตัว
· คิดให้รอบคอบก่อนแชร์: ใครๆ ต่างก็ชอบบอกเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ต่างๆ ให้เพื่อนและครอบครัวฟังผ่านทางโซเชียลมีเดียกันทั้งนั้น แต่ขอให้จำไว้ว่าคุณไม่ควรเปิดเผยให้ใครก็ได้สามารถทราบว่าคุณกำลังจะไปพักร้อนที่ไหน เมื่อไหร่ ทางที่ดี คุณควรรอจนกลับถึงบ้านแล้วค่อยโพสต์ทุกอย่างที่ต้องการทีหลัง มิเช่นนั้น คุณอาจตกเป็นเป้าของผู้ประสงค์ร้ายที่มีแผนการก่อโจรกรรมเมื่อคุณไม่อยู่บ้านได้
· ใช้ Wi-fi และบลูทูธเมื่อจำเป็นเท่านั้น: ถึงอินเตอร์เน็ตจะราคาแพง แต่การเปิดใช้บลูทูธและ Wi-fi ระหว่างการท่องเที่ยวอาจกลายเป็นหนทางสู่หายนะได้ เนื่องจากการเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของคุณแก่อาชญากรไซเบอร์ คุณควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษหากต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินผ่านทาง Wi-fi และบลูทูธในที่สาธารณะ และคอยลบข้อมูลของเครือข่ายต่างๆ ที่อาจถูกบันทึกไว้สำหรับการเข้าใช้งานแบบอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น เน็ตเวิร์คที่ใช้ชื่อว่า “cafewifi”
· หมั่นตรวจสอบบัญชีส่วนตัว: ควรสังเกตความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่น่าสงสัยในประวัติการใช้งานบัญชีธนาคารของคุณอย่างสม่ำเสมอ หากไม่ตรวจสอบโดยละเอียด อาจพบในภายหลังว่าอาชญากรได้เข้าไปฉกฉวยข้อมูลหรือเงินในบัญชีของคุณเสียแล้ว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา