หากให้ทุกคนลองทายดูว่ากลุ่มอายุกลุ่มไหนที่มีสัดส่วนประชากรในไทยมากเป็นอันดับ 1 เชื่อว่าหลายคนก็คือเลือกที่จะตอบว่า Gen Y หรือ กลุ่ม Millennials และนั่นก็คือคำตอบที่ถูกต้องเพราะมีสัดส่วนประชากรจากสำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่า คนกลุ่มนี้มีจำนวนประชากรมากถึง 19 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 65 ล้านคนในประเทศไทย
กลุ่มคน Millennials คือใคร อายุเท่าไหร่กันบ้าง
Gen Y หรือกลุ่มคน Millennials คือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 2523 – 2540 อายุราวๆ 27-44 ปี ซึ่ง ณ เวลานี้ก็อยู่ในช่วงวัยทำงานกันเต็มตัวจนไปถึงวัยสร้างครอบครัวกันแล้ว จำนวนประชากรในกลุ่มอายุนี้ก็มากที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มประชากรในกลุ่มอื่นๆ รวมถึงเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อกลางค่อนไปสูง มีความหลากหลายไม่ว่าจะทั้งรสนิยม สังคม ความชอบ เป้าหมายในชีวิต รวมไปถึงเรื่องการมีลูกในอนาคตด้วย
กลุ่มคน Millennials ผ่านเหตุการณ์ วิกฤติต่างๆ มาค่อนข้างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติการณ์ทางการเมืองอย่างรัฐประหารมากกว่า 2 ครั้ง วิกฤติเศรษฐกิจเช่น ต้มยำกุ้ง วิกฤติโรคระบาดอย่างเช่น ไข้หวัดนก Covid-19 ซึ่งล้วนแต่ทำให้คนกลุ่มนี้มองหาความมั่นคงทางชีวิตและทรัพย์สินเร็วขึ้น หลีกหนีความเสี่ยงที่จะกระทบความมั่นคงของชีวิต รวมทั้งเพิ่มอิสระทางการเงินเช่น มี Passive income มีงาน Part-time รู้จักการลงทุนหลากหลายรูปแบบมากขึ้น
ทำไม Millennials ถึงสำคัญกับอนาคต
จากประเด็นความหลากหลายในด้านต่างๆ การไม่อยู่ในกรอบ ไม่ชอบผูกมัดด้วยเงื่อนไข ใฝ่หาอิสระภาพ และมีไลฟืสไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ของกลุ่มคน Millennials ทำให้หลายธุรกิจที่เกิดขึ้นจากกลุ่ม Millennials ส่งผลมากๆ ต่ออนาคตภายภาคหน้า ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่อยู่บนเทคโนโลยีมากขึ้น การใช้โซเชียลมีเดียที่หลากหลายช่องทางซึ่งทำให้เกิดอาชีพและการสร้างรายได้ใหม่ๆ อยู่เสมอ นอกจากนี้ การทดลองอะไรบางอย่างจากกลุ่มคน Millennials ก็ทำให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ๆ ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างการทำงานแบบ Hybrid ที่แม้จะมีจุดเริ่มต้นจากการถูกล็อคดาวน์ในช่วง Covid-19 แต่หลังจากนั้นการปรับตัวก็ไม่ได้กลับไปเป็นแบบเดิมแต่เพิ่มเติมความยืดหยุ่นมากขึ้นจากไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปและมุมมองที่เห็นตรงกันว่าการทำงานไม่จำเป็นต้องจำกัดเพียงแค่ที่สำนักงานอย่างเดียว
นอกจากนี้หากมองในระยะยาว กลุ่มคน Millennials จะกลายเป็นกลุ่มใหญ่ที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในภายภาคหน้า แต่สวนทางกับมุมมองและแนวคิดการไม่อยากมีลูกแม้จะแต่งงานแล้วคน Millennials บางกลุ่ม ทำให้ในอนาคตอัตราการเกิดจากประชากรกลุ่ม Millennials มีสิทธิลดลงและเมื่อกลุ่มนี้เข้าสู่กลุ่มผู้สูงอายุแล้ว จะทำให้ประชากรในกลุ่มอายุที่ควรจะเป็นลูกของกลุ่มนี้ลดน้อยลง ส่งผลต่อระบบการทำงาน แรงงาน ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจซึ่งรัฐบาลไทยมองว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและกำลังหาแนวทางแก้ไขและจูงใจให้คนกลุ่มนี้อยากมีลูกมากขึ้นผ่านนโยบายสวัสดิการที่กำลังจะถูกผลักดันให้เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ
ปัจจุบัน Millennials สนใจอะไรบ้าง
เนื่องจากกลุ่ม Millennials เติมโตมาในยุคที่คาบเกี่ยวระหว่าง Analog และ Digital ทำให้มีการปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีใหม่ๆ ค่อนข้างง่ายกว่า Gen X และ Baby Boomer จะเห็นได้จากธุรกิจ Start up ด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจากกลุ่ม Millennials และได้กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในเวลาไม่นาน
นอกจากนี้ด้วยแรงผลักดันทางสังคมและเศรษฐกิจทำให้กลุ่มนี้นอกจากความมั่นคงทางหน้าที่การงานแล้ว การเงินก็สำคัญไม่แพ้กัน นอกจากลงทุนแบบปกติแล้วเราจะเห็นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นในกลุ่มนี้ และบางรายยังสามารถสร้างกำไรด้วยการต่อยอดผลกำไรจากตรงนี้ได้มหาศาลอีกด้วย
ตามที่ได้เกริ่นเรื่องการสร้างครอบครัวและมองว่าการมีลูกนั้นไกลตัวมากขึ้นทุกวัน หนึ่งในความสนใจที่เข้ามาแทนที่เรื่องนี้ก็คือการมีสัตว์เลี้ยง หลายคนเลือกที่จะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงตัวโปรดด้วยตัวคนเดียวหรือแม้แต่มีสัตว์เลี้ยงในครอบครัวที่เสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกในครอบครัวเนื่องจากมองว่าการมีลูกต้องมีค่าใช้จ่ายในการซื้อสังคมและชีวิตที่ดีให้กับพวกเขา หากสังคมยังเป็นเช่นทุกวันนี้ก็ไม่อยากให้ลูกที่เกิดมาต้องลำบากและพบเจอสังคมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของพวกเขา
อีกฝั่งที่เลือกจะไม่สร้างครอบครัวและครองตัวเองเป็นโสดก็ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างให้กับสังคมอย่างเรื่องง่ายๆ เช่นการไปไหนมาไหนคนเดียวซึ่งหลายธุรกิจก็ได้หยิบเอาจุดนี้มาปรับใช้เช่น การมีพื้นที่ให้กับคนที่ไปจับจ่ายใช้สอย หรือร้านอาหารที่เพิ่มพื้นที่สำหรับมาคนเดียวมากขึ้น หรือจะเป็นการที่หลายๆ ที่มี pet friendly zone ไว้รองรับการพาสัตว์เลี้ยงคู่ใจไปเดินเล่นด้วย
Millennials กับ Digital trend
Digital และคนกลุ่ม Millennials เป็นของคู่กันเลยก็ว่าได้ คนกลุ่มนี้เติบโตมากับการเปลี่ยนผ่านจาก Analog มา Digital พอดิบพอดี ยกตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนแปลงจากการใช้มือถือปุ่มกดมาใช้ Smartphone การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่แต่ก่อนต้องต่อผ่านสายโทรศัพท์สู่การใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สาย หรือ ก่อนหน้านี้ต้องพกอุปกรณ์มากมายเวลาไปทำงาน แต่ปัจจุบันพกแค่ NoteBook หรือ Tablet ไปทำงาน ไปเรียนมหาวิทยาลัยได้เลย
Source: DotProperty.co.th, digitorystyle.com,Brand Buffet,everydaymarketing.co
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา