เป็นไปได้ที่หลายคน มองว่าหัวเว่ยนั้นผลิตมือถือเพื่อมาครองพื้นที่การตลาด โดยน้อยคนที่จะทราบว่าต้นกำเนิดของหัวเว่ยมาจากธุรกิจด้านผู้ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรวมไปถึงอุปกรณ์อัฉริยะ โดยแบ่งได้ 4 โดเมนหลักคือ เครือข่ายโทรคมนาคม ไอที อุปกรณ์อัจฉริยะและบริการ Cloud
การเข้ามาทำตลาดมือถือในช่วงแรกเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ภายหลัง เราสามารถรับรู้ได้ถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดดจนมาอยู่แถวหน้าของแบรนด์ระดับพรีเมียม อะไรเป็นเบื้องหลังที่ทำให้บริษัทมาไกลสู่ระดับโลกได้ขนาดนี้ เราลองมาดูกัน
บ่มเพาะและสร้างความเชื่อมั่นด้วยนวัตกรรม
ย้อนกลับไปเมื่อ3-4ปีที่แล้ว ตลาดสมาร์ทโฟนแบรนด์โดยเฉพาะจากประเทศจีน ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมในประเทศไทยมากนัก และโดยเฉพาะการแข่งขันของตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมเป็นการฟาดฟันของ 2 ผู้เล่นใหญ่อย่างที่ทราบกันอยู่แล้ว
หัวเว่ยได้มองภาพตลาดแล้วว่าเทรนด์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะในไทยมีใช้สมาร์ทโฟนเป็นกล้องถ่ายรูป จึงเน้นเป็นคุณสมบัติหลัก จากนั้นจึงจับมือกับ “ไลก้า” นำพันธมิตรระดับโลกมาช่วยสร้างแบรนด์ให้น่าเชื่อถือมากขึ้น โดยได้เปิดตัว HUAWEI P9 Series สมาร์ทโฟน กล้องคู่ระดับลักซ์ชัวรี่ในการรุกตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์แรกที่พัฒนานวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI สำหรับการเพิ่มศักยภาพของสมาร์ทโฟนที่ไม่ได้เน้นเพียงแต่ฟีเจอร์การถ่ายภาพ แต่ AI ของหัวเว่ยนั้นสามารถช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่เหนือกว่าและสะดวกสบาย ล่าสุดหัวเว่ยเพิ่งเปิดตัว HUAWEI Mate 20 Series สมาร์ทโฟนที่ได้ชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีนวัตกรรมที่ล้ำสมัยที่สุด ณ เวลานี้เลยก็ว่าได้
ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ในงาน Huawei Connect 2018 ทางหัวเว่ยประกาศร่วมมือกับรถยนต์สัญชาติเยอรมัน Audi เพื่อพัฒนา smart car อีกด้วย
การเดินเกมที่ถูกจังหวะและถูกจริตผู้บริโภคนี้ ทำให้หัวเว่ยมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งในระดับโลก และในประเทศไทย โดยทำให้ภาพลักษณ์ของหัวเว่ยดีขึ้น คนเปิดใจรับมากขึ้น มีการเปลี่ยน Perception ที่มีต่อแบรนด์จีนให้ดีขึ้น
สิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากการทำงานหนักบวกด้วยพลังกายของคนหัวเว่ย โดยปัจจุบันบริษัทมีพนักงานมากถึง 180,000 โดยมีศูนย์ร่วมมือ แลปวิจัย และอื่นๆโดยรวมมากถึงเกือบ 50 ศูนย์
มองย้อน 2 ปีกับความสำเร็จระดับโลก
หากมองย้อนดู milestone ความสำเร็จนั้น เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาและทำได้ในระดับสากลเลยทีเดียว ด้านล่างเป็นเพียงบางสำเร็จบางส่วน ในด้านแบรนด์และสินค้าที่ ยกมาให้ลองดู
2018
พ.ค.:หัวเว่ย (Huawei) บริษัทเเดียวในประเทศจีน ที่เป็นแบรนด์ที่มีค่ามากที่สุดในโลก จัดทำโดยบริษัท Forbes ด้วยมูลค่าแบรนด์ 8.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
มี.ค.:หัวเว่ย (Huawei) เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรี่ส์ HUAWEI P20 และ Porsche Design HUAWEI Mate RS ซึ่งสามารถทำคะแนน 109 คะแนนจาก DxOMark ซึ่งเป็นคะแนนที่สูงที่สุด ณ ขณะนั้น
2017
ต.ค.:หัวเว่ย (Huawei) เปิดตัวซีรีส์ HUAWEI Mate 10 ชูแอปพลิเคชันมือถือ AI ใหม่โดยการรวมฮาร์ดแวร์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่เข้ากับชิปเซ็ตที่ผลิตเอง Kirin 970 และ EMUI 8.0
ก.ย.:Interbrand ได้ประกาศรายชื่อแบรนด์ยอดเยี่ยมโลกที่ดีที่สุดประจำปี 2017 และยืนยันการเลื่อนอันดับให้ Huawei ไปที่ลำดับ 70 ซึ่งแบรนด์มีมูลค่ามากถึง 6.676 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14%
ก.ย.:หัวเว่ย (Huawei) ได้เปิดตัว Kirin 970 ที่งาน IFA 2017 ซึ่ง Kirin 970 ได้รับรางวัล IFA 2017 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดโดย Android Authority
พ.ค.:Forbes ได้ประกาศเปิดตัวรายชื่อแบรนด์ที่มีค่าที่สุดของปี 2017 โดยหัวเว่ย (HUAWEI) ได้รับการจัดอันดับที่ 88 ด้วยมูลค่าแบรนด์ 7.3 พันล้านเหรียญและเป็นแบรนด์เดียวของประเทศจีนที่ทำได้
ล่าสุด (2018) หัวเว่ยได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Huawei P20 Pro ด้วยการพัฒนาที่ก้าวกระโดดจากรุ่นก่อนๆ จนได้ตำแหน่งมือถือกล้องดีที่สุด
สรุป
- Huawei เป็นเป็นแบรนด์ที่หลายคนจับตามอง มีการร่วมมือกับแบรนด์ผู้ผลิตสินค้าระดับโลก เช่น Leica และ Audi ทั้งยังทุ่มงบการตลาด และนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง
- มีศูนย์วิจัยกระจายทั่วโลก และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจและการเติบโตในระยะยาว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา