5 ปีที่แล้ว IKEA (อิเกีย) ได้เปิดสาขาแรกในไทยที่บางนา ซึ่งคนรุ่นใหม่อาจจะรู้จักอยู่บ้าง แต่ก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าคนไทยส่วนใหญ่จะเริ่มรู้จักและเปิดรับแบรนด์ห้างสรรพสินค้าที่ขายเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์เกี่ยวกับ “บ้าน” จากสวีเดน
มาถึงวันนี้ IKEA สาขาบางนา มีพนักงานรวมทั้ง full time และ part time กว่า 450 คน และจะมีพนักงานสาขาบางใหญ่ ที่กำลังจะเปิดในต้นปี 2018 เกิดขึ้นอีก อะไรทำให้หลายๆ คนอยากทำงานที่ IKEA และแนวคิดในการคัดเลือกบุคคลเข้าร่วมงานเป็นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันที 27 – 29 ม.ค. นี้ IKEA จะจัดงาน IKEA BANG YAI JOB FAIR ขึ้นเพื่อรับพนักงานล่วงหน้าเกือบ 1 ปี ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
โทมัส สปิวท อิริคสัน หัวหน้าฝ่ายจัดจ้างและบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลระดับภูมิภาค IKEA เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ให้คำตอบ ไว้อย่างน่าสนใจ และ Brand Inside ได้สรุปมาให้แล้ว
- IKEA บางใหญ่ วางตำแหน่งพนักงานไว้ 300 ตำแหน่ง รวม full time และ part time แต่วันที่ 27-29 ม.ค. นี้ จะมีการคัดเลือกพนักงาน 80 ตำแหน่ง ตั้งแต่ระดับหัวหน้าทีม ถึงพนักงานทั่วไป ถือเป็นเฟสแรก ในวันนี้จะมีการสัมภาษณ์พูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกัน และรู้ผลการสมัครประมาณ 10 วัน และจะได้เริ่มงานเดือน มี.ค. ทันที
- การคัดเลือกของ IKEA จะมองหา 3 สิ่งในผู้สมัคร คือ 1. มองหาคนที่มี IKEA Value เช่น มีความเป็นผู้นำ, มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์, ร่วมแรงร่วมใจกระตือรือร้น, เน้นความคุ้มค่าและประหยัด, ค้นหาวิธีใช้งานจริง, เปิดกว้างรับฟัง, กล้าที่จะแตกต่าง, รับผิดชอบและมอบหมายงาน, มีความเรียบง่าย และสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง จะเข้าใจ IKEA Value ได้ต้องมำความเข้าใจร่วมกัน
- ประเด็นที่ 2 คือ มีความสนใจ Home Furnishing ชื่นชอบการดูแลบ้าน ตกแต่งบ้าน และประเด็นที่ 3 คือ มีใจรักการบริการ สนใจดูแลลูกค้า และแน่นอนว่า ถ้ามีความรู้ภาษาอังกฤษ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
- อย่างที่บอกไปว่า นี่คือการรับสมัครเฟสแรก จะมีเฟสที่ 2 ตามมาอีกประมาณเดือน ก.ค. 60 ซึ่งเหตุที่มีการรับพนักงานล่วงหน้านานเกือบ 1 ปี เพื่อให้ IKEA ได้มีเวลาคัดเลือกพนักงานที่ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง และที่สำคัญคือ พนักงานทุกคนจะได้รับการฝึกอบรม ความรู้ต่างๆ อย่างเต็มที่ตลอด 1 ปี ก่อน IKEA บางใหญ่เปิดให้บริการ เพราะเมื่อถึงวันนั้น พนักงานทุกคน จะเข้าใจความเป็น IKEA และพร้อมให้บริการ 100%
- สิ่งที่ทำให้ IKEA น่ามาร่วมงานด้วย นอกจากเงินเดือนค่าจ้าง ที่ IKEA ยืนยันว่าเป็นไปตามมาตรฐานและไม่น้อยกว่าคู่แข่งในตลาดแน่นอน ยังมั่นใจในสวัสดิการที่ให้กับพนักงาน เช่น พนักงานลาคลอดโดยได้รับเงินเดือน ผู้หญิงลาได้ 4 เดือน และผู้ชายลาได้ 4 สัปดาห์!
- พนักงาน full time และ part time ได้สวัสดิการไม่แตกต่างกัน สิ่งที่ต่างคือ เวลาในการทำงาน full time ทำงานเต็มเวลา ส่วน part time จะเน้นในช่วงที่มีผู้ใช้บริการมาก เช่น วันหยุด, สุดสัปดาห์ หรือช่วงเย็นหลังเลิกงาน
- ตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการมาก และหายากด้วย คือ กลุ่ม Specialist เช่น Communication and Interior Design (เรียกสั้นๆ ว่า Comm In) แปลว่า แผนกสื่อสารและตกแต่งภายใน ซึ่งต้องเข้าใจการออกแบบใช้งาน และสามารถนำเสนอให้ลูกค้าได้อย่างถูกต้อง
- สำหรับ turn over หรือการลาออกของพนักงาน ปี 2016 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 16-17% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ดีมาก เมื่อเทียบกับปีแรกที่ IKEA เปิดให้บริการ ซึ่งมีตัวเลข turn over ที่ 60% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนยังไม่รู้จัก IKEA มากนัก ซึ่งหลังจากนั้นมีพนักงานที่ออกไป กลับมาสมัครงานกับ IKEA ใหม่อยู่พอสมควร
- ปัจจัยที่ทำให้พนักงาน IKEA มีความสุขและตัวเลข turn over ลดลง นอกจากสวัสดิการและผลประโยชน์ที่ได้รับ ที่ IKEA ได้สร้างบรรยากาศการทำงานเป็นครอบครัว (Family Environment) ทุกคนจะรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย ไม่ซีเรียสกับการทำงาน
- หลัก 3 ข้อในการดูแลพนักงาน คือ ดูแลพนักงานใหม่ ให้รู้สึกถึงความเป็นครอบครัวเดียวกัน, หัวหน้างานให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด และ ได้สวัสดิการไม่แตกต่างกัน
- และด้วยความหลากหลายของพนักงาน ที่มีทั้งเพศชาย หญิง และเพศทางเลือก รวมถึงอายุพนักงานที่มี 3 รุ่น คือ Generation B, X และ Y ยิ่งเหมือนเป็นครอบครัวที่มีคนหลายวัยอยู่รวมกัน ข้อดีคือ สามารถให้บริการกับลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม หลากหลายความต้องการ
สรุป
ปัจจุบันไม่มีใครในไทยไม่รู้จัก IKEA ถือเป็นการสะท้อนภาพแบรนด์ที่แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในอนาคต IKEA วางแผนจะขยายสาขาใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีก ทำให้เห็นอนาคตของพนักงาน IKEA ที่มีทั้งการจ้างงานเพิ่มขึ้น และการเติบโตในสายอาชีพ ถ้าอยากรู้ว่าการร่วมงานกับ IKEA ดียังไง คงต้องไปสัมผัสเอง วันที่ 27-29 ม.ค. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา