ผ่ากลยุทธ์ “Huawei” ทำลายกำแพงสมาร์ทโฟนแบรนด์จีน เป้าหมายไล่บี้ซัมซุงขึ้นเบอร์ 1

หัวเว่ยถือว่าผู้สร้างปรากฎการณ์สมาร์ทโฟนแบรนด์จีนให้ฟีเวอร์ในไทย พร้อมการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง วันนี้ได้ขึ้นเป็นเบอร์ 2 ในตลาดอย่างเต็มตัว เป้าหมายต่อไปขึ้นเบอร์ 1 ให้ได้ภายในปี 2020

สร้างความเชื่อมั่นด้วยนวัตกรรม และพาร์ทเนอร์

ในอดีตตลาดสมาร์ทโฟนแบรนด์จากประเทศจีนไม่ค่อยได้รับความนิยมในประเทศไทยเท่าไหร่นัก เพราะด้วยคุณภาพที่ไม่ค่อยดี การแข่งขันของตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมจึงเป็นการฟาดฟันของ 2 ผู้เล่นใหญ่ซัมซุง และแอปเปิ้ล

แต่เมื่อหัวเว่ยได้พลิกเกมส์ด้วยการจับมือกับ “ไลก้า” แบรนด์กล้องถ่ายรูประดับลักซ์ชัวรี่ในการพัฒนากล้องในสมาร์ทโฟน เป็นแบรนด์แรกที่ใช้กล้องคู่ในรุ่น P9 เป็นการบุกตลาดพรีเมี่ยมอย่างเต็มตัว

หัวเว่ยได้มองภาพตลาดแล้วว่าเทรนด์ของผู้บริโภคในการใช้สมาร์ทโฟนคือการใช้กล้องถ่ายรูป จึงเน้นเป็นคุณสมบัติหลัก จากนั้นจึงจับมือกับไลก้า นำพันธมิตรระดับโลกมาช่วยสร้างแบรนด์ให้น่าเชื่อถือมากขึ้น

การเดินเกมที่ถูกจังหวะ และถูกจริตผู้บริโภคในครั้งนี้ ทำให้หัวเว่ยมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งในระดับโลก และในประเทศไทย โดยทำให้ภาพลักษณ์ของหัวเว่ยดีขึ้น คนเปิดใจรับมากขึ้น มีการเปลี่ยน Perception ที่มีต่อแบรนด์จีนให้ดีขึ้น

ส่งผลในเรื่องของรายได้ด้านมูลค่าในปี 2559 เติบโตขึ้น 35% และในด้านยูนิตเติบโต 29% ส่วนในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 ภาพรวมในระดับโกลบอลรายได้ในแง่มูลค่าโต 36.2% ยอดขายจำนวนเครื่องเติบโต 20.6% และส่วนแบ่งตลาดโตจาก 9.3% เป็น 11.3%

สำหรับในประเทศไทยมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด รายได้เชิงมูลค่าเติบโต 400% ยอดขายจำนวนเครื่องเติบโต 720% และส่วนแบ่งตลาดเติบโตจาก 1.2% เป็น 10.7% ขึ้นอันดับ 2 ในตลาดสมาร์ทโฟน แต่มีการสลับอันดับขึ้นลงบ้างตามช่วงเวลาที่บางแบรนด์ออกรุ่นใหม่

ทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า

ภาพรวมธุรกิจของหัวเว่ยทั่วโลกมีการเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งรายได้ และการจัดอันดับมูลค่าแบรนด์ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น หัวใจหลักในการเติบโตก็คือการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และเป็นการพูดถึงนวัตกรรมเป็นคนแรกของโลก จะเห็นว่าหลายๆ ฟีเจอร์เราพูดเป็นคนแรก กล้องคู่ กล้อง 4 ตัว หรือ AI แต่ปีนี้เราจะทำให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”

ลงทุนในไทยต่อเนื่อง เป้าเบอร์ 1 ในปี 2020

การทำตลาดในไทยหัวเว่ยได้ใช้ทั้งกลยุทธ์จากโกลบอล และโลคอลผสมกัน โดยการนำนวัตกรรมจากโกลบอล และดูอินไซต์ว่าคนไทยชอบอะไร มีการสื่อสาร และใช้พรีเซ็นเตอร์ระดับโลคอล

หัวเว่ยได้ลงทุนในประเทศไทยต่อเนื่อง เพราะเป็นหนึ่งในประเทศสำคัญที่มีการเติบโต จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี 2016 มีการลงทุนเปิด CSIC เป็นศูนย์เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ และในปีนี้ได้เปิด Huawei Openlab เพิ่มเติม

มีการลงทุนขยายช้อป Huawei Experience Store จากปัจจุบันมี 60 สาขา จะเพิ่มเป็น 90 สาขาในสิ้นปีนี้ มีการเติบโต 6 เท่าภายใน 1 ปี และปัจจุบันมีจุดจำหน่าย 10,000 ร้านค้าทั่วประเทศ รวมถึง Customer Service Center อีก 14 แห่งทั่วประเทศ

เราเป็น 1 ใน 2 แบรนด์สมาร์ทโฟนที่มี Full Line up ครบตั้งแต่ระดับบน กลาง และล่าง ทุกช่วงราคา ถือว่าตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม เป้าหมายของเราต่อไปก็คือต้องการสร้างประสบการณ์ในการใช้ให้ดีที่สุด และเป็นเบอร์ 1 ในตลาดในปี 2020 ให้ได้”

สรุป

– หัวเว่ยเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มาแรงอีกแบรนด์หนึ่ง ที่เติบโตจากนวัตกรรมจริงๆ เพราะคนมีความต้องการเรื่องกล้องถ่ายรูป ทำให้หัวเว่ยประสบความสำเร็จ และการที่นวัตกรรมก้าวเร็วกว่าคนอื่นทำให้นำคู่แข่งได้ด้วย

– สำหรับในประเทศไทยทำให้กำแพงเรื่องทัศนคติที่ไม่ดีต่อแบรนด์จีนหายไปด้วยเช่นกัน จะเห็นว่ามีแบรนด์จีนตบเท้าเข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะคนไทยให้การตอบรับดีขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา