เมื่อชาเขียวยอดขายตก อิชิตัน ส่งเครื่องดื่มชูกำลัง T247 ราคา 15 บาท ลุยตลาดใหญ่ เจ้าเก่าเพียบ

หลังจากที่อิชิตันลุยตลาดชาเชียวมานาน ผสมกับการตลาดแบบโปรโมชั่นมาก่อนสินค้า วันนี้ ตัน ภาสกรนที ยอมรับยอดขายตก ติดลบกว่า 12% ในไตรมาสแรก รอบนี้ส่งสินค้าใหม่ T247 เครื่องดื่มชูกำลัง มาแข่งในตลาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงถึง 3.5 หมื่นล้านบาท คำถามคือ จะรอดไหม?

ชาเขียวยอดตก ส่งเครื่องดื่มชูกำลังที่เน้น Function ที่เหนือกว่า?

ในการเปิดตัว เครื่องดื่มชูกำลัง T247 ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน พาวเวอร์ จำกัด ตอบคำถามพร้อมเปิดใจว่า “ยอดขายชาเขียวปีที่แล้วตก ติดลบถึง 12% ในไตรมาสแรก เหตุเป็นเพราะคาดการณ์ไซส์ผิด ส่งทั้งชาเขียวไซส์ใหญ่และไซส์เล็กออกไป แต่ขาดทุน ตอนนี้ไล่เก็บไซส์ 290 มล. ออกจากตลาด และปรับให้เป็นไซส์ใหญ่เท่านั้น”

ทั้งนี้ ยอดขายชาเขียวที่ตกลงมาติดลบถึงหลักสิบ อิชิตัน บอกว่า “เป็นเรื่องปกติของเครื่องดื่มทุกๆ แบรนด์ ตอนนี้ไม่ว่าจะเครื่องดื่มอะไรตลาดก็หดตัวทั้งนั้น เหลือแต่ตลาดน้ำดื่มเท่านั้นที่ยังโตอยู่”

ด้วยเหตุนี้ บริษัท อิชิตัน พาวเวอร์ จำกัด ในเครือบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จึงส่ง เครื่องดื่มชูกำลัง T247 ออกมาสู่ตลาด เพื่อจะเข้าไปแข่งในสนามใหม่ ที่ใหญ่และแข่งขันสูง ถ้าอ้างข้อมูลจากที่มีการแถลงข่าว อิชิตัน ระบุว่า ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมี M-150 ที่ครองถึง 57% คาราบาวแดง 21% กระทิงแดง 16.3% และอื่นๆ อีกเกือบ 5%

สิ่งที่ T247 ต้องมีมากกว่าแบรนด์อื่นที่มีมาก่อนหน้าคือ “Function” ที่เหนือกว่า นั่นคือ การใส่ส่วนผสมเช่น โสมและน้ำผึ้ง รวมถึง คอลลาเจนและซิงค์ โดยมี 2 รสชาติ และแถมดึงเอาพรีเซ็นเตอร์แม่เหล็กตัวแทนของชายที่ฟิตเปรี๊ยะอย่าง เจ-เจตริน วรรธนะสิน และอีกคนที่เป็นหนุ่มหน้าใสอย่าง สน-ยุกต์ ส่งไพศาล

ด้วยราคา 15 บาท อิชิตันลุยตลาดใหญ่เครื่องดื่มชูกำลัง จะรอดไหม?

ต้องบอกเลยว่าตลาดนี้ไม่ง่าย เพราะเจ้าเก่าที่ครองตลาดรวมกัน 3 แบรนด์ก็เกือบจะครองส่วนแบ่งตลาดทั้งหมดแล้ว แต่ อิชิตัน บอกแบบนี้ว่า “เราตั้งเป้าไว้ไม่สูง คือปีละ 2% ตลาดนี้มีส่วนแบ่งตลาดที่ 3.5 หมื่นล้าน เราขอแค่ 700 ล้านบาท อย่างในปีนี้จะทำให้ได้ และจะโตทุกๆ ปี ปีละ 2% พอถึง 5 ปี เราก็จะไปถึง 10% หรือ 3,000 ล้านบาทนั่นเอง”

แต่ราคาที่ตั้งเอาไว้ 15 บาท ต้องยอมรับว่าทั้งมาใหม่และถือว่าแพงกว่าคู่แข่งที่มีมาก่อนหน้า อาจทำให้มีปัญหาและไม่รอด ส่วนด้านของตัน ภาสกรนที ยืนยันว่า “ราคานี้เหมาะสม เพราะขวดของเราไม่ใช่ขวดแก้ว แต่เราใช้พลาสติกที่ดูดี แถมมีส่วนผสมมากกว่าคนอื่นด้วย แล้วยังถือไปดื่มในที่ไหนก็ได้ อย่างผมแต่ก่อนก็เป็นแฟนของเครื่องดื่ม Energy Drink อยู่แล้ว แต่เวลาดื่มต้องหลบๆ มาดื่ม แต่สำหรับ T247 มั่นใจเลยว่าจะดื่มในที่สาธารณะได้อย่างไม่ต้องอายใคร”

การตลาดแบบโปรโมชั่นมาก่อนสินค้ามีปัญหา

ยอมรับกันตรงๆ ว่า แบรนด์ อิชิตัน ส่งโปรโมชั่นที่เรียกความสนใจได้ตลอด ไม่ว่าจะส่งชิงโชคของรางวัลหรือลุ้นไปเที่ยวต่างประเทศ แต่มาวันนี้ ตัน ภาสกรนที บอกกับเราเลยว่า “มันไม่ได้ผลเหมือนที่ผ่านมาแล้ว สำหรับตลาดชาเขียวเอง ทั้งเรื่องไซส์ของสินค้าที่คาดการณ์ผิด รวมถึงโปรโมชั่นที่ส่งออกมา มันไม่โดนใจคนแล้ว”

แต่ทั้งนี้ ตัว T247 ที่กำลังส่งออกตลาดรอบนี้ อิชิตัน ก็เปรยไว้ว่า เดือนหน้าจะส่งแคมเปญมาแรงอีกแล้ว โดยจะเป็นการตลาดเชิงรุกบุกไปตามร้านค้าประมาณ 500 จุดใน 3 เดือนนี้ภายใต้ชื่อ “คาราวาน T247 จะกี่ทีก็ทำได้” แต่เข้าใจว่ารอบนี้อิชิตันน่าจะเรียนรู้จากอดีต และจะเน้นแคมเปญไปที่ตัว “สินค้า” มากกว่า “โปรโมชั่น” แต่ต้องต้องจับตารอดูกันต่อไป

ชาเขียวยังเป็นเส้นเลือดหลักของอิชิตัน

แม้จะส่ง T247 ออกมาเพื่อแข่งในตลาดที่ใหญ่ แต่ชาเขียวยังคงเป็นเส้นเลือดหลักของอิชิตัน เพราะรายได้หลักยังเป็น 70 – 80% ของบริษัท แต่อาจจะต้องปรับตัวสินค้าให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่รักสุขภาพมากขึ้น

มากกว่านั้น จะบุกส่งไปยังต่างประเทศด้วย ทั้งตลาดชาเขียวที่ทำอยู่แล้วใน กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ส่วนพม่ากำลังจะบุกเข้าไปทำตลาดชาเขียว แต่สำหรับตัว T247 ขอส่งลงในไทยก่อน ส่วนต่างประเทศเป็นแค่แผนไว้ แต่วันที่มีการเปิดตัว ตัน ภาสกรนที แอบเผยว่า “ก็มีนักธุรกิจในอินโดนีเซียติดต่อมาแล้ว แต่ผมยังไม่รู้จักเขา”

อย่างไรก็ตาม ตัน ภาสกรนที ยังพูดปิดท้ายตอนสัมภาษณ์นอกรอบเอาไว้อีกว่า “เชื่อว่าถ้าประเทศมีการเลือกตั้ง นักธุรกิจจะลงทุนมากขึ้น แล้วเศรษฐกิจก็จะดี”

สรุป

ถือเป็นการปรับตัวของอิชิตัน เพราะเมื่อสินค้าเริ่มอิ่มตัวในตลาดแล้ว รวมถึงโปรโมชั่นที่ทำตลาดไม่โดนใจผู้คนเหมือนแต่ก่อนแล้ว ทำให้ต้องส่งสินค้าใหม่ๆ อิชิตันเลือกเล่นในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ส่ง T247 ในราคาขวดละ 15 บาท แต่มาในขวดที่มีปริมาณเกือบ 2 เท่าของเจ้าเก่ารายอื่นๆ ในตลาด แต่อย่าลืมว่าเจ้าเก่าก็ครองตลาดไปเกือบจะเต็มแล้วเช่นกัน

และมากไปกว่านั้น ข้อมูลที่น่าสนใจคือ ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเองก็ติดลบที่ 2.6% แต่ปีนี้อิชิตันได้ทุ่ม 200 ล้านบาทลงไป เพื่อที่จะเข้าไปครองส่วนแบ่งตลาด 2% หรือกว่า 700 ล้านบาท ก็ต้องรอดูกันว่าจะรอดไหม?

 

ข้อมูลเพิ่มเติมของสินค้า : T247 มี 2 รสชาติ คือสูตรโสมและน้ำผึ้ง กับสูตรคอลลาเจนและซิงค์ มีขนาดเดียวคือ 280 มล. ในขวด PET ราคา 15 บาท กลุ่มเป้าหมายจะเจาะคนวัยเริ่มทำงานเป็นหลัก และตามด้วยกลุ่มผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ

ส่วน T247 มาจาก ตัว “T” ที่พ้องเสียงกับคำว่า “ที” ในภาษาไทย เลยส่งสโลแกน “จะกี่ T ก็ทำได้” ส่วน 247 แยกเป็น 24 หมายถึงชั่วโมงใแต่ละวัน ส่วน 7 คือ 7วัน ความหมายโดยรวมคือ “จะทำงานอีกกี่ทีก็ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง และทั้ง 7 วัน”

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา