IKEA ร่วมกับ Flow Loop พัฒนาฝักบัวอาบน้ำ แบบรีไซเคิลน้ำนำน้ำกลับมาใช้ได้ใหม่ โดยใช้แสงยูวีที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส
บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง IKEA กำลังทำให้ความคิดในการอาบน้ำเป็นจริง โดยร่วมกับ Flow Loop ผู้สร้างนวัตกรรมระบบฝักบัวของเดนมาร์ก ออกแบบระบบที่ไม่เพียงแต่ประหยัดน้ำ แต่ยังสามารถนำน้ำกลับมาหมุนเวียนได้อีกด้วย
โดยตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป ผลิตภัณฑ์นี้คาดว่าจะติดตั้งเข้ากับฝักบัวที่คุณมีอยู่แล้วที่บ้าน ซึ่งในเเต่ละครัวเรือนสามารถลดการใช้น้ำได้ถึง 80% และลดการใช้พลังงานได้ถึง 70% เมื่อเทียบกับการอาบน้ำปกติ
การใช้น้ำในที่พักอาศัยทั่วโลกคิดเป็น 10% ของการใช้น้ำโดยรวม และเพิ่มขึ้น 600% ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา
Flow Loop ไม่ได้เล่าถึงวิธีการทำงานของเทคโนโลยีนี้มากนัก นอกจากเปิดเผยว่าน้ำจะถูกนำไปรีไซเคิลและทำความสะอาดในระบบปิด
ซึ่งทั้งสองบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีวิธีที่ง่ายและประหยัดเงินในกระเป๋า สำหรับประชาชนในการลดใช้น้ำและพลังงานโดยไม่ต้องเสียความสุขจากการอาบน้ำ เนื่องจากประหยัดพลังงานได้มาก จึงช่วยให้ครอบครัวสามารถรับมือกับค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มสูงขึ้นได้เช่นกัน
Robert Carleke ผู้จัดการ Innovation Ventures กล่าว ที่อิเกียแห่งสวีเดนเปิดเผยว่า ทีมนวัตกรรมด้านน้ำของเรามีความก้าวหน้าอย่างมาก ในการร่วมมือกับ Flow Loop ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ความร่วมมือของเราเพื่อทำให้ การอาบน้ำแห่งอนาคต นี้มีราคาไม่แพงและเข้าถึงได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับลูกค้า
ข้อมูลบนเว็บไซต์ Flow Loop อธิบายระบบฝักบัวอาบน้ำที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนให้เป็นแบบหมุนเวียนและสามารถบำรุงรักษาได้เอง ระบบแค่กรองน้ำให้บริสุทธิ์ก่อนที่น้ำจะวนกลับใช้ให้คุณอาบน้ำ นี่คือสิ่งที่เรียกว่าการอาบน้ำอย่างยั่งยืน
โซลูชันการอาบน้ำที่มีประสิทธิภาพของ Flow Loop มีการกำหนดค่าการทำให้บริสุทธิ์โดยใช้แสงยูวีที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และจุลินทรีย์ได้ 99.999% การกรองสองชั้นช่วยดักจับอนุภาคขนาดเล็ก ทำให้น้ำอาบสะอาด
ปัญญาประดิษฐ์ยังบอกถึงแบบจำลองของ Flow Loop เมื่อน้ำถูกรีไซเคิล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตามการประหยัดได้
ทั้งนี้ฝักบัวอาบน้ำแบบประหยัดน้ำยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและทดลองใช้
นอกเหนือจากการอาบน้ำแล้ว อิเกียยังระบุห้องน้ำ ห้องซักรีด การทำอาหารและรับประทานอาหาร รวมถึงอ่างล้างหน้าเป็นพื้นที่ที่ง่ายที่สุดในการจัดการ 90% ของปริมาณน้ำเสียที่บ้าน ซึ่งหมายความว่ายังมีหนทางที่ยั่งยืนอีกมากมายให้พัฒนาผลิตภัณฑ์
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา