IKEA เปิดตัวอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้ 3% ภายในสิ้นปีนี้ อีคอมเมิร์ซจะเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น สร้างประสบการณ์ควบคู่ในสโตร์
เปิดออนไลน์เป็นประเทศที่ 3 ในอาเซียน
หลังจากที่ IKEA ผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่จากสวีเดนได้ทำตลาดในประเทศไทยได้ 8 ปีแล้ว ในปีนี้ได้ฤกษ์เปิดตัวอีคอมเมิร์ซเป็นของตัวเองอย่างเป็นทางการเสียทีภายใต้เว็บไซต์ www.ikea.co.th หรือจะเรียกง่ายๆ ว่า IKEA Online
IKEA Online ในระดับโลกได้เริ่มต้นในปี 2000 ที่ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันมีการทำตลาดแล้วใน 52 ประเทศ ส่วนในภูมิภาคอาเซียนได้เริ่มต้นที่ประเทศสิงคโปร์เป็นแห่งแรกในปี 2017 และประเมศมาเลเซียในปี 2018 ที่ผ่านมา แล้วก็ประเทศไทยเป็นประเทศล่าสุด
การตอบรับของ IKEA Online มีตัวเลขที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ยกตัวอย่างในประเทศสิงคโปร์หลังจากเปิดให้บริการ 6 เดือน พบว่ามียอดการสั่งซื้อ 9,000 ออเดอร์ และมีสัดส่วนยอดขาย 10% ของรายได้ทั้งหมด และในประเทศมาเลเซียหลังจากเปิดให้บริการ 3 เดือนมีสัดส่วนรายได้ 5% และในปี 2019 ได้ครบเวลา 1 ปี มีการสั่งซื้อ 42,000 ออเดอร์ มีการเข้าชมเว็บไซต์ 44.7 ล้านครั้ง
สำหรับในประเทศไทยนั้นได้มีแผนเริ่มโปรเจ็คต์ IKEA Online มา 2 ปีแล้ว ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทย จนไปเปิดตัวแบบ Soft Luanch เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา และล่าสุดได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว
อีกทั้งงานนี้ยังได้ “ทอม ซูเทอร์” มาเป็นผู้จัดการสโตร์ IKEA บางใหญ่ตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งทอมมีประสบการณ์ในการบริหาร IKEA ในแคนาดา และอเมริกาเหนือมาก่อน ได้เริ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่นั่น จะเอาประสบการณ์มาปรับใช้กับที่ประเทศไทย
ลาเซีย เชอร์ล็อค รองผู้บริหารฝ่ายธุรกิจค้าปลีก IKEA ไทยสิงคโปร์และฟิลิปปินส์เล่าว่า
“IKEA ต้องการให้การใช้ชีวิตของลูกค้าดีขึ้น เมื่อหลายปีก่อนก็ได้เข้ามาทำตลาด มีสินค้า มีการขนส่งที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น ตอนนี้ทุกอย่างไปออนไลน์ พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยน เลยต้องการเปิดประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ ทำให้ซื้อสินค้าได้สะดวกสบายมากขึ้น”
หลังจากที่ได้เริ่มทดลอง IKEA Online เมื่อ 26 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่าภายใน 2 เดือนมีการสั่งซื้อสินค้า 4,900 ออเดอร์ มีการเข้าชมเว็บไซต์ 1.34 ล้านครั้ง เห็นได้ชัดว่าคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเยอะ และช้อปออนไลน์เก่ง
อนาคตจะมีฟอร์แมตใหม่ สร้างประสบการณ์ควบคู่กัน
การเปิด IKEA Online นอกจากจะเป็นการเพิ่มช่องทางในการขายให้ IKEA มากขึ้นแล้ว เป็นการเพิ่มประสบการณ์ในการขายออนไลน์ควบคู่กับสโตร์ ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการเปิดออนไลน์จะช่วยให้ได้ข้อมูลของลูกค้า เพื่อใช้ในการขยายสาขาต่อไปในอนาคต
IKEA ในประเทศไทยมี 2 สาขาคือ IKEA บางนา และ IKEA บางใหญ่ที่เป็นสโตร์ขนาดใหญ่ ส่วน IKEA ภูเก็ตเป็นรูปแบบศูนย์บริการสั่งซื้อ และรับสินค้า ซึ่งถ้าได้ติดตามความเคลื่อนไหวของ IKEA ในต่างประเทศจะเห็นว่ามีการขยายฟอร์มแมตอื่นๆมากขึ้นเป็นขนาดเล็กที่เปิดในเมือง
“การมี IKEA Online ไม่ได้ทำให้แผนการขยายสาขาในประเทศไทยลดลง ยังคงมองหาพื้นที่ และพาร์ทเนอร์ในการเปิดสาขาใหม่ๆ อยู่ แต่มีแผนที่จะขยายฟอร์แมตใหม่ๆ อาจจะเป็นขนาดเล็กลงที่ไม่มีคลังสินค้า มีพื้นที่เฉลี่ย 3,000-12,000 ตารางเมตร”
โอกาสสำคัญของตลาดอีคอมเมิร์ซ รวมถึงตลาดเฟอร์นิเจอร์ในไทย ก็คือมีคนชั้นกลางเพิ่มชึ้นเรื่อยๆ มีการซื้อบ้านใหม่ หรือปรับปรุงบ้าน เป็นตลาดที่มีศักยภาพ
ออนไลน์ใช้จ่ายมากกว่าในสโตร์ 2 เท่า
หลังจากที่ได้ทดลองเปิดให้บริการ IKEA Online พบว่าช้อปออนไลน์มีการใช้จ่ายเฉลี่ย 7,000 บาท/ครั้ง ซึ่งมากกว่าในสโตร์ 2 เท่าที่มีการใช้จ่ายเฉลี่ย 2,600-3,000 บาท
รายได้ 40% มาจากกรุงเทพฯ และอีก 60% มาจากต่างจังหวัด 5 จังหวัดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และชลบุรี มีการตั้งเป้าการสั่งซื้อสินค้าในปีนี้ 17,000 ออเดอร์ภายในสิ้นปี และจะมีสัดส่วนรายได้ 3% ของรายได้รวมของ IKEA ประเทศไทย
การส่งสินค้าจะมีทั้งแบบส่งพัสดุสินค้าสำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักไม่เกิน 25 กิโลกรัม และความยาวของกล่องไม่เกิน 1.5 เมตร ค่าบริการ 149 บาท ถ้าสินค้าที่มีน้ำหนักเกินจากนี้ และมีความยาวกล่องเกินจะจัดส่งด้วยรถบรรทุก มีค่าบริการเริ่มต้น 770 บาท
สำหรับ 5 อันดับสินค้าที่ขายดีในช่องทางออนไลน์ ได้แก่ กรอบรูป เชล์ฟวางของติดผนัง โต๊ะทำงาน ผ้าห่ม และไม้แขวนเสื้อ ส่วนใหญ่มีการซื้อเป็นจำนวนเยอะๆ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา