IBM ชี้ ใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้นช่วงโรค COVID-19 ระบาด ทำ โรงพยาบาล เสี่ยงโดนโจมตีข้อมูล

IBM Security เปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวับพฤติกรรมทางดิจิทัลของผู้บริโภคช่วงโรค COVID-19 ระบาด พบว่า ผู้บริโภคคุ้นชินกับบริการดิจิทัล เลือกความสะดวกมากกว่าความเป็นส่วนตัว ธุรกิจ Healthcare เสี่ยงโดนโจมตีข้อมูล

โรงพยาบาล

ถูกโจมตีทางไซเบอร์เพราะความหละหลวม

เมื่อเดือน มิ.ย. 2021 IBM Security เปิดเผยผลสำรวจว่า การเร่งเดินหน้าดิจิทัลอย่างรวดเร็วของธุรกิจในช่วงโรค COVID-19 ระบาด อาจกลายเป็นการเพิ่มโอกาสการโจมตีในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้กับอาชญากรไซเบอร์ โดยการสำรวจทำกับผู้บริโภค 22,000 คน ใน 22 ประเทศทั่วโลก เบื้องต้นมีรายละเอียดดังนี้

  • การบูมของดิจิทัลจะส่งผลระยะยาว มากกว่าผลลัพธ์ที่การแพร่ระบาดได้ทิ้งเอาไว้: ผู้บริโภคที่สำรวจระบุว่าได้สร้างบัญชีออนไลน์ใหม่เฉลี่ย 15 บัญชีในช่วงการแพร่ระบาด โดย 44% ของกลุ่มที่สำรวจไม่มีแผนที่จะลบหรือปิดบัญชีใหม่เหล่านี้
  • การมีบัญชีมากเกินทำให้เหนื่อยหน่ายกับการตั้งพาสเวิร์ด: การเพิ่มขึ้นของบัญชีดิจิทัลนำสู่พฤติกรรมการตั้งพาสเวิร์ดที่หละหลวมของผู้บริโภคที่สำรวจ โดย 82% ยอมรับว่าใช้ข้อมูลยืนยันตัวตนซ้ำบ้างในบางครั้ง ซึ่งหมายความว่าบัญชีใหม่น่าจะใช้ชื่ออีเมลและพาสเวิร์ดซ้ำกับที่เคยใช้ก่อนหน้า
  • คนให้ค่ากับความสะดวกสบายมากกว่าเรื่องความปลอดภัยและไพรเวซี: มากกว่าครึ่งหนึ่ง (51%) ของกลุ่มมิลเลนเนียลชอบสั่งซื้อสินค้าผ่านแอพหรือเว็บไซต์ที่มีแนวโน้มไม่ปลอดภัย มากกว่าการโทรสั่งหรือไปซื้อที่ร้านด้วยตัวเอง ทำให้ปัญหาด้านความปลอดภัยต้องกลายเป็นภาระของบริษัท

ข้อมูลหลุด

“การแพร่ระบาดส่งผลให้มีบัญชีออนไลน์เพิ่มขึ้นสูงมาก และการที่สังคมเลือกความสะดวกสบายทางดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ นี้ อาจส่งผลต่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล” ชาร์ลส์ เฮ็นเดอร์สัน Global Managing Partner และหัวหน้าทีม IBM Security X-Force กล่าว

ผู้บริโภคต้องการความง่ายในการเข้าถึง

การสำรวจชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมหลากหลายของผู้บริโภค ที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต ในขณะที่ผู้คนใช้ประโยชน์จากการปฏิสัมพันธ์ทางดิจิทัลมากขึ้น แต่ก็มีความคาดหวังสูงในเรื่องความสะดวกในการเข้าถึง และใช้งานด้วย ไม่ว่าจะเป็น

ข้อมูลหลุด

  • กฎ 5 นาที: ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ (59%) ต้องการใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีในการสร้างบัญชีดิจิทัลใหม่
  • ครบสามครั้งเลิกทำ: ผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกจะพยายามเข้าสู่ระบบเพียง 3-4 ครั้ง หากไม่สำเร็จจะเริ่มรีเซ็ตพาสเวิร์ดใหม่ การรีเซ็ตพาสเวิร์ดไม่เพียงแต่ทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ยังอาจก่อให้เกิดภัยคุกคามด้านความปลอดภัยหากเป็นพาสเวิร์ดที่เคยใช้กับบัญชีอีเมลที่เคยถูกแฮ็คแล้ว
  • พึ่งความจำ: 44% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้วิธีจำข้อมูลบัญชีร้านค้าออนไลน์ (เป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่ใช้) ในขณะที่ 32% จดข้อมูลลงบนกระดาษ
  • การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (multi-factor authentication): เมื่อการใช้พาสเวิร์ดซ้ำคือปัญหาที่กำลังเพิ่มขึ้น การเพิ่มปัจจัยในการตรวจสอบสำหรับธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูง สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่บัญชีจะถูกบุกรุกได้

โรงพยาบาล คืออุตสาหกรรมเสี่ยง

ในช่วงการแพร่ระบาด ช่องทางดิจิทัลได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตอบสนองความต้องการวัคซีน รวมถึงการทดสอบและการรักษา COVID-19 ทาง IBM Security วิเคราะห์ว่าการที่ผู้บริโภคใช้ช่องทางดิจิทัลที่หลากหลายในการเข้าถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 อาจกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมทางดิจิทัลในอนาคต

โรงพยาบาล

  • 63% ของผู้บริโภคเข้าถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ผ่านช่องทางดิจิทัลรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง (เว็บ แอพมือถือ อีเมล และข้อความ SMS)
  • แม้เว็บไซต์และเว็บแอพเป็นช่องทางการเข้าถึงแบบดิจิทัลที่ใช้กันแพร่หลายที่สุด แต่ก็มีการใช้งานโมบายล์แอพ (39%) และข้อความ (20%) เป็นจำนวนมาก

เมื่อผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพพยายามผลักดันการแพทย์ทางไกล โปรโตคอลด้านความปลอดภัยที่ได้รับการออกแบบให้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ก็จะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้เฉพาะระบบและข้อมูลที่กำหนดไว้เท่านั้น รวมถึงเป็นการจำกัดผลกระทบจากบัญชีหรืออุปกรณ์ที่เคยถูกแฮ็ค

ในการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุแรนซัมแวร์และการโจมตีแบบขู่กรรโชก ข้อมูลผู้ป่วยจะต้องได้รับการเข้ารหัสอยู่ตลอดเวลา และต้องมีระบบการสำรองข้อมูลที่เชื่อถือได้เพื่อให้สามารถกู้คืนระบบและข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ระบบเกิดการหยุดชะงักน้อยที่สุด

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา