ดารายุคนี้ย่อมมีธุรกิจส่วนตัวพ่วงต่อท้ายกันเกือบทุกคน ตั้งแต่สินค้ายอดนิยมครีม อาหารเสริม เครื่องสำอาง มาจนถึงล่าสุดเมื่อตัวแม่อย่าง “ชมพู่ อารยา” ตั้งเอเจนซี่ดูแลโซเชียลให้ดารา ชี้ให้เห็นถึงโอกาสมหาศาลที่ดาราต่อยอดมูลค่าจากโซเชียลมีเดีย
รับโฆษณา สร้างแบรนด์ ยันเปิดเอเจนซี่ ยุคนี้ไม่ใช่แค่จ็อบเสริม
ต้องยอมรับว่าโซเชียลมีเดียกลายเป็นอาวุธที่มีมูลค่ามหาศาลให้กับเหล่าดารา และเซเลบริตี้ทั้งหลาย ไม่ใช่เป็นแค่ช่องทางสื่อสารกับแฟนคลับ แต่ได้กลายเป็น “เครื่องมือทำมาหากิน” ไปแล้วเรียบร้อย สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำทั้งรายได้หลัก รายได้เสริม ทั้งช่องทางเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม
ถ้าย้อนดูวิวัฒนาการของการตลาดรูปแบบนี้ หรือที่เรียกกันว่า Influencer Marketing ในอดีตอินสตาแกรมของดาราอาจจะเป็นแค่ช่องทางให้แบรนด์ลงโฆษณา ไทน์อินสินค้า โดยเรทราคาก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดตาม และความดังของแต่ละคน ซึ่งแบรนด์ก็ให้ความสนใจเพราะมองว่าได้เอ็นเกจเมนต์ที่กว่าการลงโฆษณารูปแบบอื่น
เมื่อโอกาสในการสร้างรายได้สูงขึ้นจากอินสตาแกรม ดาราเริ่มมองหาโอกาสให้ตัวเองด้วยการต่อยอดสร้างธุรกิจของตนเอง เพราะหลายคนก็อาศัยโอกาสจากช่วงที่พอหารายได้ได้อยู่ อย่างที่ทราบกันว่าดาราเป็นอาชีพที่ไม่แน่ไม่นอนเช่นกัน มีขึ้นย่อมมีลง มีเกิดย่อมมีดับ
ทำให้ดารามีการสร้างแบรนด์สินค้าขึ้นมากันมากมาย ทั้งครีมบำรุง อาหารเสริม เครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า และอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ดีเจต้นหอม, ดีเจนุ้ย, นุ่น วรนุช, น้ำชา, ใหม่ ดาวิกา และยังมีคนอื่นอีกมาที่ลงมาลุยธุรกิจตนเอง จากนั้นก็ใช้อินสตาแกรมเป็นช่องทางการขายหลักเพราะมีฐานแฟนคลับที่พร้อมสนับสนุน บางรายต่อยอดไปจนถึงการหาตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติม
ทั้งนี้เห็นได้จากร้านมัลติแบรนด์อย่าง Eveandboy มีการสนับสนุนแบรนด์เครื่องสำอางของดาราด้วยการให้ชั้นวางสินค้าเป็นมุม Celeb ให้ลูกค้าได้มองหาได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดแฟนคลับของดาราเข้าร้านด้วย
จากธุรกิจสร้างแบรนด์สินค้าที่ดาราทำเป็นอาชีพเสริมขายในไอจี มาจนถึงธุรกิจที่จริงจังมากขึ้น ล่าสุดอย่างการดูแลโซเชียลมีเดียให้ดารา ของคุณแม่มือใหม่ “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ในชื่อ บริษัท เค โอ แอล แมนเนจเมนท์ จำกัด (KOL Management) ได้ร่วมทุนกับ “อาลี ซีอานี” นักธุรกิจผู้คร่ำหวอดในวงการนี้มานาน ซึ่งชมพู่เองก็เป็นตัวแม่ในวงการ มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์อย่างมาก มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 7.8 ล้านราย
ธุรกิจนี้ก็เหมือนกับเอเยนซี่กลายๆ ที่ดูแล และวางกลยุทธ์ให้กับแบรนด์ที่ต้องการลงโฆษณา เพียงแต่สื่อหลักเป็นโซเชียลมีเดีย ให้ดาราทำคอนเทนต์ให้ตรงกับความต้องการของแบรนด์ พร้อมกับมีดาราในสังกัดกว่า 20 คน ล้วนเป็นระดับตัวท็อปๆ ในวงการทั้งสิ้น เช่น กาละแมร์, แต้ว ณฐพร, มิ้นต์ ชาลิดา, หลุยส์ สก๊อต, แพทริเซีย กู๊ด, พลอย ชวพร, ก็อต จิรายุ เป็นต้น
ธุรกิจ Influencer โตฟุ้ง
ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ที่สื่อออนไลน์มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด พร้อมกับพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของคนไทยที่ติดกันอย่างงอมแงม ส่งผลให้งบสื่อโฆษณาหันมาทางช่องทางออนไลน์ โซเชียลมีเดียมากขึ้น ในการประเมินมูลค่าสื่อออนไลน์ในปี 2560 จะพุ่งเกินหมื่นล้านบาทแล้ว
ส่งผลทำให้ธุรกิจ Influencer Marketing เปิดตัวกันมากขึ้น นักปั้นดาราก็มีให้เห็นมากขึ้น คนเป็นเน็ตไอดอลก็มากขึ้นเช่นกัน ได้เห็น Nuffnang เป็นรายต้นๆ ที่ลุยธุรกิจนี้ แต่เน้นกลุ่มเน็ตไอดอลเป็นหลัก เป็นเหมือนอคาเดมี่ปั้นเด็ก สรรหางานให้เน็ตไอดอลในสังกัด
หรือแม้แต่คนในวงการดิจิทัลก็หันมาทำธุรกิจนี้อย่าง “จับของร้อน” เพิ่มดีกรีด้วย Influencer ทั้งเน็ตไอดอล และบล็อกเกอร์ด้านต่างๆ บิวตี้ อาหาร ท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ ดาราในสังกัดที่เป็นที่รู้จักได้แก่ “หญิงแย้” นั่นเอง รวมถึงยังมีแพลตฟอร์ม “Revu” ที่เน้นการทำคอนเทนต์รีวิวสินค้า ที่ทำร่วมกับ Influencer ต่างๆ ด้วย
มาจนถึงเซลบบริตี้ระดับตัวแม่ในวงการอย่างชมพู่ยังต้องลงมาจับธุรกิจนี้กับ KOL Management แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และโอกาสที่ยังมีอยู่มากของทั้งโซเชียลมีเดีย และตัว Influencer ด้วย
สรุป
- ถ้ามาย้อนดูเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจนี้มีการเติบโตอย่างมากในไทย คงจะต้องดูถึงพฤติกรรมของคนไทยที่ชอบซื้อสินค้าตามกระแส ไม่ยอมตกเทรนด์ และเชื่อคำบอกเล่าของคนมีชื่อเสียง เพราะมองว่าน่าเชื่อถือ ทำให้ยังเห้นดารารีวิวสินค้าในไอจีเหมือนๆ กัน แต่ก็มีคนพร้อมสนับสนุน
- โซเชียลมีเดียกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของดาราไปแล้ว กลายเป็นว่าใช้ขายของ สร้างแบรนด์ และรับโฆษณาได้
- จะเห็นได้ว่าเทรนด์ของธุรกิจดาราในโลกโซเชียลไม่ใช่แค่ทำเป็นอาชีพเสริมขำๆ แล้ว แต่เริ่มมีความจริงจังต่อยอดเป็นอาชีพหลักที่มั่นคงในอนาคตได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา