Huawei เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่น P9 โดยมีจุดเด่นเช่นเดิมคือ กล้องที่จับมือกับพันธมิตรจาก Leica เพื่อสร้างความพิเศษให้กับสมาร์ทโฟน และครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ Huawei เปิดตัวผู้บริหารระดับสูงที่เป็นคนไทยครั้งแรก เพื่อยืนยันว่าจากนี้จะเริ่มวางรากฐานทางธุรกิจ เพื่อเป้าหมายเป็นอันดับ 1 ใน 5 ปี และ ทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ Huawei Consumer Business Group ได้แถลงข่าวโดยมีประเด็นดังนี้
- Huawei มองว่าตลาดโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย ยังมีแนวโน้มที่ดี ตลาดอาจจะชะลอตัวมาบ้างจากสภาพเศรษฐกิจ แต่ Huawei ยังมีการเติบโตอยู่ โดยล่าสุดมีส่วนแบ่งตลาด 2% และจากนี้จะเริ่มต้นบุกตลาดอย่างจริงจัง
- สำหรับแผนจากนี้ ภายใน 2-3 เดือนอยู่ระหว่างการวางรากฐานธุรกิจให้แน่น โดยมุ่งขยายช่องทางจำหน่าย โดยคุยกับผู้ให้บริการมือถือทุกราย รวมถึงช่องทาง Modern Trade และ ร้านขายกล้อง ซึ่งไม่เคยมีมือถือขายมาก่อน ขณะที่ตัวแทนจำหน่าย จะใช้ 3 รายหลัก คือ Jmart, TG และ CSC เพื่อกระจายไปยังรายย่อยทั่วประเทศ พร้อมกับสร้างบริการหลังการขาย ซ่อมภายใน 1 ชั่วโมง ถ้าไม่ได้ เปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ทันที
- การเปิดตัว Huawei P9 มียอดจองเข้ามามากกว่าเป้าที่วางไว้ 2 เท่า แสดงให้เห็นถึงการตอบรับของตลาด และการมีพันธมิตรกับ Leica ถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้กับ Huawei รวมถึงการมองไทยเป็นหนึ่งในประเทศกลยุทธ์สำคัญ ทำให้ครั้งนี้ Huawei จะรุกตลาดอย่างหนัก ช่วงแรกเตรียมงบการตลาดไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท
- Huawei P9 วางตลาด 2 รุ่น เน้นเจาะกลุ่มตลาด Mid-Premium ราคา 16,990 บาท หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว สำหรับรุ่น P9 และ ราคา 21,990 บาทสำหรับรุ่น P9 Plus หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว เป็นสมาร์ทโฟน ที่รวม 3 แกน คือ Hitech, Fashion และ Art ตั้งเป้ายอดขายทั่วโลก 10 ล้านเครื่อง
- ด้วยการทุ่มงบการตลาดที่ค่อนข้างมาก Huawei ตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 15% (จากปัจจุบัน 2%) และขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาดภายใน 5 ปี
- สำหรับ ทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ Huawei Consumer Business Group รับผิดชอบด้านการวางกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ พร้อมทั้งดูแลภาพรวมการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจคอนซูมเมอร์ ประจำประเทศไทย ในอดีตมีส่วนสำคัญในการพัฒนาธุรกิจต่างๆ ภายใต้แบรนด์ซัมซุงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีประสบการณ์กว่า 12 ปี ในธุรกิจด้านโทรคมนาคมและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนของซัมซุงจาก 7% ในปี 2006 เป็น 35% ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี
บทวิเคราะห์
Huawei เข้ามาในตลาดไทยเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี แต่อยู่ในฝั่งโครงข่าย และขยับมาทำตลาดทั่วไปอย่างชัดเจนประมาณ 2 ปีนี้ แต่ก็ยังไม่เห็นการรุกตลาดหนักๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีส่วนแบ่งตลาดน้อย เมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ครั้งนี้ การมีผู้บริหารไทย น่าจะทำให้ Huawei เข้าใจตลาดไทยมากขึ้น และการทุ่มงบการตลาดเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท น่าจะมีผลต่อยอดขายพอสมควร เชื่อว่าถ้ามีการทำตลาดต่อเนื่อง Huawei จะสร้างส่วนแบ่งตลาดเพิ่มได้
อีกส่วนที่สำคัญคือ P9 เป็นการรวมพันธมิตรกับ Leica เป็นกล้องและเลนส์ระดับโลกที่มีแฟนผู้ใช้อยู่พอสมควร ทำให้ Huawei ได้ชื่อเรื่องคุณภาพกล้อง น่าจะช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ Huawei ต้องตัดสินใจและบริหารให้ดีคือ การขยายช่องทางจำหน่าย โดยปัจจุบัน Operator Model หรือการขายผ่านผู้ให้บริการ มีผลต่อยอดขายอย่างมาก ทั้งในด้านการทำส่วนแบ่งตลาดจากเครื่องระดับล่าง (1,000 – 5,000 บาท) และการทำรายได้จากเครื่องระดับบน (18,000 บาทขึ้นไป) ดังนั้น Huawei ต้องมีความชัดเจนในเรื่องนี้ และต้องทำตลาดโดยเร็ว เพราะ เจ้าตลาดอย่าง Samsung หรือ แบรนด์ร่วมประเทศอย่าง Lenovo คงไม่ยอมง่ายๆ เช่นกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา