ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อินเดียในปัจจุบัน ถือว่าอยู่ในขั้นไม้เบื่อไม้เมาหลังขัดแย้งจากเหตุปะทะกันทางทหารบริเวณพรมแดนหิมาลัย ข้อเสนอที่ Narendra Modi นายกรัฐมนตรีเสนอคือ ต้องการให้โลกปรับ Supply Chain ใหม่ โดยให้มองที่ปัจจัยความน่าเชื่อถือ ความมีเสถียรภาพ อย่ามองแค่ผลประโยชน์ด้านต้นทุนอย่างเดียว ให้นานาประเทศเริ่มมองหาเครือข่ายโลจิสติกส์ใหม่และพึ่งพาจีนน้อยลง
อินเดียแสดงความคิดเห็นในวันเดียวกับที่ญี่ปุ่นเริ่มขยายโครงการให้การอุดหนุนบริษัทต่างๆ ที่มีความต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนกลับประเทศตัวเองและย้ายไปยังประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งก็มีแหล่งเป้าหมายใหม่ที่มีทั้งอินเดียและบังคลาเทศ
Modi แถลงฯ หลังจากที่รัฐมนตรีการค้าจากญี่ปุ่น อินเดีย และออสเตรเลียเริ่มเตรียมสร้างแหล่ง Supply Chain ในอินโดแปซิกเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อลดการพึ่งพาทางการค้าจากจีน หลังจากที่โควิดระบาดอย่างหนัก สินค้าหลักๆ ที่ต้องส่งออกจากแหล่งซัพพลายทั่วเอเชียต้องหยุดชะงักอย่างเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่ 3 ประเทศให้ความสำคัญก็คือ การให้อิสระ ให้ความเป็นธรรม และมีบรรยากาศทางการค้าที่สามารถคาดการณ์ได้
นอกจากนี้ Modi ยังได้กล่าวผ่านการประชุมภายใต้กรอบหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์สหรัฐอเมริกา-อินเดีย (U.S-India Strategic Partnership Forum) ว่า โรคระบาดที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าโลกต้องทบทวนการตัดสินใจเกี่ยวกับ Supply Chain ใหม่ ไม่ควรนึกถึงเรื่องต้นทุนอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาถึงความน่าไว้วางใจ ความน่าเชื่อถือด้วย ซึ่งอินเดียก็ถือเป็นประเทศที่อยู่ภายใต้คุณภาพตามที่ว่ามานี้
อินเดียกล่าวภายใต้ธีมสำรวจความท้าทายใหม่ๆ (Navigating New Challenges) อินเดียกำลังจะกลายเป็นผู้นำที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ จากนั้น Modi ก็กล่าวว่า ไม่มีประเทศใดในเอเชียใต้ในปี 2020 นี้ ที่มีการลงทุนจากต่างประเทศไหลเวียนมากกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6.27 แสนล้านบาท
ทั้งสหรัฐอเมริกา ทั้งยุโรป หรือแม้แต่ออสเตรเลียให้ความไว้วางใจในอินเดีย ทั้ง Google, Amazon และ Mubadala Investments (Mubadala คือบริษัทลงทุนหลากหลายมิติ ทั้งการบินและอวกาศ พลังงานทดแทน เทคโนโลยี ปิโตรเลียม เหมืองแร่และโครงสร้างพื้นฐาน ลงทุนกว่า 50 ประเทศทั่วโลก มูลค่าสินทรัยพ์รวมกว่า 2.29 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 7.18 ล้านล้านบาท) ประกาศเตรียมลงทุนระยะยาวในอินเดีย
ทาง Modi ได้กล่าวไว้ว่าประชากรชาวอินเดียมีราว 1.3 พันล้านคน เตรียมพร้อมสำหรับภารกิจที่จะต้องพึ่งพาตัวเองมากขึ้น และอินเดียยังมีแคมเปญ “Atmanirbhar Bharat” แคมเปญนี้เกิดขึ้นหลังจากที่อินเดียต้องเผชิญกับโควิด-19 ระบาด อินเดียพยายามพึ่งพาตัวเองจนสามารถผลิตชุดป้องกันและอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE) ได้มากถึง 2 แสนชิ้นต่อวันถือเเป็นการผลิตที่เติบโตอย่างรวดเร็วมาก
อินเดียพยายามที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยใช้หลักการ Atmanirbhar Bharat (การพึ่งพาตัวเอง) Modi ระบุว่า อินเดียพยายามเป็นกำลังที่แข็งงแกร่งให้กับโลก การพยายามพึ่งพาตัวเอง และสันติภาพของอินเดียจะทำให้โลกดีขึ้น ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นก็เตรียมผลักดันให้มีแหล่งซัพพลายเชนที่หลากหลายขึ้น อินเดียและบังคลาเทศก็เป็นหมุดหมายที่ทำให้บริษัทญี่ปุ่นเริ่มหันหลังให้จีนและมุ่งสู่อินเดียเช่นกัน
ที่มา – Nikkei Asian Review, India Gov
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา