Top 10 มหาเศรษฐีโลกรวยลดลงปี 2022: 9 ใน 10 คือนักธุรกิจจีน ถูกผู้นำทุบเพราะผูกขาด

Hurun Research Institute รายงานรายชื่อคนรวยที่รวยมากขึ้น คนรวยที่เพิ่งขึ้นมาเป็นเศรษฐีใหม่ ไปจนถึงคนรวยที่รวยลดลง พบว่า 10 อันดับแรกที่ Hurun รายงาน จำนวน 9 ใน 10 ราย (ยกเว้น Mark Zuckerberg) ล้วนเป็นมหาเศรษฐีจีนทั้งสิ้น ที่รวยลดลงอย่างมากจนติดอันดับ Top 10 ของโลก สาเหตุสำคัญที่รวยลดลงเรื่องหนึ่งก็คือ การทำธุรกิจที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จนรัฐบาลจีนมองว่ากำลังมีพฤติกรรมผูกขาดทางธุรกิจอยู่และออกนโยบายมาควบคุม จัดการ และสั่งปรับบริษัทเทคจีนรายยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย

Top-10-Billionaires-big-lose-cover

มหาเศรษฐีจำนวน 9 ใน 10 รายนี้ ล้วนเป็นคนโด่งดัง มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างล้นหลามทั้งสิ้น หลายคนหลังถูกรัฐบาลจีนจัดการด้วยนโยบายต่อต้านการผูกขาดเข้าควบคุมก็ลงจากอำนาจกลายเป็นประธานบริษัทบ้าง หันไปมุ่งธุรกิจใหม่ๆ ด้านอื่นบ้าง เรียกได้ว่าทำตัว low profile สุดๆ เพื่อไม่ให้ใครได้พบเห็นเช่นเดิม มหาเศรษฐี 10 รายที่รวยและรวยลดลงมากที่สุด มีดังนี้

  1. Huang Zheng จาก Pinduoduo
  2. Zhang Yong จาก HaiDiLao
  3. Mark Zuckerberg จาก Meta
  4. Xu Jiayin จาก Evergrande
  5. Ma Huateng จาก Tencent
  6. Wang Wei จาก SF Express
  7. Su Hua จาก Kuaishou
  8. Ma Yun หรือ Jack Ma จาก Alibaba
  9. Li Yongxin จาก Offcn
  10. Lei Jun จาก Xiaomi

Colin Huang

อันดับ 1 Huang Zheng

Huang Zheng หรือ Colin Huang ผู้ก่อตั้งและอดีตประธาน Pinduoduo แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสัญชาติจีน น้องใหม่มาแรงที่ก่อตั้งในปี 2015 ครอบครองสินทรัพย์มูลค่า 1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 6.5 แสนล้านบาท ปี 2020 มียอดผู้ใช้งานต่อปีถึง 700 ล้านแอคเคาท์ มูลค่าตลาดอยู่ที่ 7.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท (6 มิ.ย. 2022)

แม้เขาจะลงจากตำแหน่งในช่วงที่จีนมีการกวดขันอย่างหนักในการไล่ทุบบริษัทเทครายใหญ่ของจีนโดยอ้างเหตุผลเรื่องทำธุรกิจผูกขาดและช่วงที่บริษัทกำลังมีข่าวลือหนาหูเรื่องใช้พนักงานทำงานหนักจนเสียชีวิต  แม้ปัจจุบันจะหันหน้าสู่เส้นทางใหม่ มุ่งไปในด้านวิทยาศาสตร์และอาหารแล้ว แต่เขาก็ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ความมั่งคั่งลดลงมากถึง 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท

อันดับ 2 Zhang Yong และ Shu Ping แห่ง HaiDiLao 

เจ้าอาณาจักรธุรกิจอาหารหม้อไฟยอดฮิต Zhang Yong ครอบครองสินทรัพย์มูลค่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3.4 แสนล้านบาท มูลค่าตลาดของ HaiDiLao อยู่ที่ 8.85 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3.03 ล้านล้านบาท (6 มิ.ย. 2022)

เขาเคยเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในสิงคโปร์และเพิ่งลงจากตำแหน่ง CEO ของ HaiDiLao ในปีนี้ แต่ยังคงตำแหน่งประธานและกรรมการบริหารเพื่อให้คำแนะนำและกลยุทธ์ระยะยาวสำหรับองค์กรอยู่ Zhang ลงจากตำแหน่งขณะที่ยอดขายตกต่ำที่สุดในรอบ 6 ปีนับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ยอดขายลดลง 90% ในปี 2020 เป็น 309.5 ล้านหยวน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะโควิดระบาดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เขาต้องระงับธุรกิจหรือปิดกิจการชั่วคราวเพื่อจัดการโควิดตามนโยบายรัฐ

HaiDiLao ถือเป็นเชนอาหารหม้อไฟที่ใหญ่ที่สุดในจีนที่ก่อตั้งในปี 1994 มีสาขาในจีน 1,329 แห่ง ในต่างประเทศ 114 แห่ง รวมทั้งหมด 1,443 แห่ง Zhang Yong และภรรยา Shu Ping ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง HaiDiLao สูญเสียความมั่งคั่งมากถึง 2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 9.6 แสนล้านบาท

facebook
NEW YORK, NY – OCTOBER 25: Facebook CEO Mark Zuckerberg (Photo by Drew Angerer/Getty Images)

อันดับ 3 Mark Zuckerberg เจ้าอาณาจักร Meta

ช่วงขาลงของอาณาจักร Facebook หรือ Meta ของ Mark Zuckerberg หลังแพลตฟอร์มน้องใหม่อย่าง TikTok มาแรงจนกระชากความสนใจไปจากแพลตฟอร์ม ทำให้รายได้ลดลงจากการแข่งขันกับคู่แข่งหน้าใหม่อย่าง TikTok รวมทั้ง YouTube ด้วย ไม่ใช่แค่ความสนใจใน Facebook ที่ลดลงอย่างมากเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวด้วย 

มูลค่าตลาดของ Meta อยู่ที่ 5.220 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 17.9 ล้านล้านบาท (6 มิ.ย. 2022) Mark Zuckerberg ครอบครองสินทรัพย์มูลค่า 7.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2.6 ล้านล้านบาท เขาสูญเสียความมั่งคั่งไปราว 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 8.6 แสนล้านบาท

Xu Jiayin

อันดับ 4 Xu Jiayin แห่ง Evergrande

Evergrande ก่อตั้งในปี 1996 มีโครงการอสังหาริมทรัพย์กว่า 1,300 โครงการ มากกว่า 280 เมืองในจีน มีทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (real estate) ธุรกิจให้บริการอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ (property services) ปัจจุบันมี 2,800 โครงการกว่า 310 เมืองในจีน อาทิ สร้างอาคารสำนักงานเชิงพาณิชย์ นิคมอุตสาหกรรม โรงเรียน โรงพยาบาล ธนาคาร ธุรกิจสร้างสวนสนุก ธุรกิจรถ EV มีบริษัทผลิตสื่ออย่าง Henten Network ฯลฯ มูลค่าตลาดอยู่ที่ 2.777 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 9.53 หมื่นล้านบาท (6 มิ.ย. 2022)

Evergrande คือหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของจีนและยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำรายได้มากที่สุดในโลกด้วย บริษัทนี้ก่อตั้งโดย Xu Jiayin หรือ Hui Ka Yan (ภาษากวางตุ้ง) เขาเคยติดอันดับรวยที่สุดในจีน Xu Jiayin ครอบครองสินทรัพย์มูลค่า 7.6 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2.61 แสนล้านบาท เขายังเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน เป็นที่รู้จักในหมู่ชนชั้นนำจีน ทำให้ง่ายและน่าเชื่อถือต่อการให้กู้ยืมเงินและสิ่งนี้เองที่ยิ่งทำให้ธุรกิจขยายใหญ่โตอย่างรวดเร็ว

หลังจากบริษัทเริ่มแบกภาระหนี้ก้อนใหญ่ไม่ไหว เริ่มไม่มีความสามารถในการจ่ายชำระหนี้ มีหนี้ที่ต้องแบกประมาณ 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 10 ล้านล้านบาท ยังมีที่อยู่อาศัยอีกกว่า 100 แห่งที่ยังสร้างไม่สำเร็จ กว่า 800 โครงการทั่วจีนที่ยังทำไม่สำเร็จ มีคนรอที่จะย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ราว 1.6 ล้านคน อีกทั้งจีนเริ่มมีนโยบายควบคุมการกู้ยืมของบริษัทอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ทำให้สถานการณ์ชำระหนี้ของ Evergrande ยิ่งหนักหน่วง ถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เกินไปที่จะล้ม Xu Jiayin สูญเสียความมั่งคั่งราว 2.34 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 8 แสนล้านบาท

Pony Ma, Ma Huateng Tencent
Image from Tencent

อันดับ 5 Ma Huateng แห่ง Tencent

Ma Huateng หรือ Pony Ma ประธานและซีอีโอ Tencent ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 เจ้าของซุปเปอร์แอป WeChat ที่มีคนใช้มากกว่า 1 พันล้านแอคเคาท์ มูลค่าตลาดสูงถึง 4.143 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 14.2 ล้านล้านบาท (6 มิ.ย. 2022) เขาครอบครองสินทรัพย์มูลค่า 5.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท Tencent โดนทางการจีนมองว่าเป็นแพลตฟอร์มผูกขาดทางธุรกิจมาตลอด ทำให้สูญเสียความมั่งคั่งไปถึง 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 7.5 แสนล้านบาท

อันดับ 6 Wang Wei แห่ง SF Express

SF ก่อตั้งในปี 1993 ถือเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายใหญ่ที่สุดของจีนและใหญ่เป็นอันดับ 4 ในระดับโลก มูลค่าตลาด S.F. Holding อยู่ที่ 3.67 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท (6 มิ.ย. 2022)

Wang Wei ครอบครองสินทรัพย์มูลค่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท หลังถูกรัฐบาลจีนจัดการเพราะเป็นธุรกิจผูกขาด ทำให้สูญเสียความมั่งคั่งราว 1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 6.5 แสนล้านบาท

อันดับ 7 Su Hua แห่ง Kuaishou

Su Hua เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Kuaishou แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่โด่งดัง มาแรงและใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีนรองจาก Douyin หรือ TikTok ของ ByteDance มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 3.22 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท (6 มิ.ย. 2022) Kuaishou ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2011 โดยมี Su Hua และ Cheng Yixiao เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง

ปัจจุบัน Su Hua ลงจากตำแหน่งซีอีโอแล้วแต่ยังดำรงตำแหน่งเป็นประธานบอร์ดอยู่ เขาระบุว่าเขาต้องการจะมุ่งพัฒนากลยุทธ์ระยะยาวของบริษัท ส่วน Cheng Yixiao ขึ้นมาเป็นซีอีโอแทน แต่อำนาจในการตัดสินใจยังเป็นของทั้งคู่อยู่เช่นเดิม Su Hua ครอบครองทรัพย์สินมูลค่า 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.9 แสนล้านบาท และสูญเสียความมั่งคั่ง 1.83 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 6.2 แสนล้านบาท (หมายเหตุ* มีอันดับ 7 สองราย ไม่มีอันดับ 8)

Jack Ma

อันดับ 7 Ma Yun และครอบครัว แห่ง Alibaba

Ma Yun หรือ Jack Ma แห่ง Alibaba เจ้าอาณาจักรแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและค้าปลีกรายใหญ่ของโลก ก่อตั้งด้วย Ma อดีตครูสอนภาษาอังกฤษและเพื่อนรวม 18 คนตั้งแต่ปี 1999 ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 2.73 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 9.3 ล้านล้านบาท (6 มิ.ย. 2022)

Ma ลงจากตำแหน่งซีอีโอตั้งแต่ปี 2019 แล้ว มี Daniel Zhang ขึ้นมาดูแลแทน Ma ครอบครองสินทรัพย์มูลค่า 3.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท เขาสูญเสียความมั่งคั่งราว 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 6.1 แสนล้านบาท (หมายเหตุ* มีอันดับ 7 สองราย ไม่มีอันดับ 8)

อันดับ 9 Lu Zhongfang และ Li Yongxin แห่ง Offcn

OFFCN (Offcn Education Technology Co., Ltd.) ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 เป็นองค์กรที่บุกเบิกและเป็นผู้นำธุรกิจด้านการศึกษา โดยเน้นสามเรื่องใหญ่ๆ คือการฝึกอบรมเพื่อสอบเข้าเป็นข้าราชการ การเตรียมความพร้อมทางด้านวิชาการและการฝึกฝนด้านวิชาชีพ OFFCN ขยายสาขาไปแล้วกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ เป็นฐานให้ความรู้ผู้คนในทุกระดับตั้งแต่นักเรียนระดับวิทยาลัย จบมหาวิทยาลัยและอาชีพต่างๆ หลากหลายสาขา

Lu Zhongfang และ Li Yongxin ครอบครองสินทรัยพ์มูลค่า 4.9 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.68 แสนล้านบาท บริษัทมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 3.188 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.09 ล้านล้านบาท (6 มิ.ย. 2022) เขาสูญเสียความมั่งคั่งมากถึง 1.71 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 5.88 แสนล้านบาท 

Lei Jun Xiaomi
Image from Xiaomi

อันดับ 10 Lei Jun แห่ง Xiaomi

Xiaomi ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ของจีน มูลค่าตลาดอยู่ที่ 3.08 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 10.5 ล้านล้านบาท (6 มิ.ย. 2022) Lei Jun ผู้ก่อตั้ง Xiaomi ครอบครองสินทรัพย์มูลค่า 1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 4.8 แสนล้านบาท เขาสูญเสียความมั่งคั่งไปราว 1.66 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 5.7 แสนล้านบาท 

Xiaomi ก็ถูกจับจ้องเรื่องการลงทุนที่มากเกินไปจนมีแนวโน้มผูกขาดตลาดเช่นกัน เฉพาะแค่เดือนมีนาคม ปี 2022 เขาก็ลงทุนไปแล้วกว่า 400 บริษัท ด้วยเงินมูลค่า 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือ 3.02 แสนล้านบาท  

Hurun-Top-10-Billionaire-lose

(หมายเหตุ* มีอันดับที่ 7 สองราย ไม่มีอันดับ 8)

ที่มา – Hurun, Pinduoduo, SCMP (1), (2), (3), HaiDiLao, Tencent, Forbes (1), (2), SF, Kuaishou, Yahoo Finance (1), (2), (3), (4), (5), (6), (7), Alibaba, Evergrande, The New York Times, Financial Times, OFFCN

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา