ตลาด Smartphone ตอนนี้แข่งขันกันทุกเวลา ยิ่งรายใดพลาดพลั้งโอกาสที่จะสูญเสียฐานลูกค้าก็มีสูง และตอนนี้ Samsung ก็กลับมาแล้ว หลังเสียโอกาสช่วง Note 7 และปล่อยให้แบรนด์จีนรื่นเริงในการทำตลาดมาระยะหนึ่ง
Innovation คือตัวแปรสำคัญ
แม้เศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวนัก แต่ราคาก็ยังไม่ใช่ปัจจัยหลักในการซื้อ Smartphone ระดับพรีเมียมของหลายๆ คน เพราะมองเรื่องนวัตกรรม และเทคโนโลยีภายในที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นกล้องเลนส์คู่, ระบบประมวลผลที่เร็ว และหน้าจอที่คมชัด รวมถึงภาพลักษณ์ของการใช้ Smartphone รุ่นดังกล่าวด้วย
วิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคม และไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทคนิคส์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า ตลาด Smartphone ระดับพรีเมียมตอนนี้ค่อนข้างเปิดกว้าง หลายๆ แบรนด์ก็ยังอยากเข้ามา เพราะเมื่อต้นทุนทางเทคโนโลยีถูกลง การจะส่งนวัตกรรมใหม่ๆ มาตอบโจทย์ผู้บริโภคก็ง่ายขึ้น และทำให้การแข่งขันของตลาดเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น
“ยิ่งแข่งกันเยอะยิ่งดี เพราะลูกค้าก็ได้ประโยชน์ และเราก็พร้อมเดินหน้านวัตกรรมใหม่ๆ เต็มที่ โดยแบ่งยอดขายทั่วโลกออกมา 6% เพื่อใช้ในการวิจัย และพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ประกอบกับผู้บริโภคใช้เวลาอยู่บนออนไลน์นานขึ้น อย่าง 3 ใน 4 ของเวลาใช้งาน Smartphone ของคนไทยก็เอาไว้ทำอย่างอื่น ไม่ใช่แค่โทรศัพท์พูดคุย”
ถึงคู่แข่งพลาด ก็ต้องเพิ่มความเชื่อมั่น
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันจะมีผู้เล่นในตลาด Smartphone จำนวนมาก และทุกแบรนด์ก็มีสินค้าระดับพรีเมียม รวมถึงตอนนี้บางแบรนด์ก็เพลี้ยงพล้ำในการทำตลาด แต่ Samsung ก็มีบทเรียนครั้งสำคัญจาก Galaxy Note 7 เช่นกัน ทำให้ตอนนี้อาศัยแค่โอกาสจากคู่แข่งไม่ได้ ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับบแบรนด์ ผ่านกลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ
ดังนั้นการวางจำหน่าย Smartphone รุ่นเรือธงตัวล่าสุดของ Samsung ในชื่อรุ่น Galaxy S8 จะมีทั้งบริการหลังการขายที่ดูแลกลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้าภายใน 3 เดือนแรกของการวางจำหน่าย ผ่านการประกันหน้าจอแตก 6 เดือน และมีประกันเครื่อง 1 ปี ที่สำคัญหากเครื่องมีปัญหาภายใน 3 เดือนจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ทันที
รักษาตำแหน่งเบอร์หนึ่งอย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกันยังใช้พรีเซนเตอร์ “ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย” นักร้องนำวง Bodyslam เพื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภคเกี่ยวกับเรื่อง Smartphone ไร้ขอบ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ หลังจากใช้ “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต” และ “โน้ต-อุดม แต้พานิช” มาตลอด เพราะเป็นศิลปินดาราเพียงคนเดียวที่สื่อสารข้อมูลนี้ได้ดีที่สุด แม้จะเป็นพรีเซนต์ให้สินค้าหลายแบรนด์ก็ตาม
สำหรับ Galaxy S8 แบ่งเป็น 2 รุ่นคือ S8 หน้าจอ 5.8 นิ้ว ราคา 27,900 บาท และ S8+ ราคา 30,900 บาท ซึ่งหลังจากเปิดจองช่วงกลางเดือนเม.ย. มีผู้ลงทะเบียนซื้อจำนวนมาก ก่อนวางจำหน่ายจริงในวันที่ 5 พ.ค. แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ Samsung จะรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด Smartphone ระดับพรีเมียม และตลาดรวมได้อย่างต่อเนื่อง
สรุป
การกลับมาของ Samsung ในครั้งนี้ ต้องรอดูว่าจะร้างความเชื่อมั่นได้ขนาดไหน เพราะหลังจากข่าว Galaxy Note 7 มีปัญหา และการเปลี่ยนสเปกโดยไม่แจ้งของ Huawei ก็ทำให้ผู้บริโภคเขวไปตามๆ กัน แต่เชื่อว่าบทเรียนครั้งนั้นน่าจะสอนยักษ์ใหญ่ Smartphone รายนี้เป็นอย่างดี และคงเดินเกมการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ภาพรวมตลาด Smartphone ในประเทศไทยปีนี้น่าจะมีการนำเข้ามาจำหน่ายทั้งหมด 18-20 ล้านเครื่อง ไม่ได้ต่างจากปี 2559 มากนัก โดยจำนวนนี้แบ่งเป็นเครื่องระดับพรีเมียม 15-20% ส่วนปัญหาเรื่องหน้าจอสีแดงของ Galaxy S8 ในตอนนี้ ทางบริษัทแจ้งว่าผู้บริโภคสามารถปรับแก้ได้ด้วยตนเอง ผ่านการตั้งค่าสีหน้าจอใหม่ หรือจะให้ศูนย์บริการทำให้ก็ได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา