ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับออสเตรเลียยังแย่อย่างต่อเนื่อง และแบรนด์จีนอย่าง Huawei ก็ได้รับผลกระทบนี้เต็มๆ เพราะล่าสุดต้องปลดพนักงานจนเหลือเพียง 200 คน และยกเลิกการลงทุนต่างๆ ในออสเตรเลียหลังจากนี้
ทำตลาดลำบากก็พักทุกอย่างเอาไว้
Jeremy Mitchell ประธานเจ้าหน้าที่กิจการองค์กร Huawei ประจำประเทศออสเตรเลีย ยอมรับว่า นับตั้งแต่ถูกทางการออสเตรเลียห้ามติดตั้งอุปกรณ์ 5G โดยอ้างเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลเมื่อปี 2561 ภาพรวมธุรกิจของ Huawei ที่นี่ต้องประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นการต้องทยอยปรับลดพนักงานจาก 1,200 คน เหลือ 200 คนในปีนี้ และปี 2564 มีแนวโน้มว่าจะต้องปรับลดพนักงานลงอีก ส่วนในมุมเงินลงทุนน Huawei ประจำประเทศออสเตรเลียได้ยกเลิกงบวิจัย และพัฒนาลง 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียนับตั้งแต่การถูกห้ามติดตั้งอุปกรณ์ 5G เช่นกัน
นอกจากนี้การที่ธุรกิจประสบปัญหาอย่างหนัก ทำให้ Huawei ประกาศหยุดสนับสนุนลุกการแข่งขันรักบี้ในประเทศออสเตรเลียเร็วขึ้น 1 ปี แสดงให้เห็นถึงการถอยทัพจากตลาดนี้ ผ่านเหตุผลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ยังไม่ดีขึ้นเสียที
โดยเฉพาะทางการออสเตรเลียที่ออกมาสนับสนุนการตรวจสอบการระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศจีน ทำให้ทางการจีนรู้สึกไม่ดี และทำการแบนสินค้าต่างๆ ที่นำเข้าจากออสเตรเลีย เช่นเนื้อ, ข้าวบาร์เลย์, ไวน์ และอื่นๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ
สรุป
เมื่อจีน และออสเตรเลียยังมีปัญหากันอยู่ ธุรกิจต่างๆ ที่มีต้นกำเนิดจากจีน และทำตลาดในออสเตรเลียก็คงอยู่ลำบาก จึงไม่แปลกที่ Huawei จะพยายามลดคน และการลงทุน เพื่อนำไปใช้ในประเทศที่ให้กำไรมากกว่า และคงต้องดูกันต่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนี้จะดีขึ้นหรือไม่
อ้างอิง // Reuters
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา