BUSINESS MANAGER เครื่องมือสร้างแบรนด์ ปิดการขาย ตอบโจทย์และรู้ใจลูกค้ามากขึ้น

ยุคนี้คือยุคทองของการใช้ข้อมูล ยิ่งคนทำธุรกิจรู้จักใช้ประโยชน์จากข้อมูลมากเท่าไร ยิ่งได้เปรียบ หมดยุคปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่เป็นยุคทองของคนใช้ข้อมูลได้ชาญฉลาดเท่าไร ก็ยิ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้นเท่านั้น 

ในช่วงปีที่ผ่านมา LINE ได้นำเสนอเครื่องมือด้านการตลาดที่น่าสนใจ นั่นก็คือ BUSINESS MANAGER ดาต้าโซลูชั่นใหม่ ตัวช่วยสำคัญด้านข้อมูลที่ช่วยทำให้แบรนด์นำเสนอสินค้าและเสนอทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่มีอยู่หลากหลายได้อย่างเจาะลึกมากยิ่งขึ้นบน LINE ทั้งยังช่วยลดต้นทุนในการสร้างการรับรู้ที่มีต่อแบรนด์ ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า สามารถยิงแอดเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการได้ตรงใจมากขึ้น เครื่องมือนี้ทำงานอย่างไร ช่วยลดต้นทุนแค่ไหน มาดูกัน

LINE BUSINESS MANAGER

BUSINESS MANAGER และประโยชน์จากการใช้ข้อมูลทำการตลาดแบบ Cross Targeting บน LINE

ทุกวันนี้ ไม่ว่าแบรนด์เล็กหรือแบรนด์ใหญ่ต่างก็อาศัยข้อมูลจากหลากหลายช่องทางมาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อจะนำเสนอสินค้าและบริการได้ตอบโจทย์ผู้บริโภคกันทั้งนั้น BUSINESS MANAGER คือ เครื่องมือจัดการข้อมูลบน 3 เครื่องมือการตลาดสำคัญบน LINE คือ LINE OA, LINE Ads และ LINE Smart Channel

แต่เดิมนักการตลาดสามารถแชร์ข้อมูลระหว่าง LINE OA และ LINE Ads ได้อยู่แล้ว หากเป็นบัญชีที่ผูกกันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง คือ LINE OA 1 บัญชี ผูกกับ LINE Ads 1 บัญชีเท่านั้น BUSINESS MANAGER เข้ามาช่วยเพิ่มโอกาสในการแชร์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายให้สามารถแชร์ข้ามบัญชีอื่นๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นบัญชีที่ผูกกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น การแชร์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายข้ามผลิตภัณฑ์ ข้ามเอเจนซี่ แต่ข้อมูลทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้เจ้าของหรือองค์กรเดียวกันเท่านั้น จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับองค์กรใหญ่ที่มี LINE OA และ/หรือ LINE Ads หลายบัญชี หรือมีหลายเอเจนซี่ช่วยดูแลกิจกรรมการตลาดบน LINE ร่วมกัน 

เพื่อให้นักการตลาดได้เห็นถึงการใช้ BUSINESS MANAGER เพื่อทำ Cross Targeting ได้ชัดเจนขึ้น Brand Inside จึงขอยกตัวอย่างการใช้งานเพื่อสร้างประสิทธิภาพของการสื่อสารและการยิงโฆษณาไปสู่กลุ่มเป้าหมาย ผ่านการแชร์ข้อมูลโดย BUSINESS MANAGER 

สามารถทำได้ 6 รูปแบบด้วยกัน ดังนี้

LINE BUSINESS MANAGER

1) แชร์กลุ่มเป้าหมายที่ติดตาม LINE OA ของแบรนด์หนึ่ง ไปใช้ยิงโฆษณาบนบัญชี LINE Ads ของอีกแบรนด์หนึ่ง

ธุรกิจส่วนใหญ่มักจะมี LINE OA อยู่แล้ว การยิง Ads หรือยิงโฆษณาจะมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่ที่แตกแบรนด์ย่อย หรือทำแบรนด์ใหม่ภายใต้เครือบริษัทเดียวกัน เช่น หลายองค์กรยักษ์ใหญ่ในไทยที่มีลูกค้าหลากหลายเพราะมีสินค้าในไลน์การผลิตทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้ภายในบ้าน และอื่นๆ รวมอยู่ในเครือแบรนด์ใหญ่แบรนด์เดียว

บริษัทสามารถใช้ข้อมูลจากแพลตฟอร์มเพื่อยิงโฆษณาหรือหาลูกค้าเพิ่มจากสินค้าในแบรนด์ที่แตกต่างได้ ด้วยการนำข้อมูลผู้ติดตามหรือ Friend list จาก LINE OA ของแบรนด์เดิมส่งไปให้แบรนด์ใหม่เพื่อยิงแอดเพิ่มลูกค้า เช่น ลูกค้าเป็นกลุ่มคนรักสุขภาพชอบดื่มน้ำแร่ แบรนด์อยากกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาดื่มน้ำเต้าหู้เพิ่ม เนื่องจากเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพเหมือนกัน ก็สามารถใช้ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์น้ำแร่ มายิงโฆษณาสำหรับแบรนด์น้ำเต้าหู้ เป็นต้น ถือเป็นการช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น

ข้อมูลจากการทดสอบของ LINE ในธุรกิจค้าปลีก พบว่า CTR หรือ Click Through Rate หรือสัดส่วนของคนที่เห็นโฆษณาและคลิกหาแบรนด์เพิ่มขึ้น 1.8 เท่า สัดส่วนยิ่งสูง ยิ่งสะท้อนความคุ้มค่าของการลงทุน

2) แชร์กลุ่มเป้าหมายที่คลิกข้อความบรอดแคสต์บน LINE OA ของแบรนด์หนึ่ง ไปยิงโฆษณาบนบัญชี LINE Ads ของอีกแบรนด์หนึ่ง

การแชร์ข้อมูลรูปแบบนี้ เป็นการเลือกหากลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มที่จะมีความสนใจในสินค้าที่ใกล้เคียงกัน โดยจำแนกพฤติกรรมจากการกดข้อความบรอดแคสต์ เช่น บริษัทเครื่องดื่ม ที่เดิมจำหน่ายชาที่มีหลากหลายกลิ่นรวมถึงกลิ่นผลไม้ และเมื่อเปิดสินค้าตัวใหม่ที่เป็นน้ำผลไม้ จึงเลือกหยิบกลุ่มเป้าหมายที่เคยกดข้อความบรอดแคสต์ชากลิ่นผลไม้มายิงแอดให้กับน้ำผลไม้ ซึ่งถึงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจใกล้เคียงกัน การทำ Cross Targeting เช่นนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการยิงแอด สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำมากขึ้น  

LINE BUSINESS MANAGER

3) แชร์กลุ่มเป้าหมายที่เคยคลิกโฆษณาของแบรนด์หนึ่งไปยิงโฆษณาให้อีกแบรนด์หนึ่งได้ 

กรณีนี้ คล้ายกับการแชร์ข้อมูลในรูปแบบที่สอง ต่างกันที่รูปแบบนี้ เป็นการแชร์กลุ่มเป้าหมายที่เคยคลิกโฆษณา นั่นหมายถึงว่า เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีการคลิกโฆษณาที่อยู่บนพื้นที่ต่างๆ บน LINE Ecosystem ดังนั้นจะถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น ไม่ใช่เพียงแต่เฉพาะในกลุ่มผู้ติดตาม LINE OA เท่านั้น การทำในรูปแบบนี้ ไม่เพียงได้กลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มความสนใจในสินค้า แต่ยังเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายออกไปสู่นอก LINE OA เดิมที่บริษัทหรือแบรนด์มีอยู่เดิมด้วย 

4) แชร์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่เข้าชมเว็บไซต์ของแบรนด์หนึ่ง ไปยิงโฆษณา LINE Ads ของอีกแบรนด์หนึ่ง 

ในแต่ละครั้งที่แบรนด์สร้างแคมเปญโฆษณาบน LINE Ads โดยเฉพาะการสร้างแคมเปญโฆษณาที่ดึงกลุ่มเป้าหมายไปสู่เว็บไซต์ จะมีเครื่องมือที่เรียกว่า LINE Tag ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมของลูกค้าในการคลิกโฆษณาว่าเข้าไปถึงจุดไหนของเส้นทางการขายที่แบรนด์สร้างไว้ 

ทำให้รู้ว่ามีกลุ่มเป้าหมายคนใดบ้างที่เข้าไปชมเว็บไซต์ของแบรนด์ ด้วยเครื่องมือ BUSINESS MANAGER แบรนด์สามารถหยิบกลุ่มเป้าหมายนี้ แชร์ให้กับอีกผลิตภัณฑ์หรือเอเจนซี่เพื่อยิงแอดทำแคมเปญเพื่อตอกย้ำและปิดการขาย หรือแม้แต่ยิงแอดให้กับอีกสินค้าที่เกี่ยวข้องหรือต้องใช้คู่กันได้

LINE BUSINESS MANAGER

5) แชร์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์เก็บจากลูกค้าโดยตรง (1st party data) ไปให้อีกแบรนด์ใช้ในการยิงโฆษณา 

หลายแบรนด์ในปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับ 1st party data มีการเก็บข้อมูลความสนใจของลูกค้าเองโดยตรง ทั้งจากการทำแบบสอบถาม กิจกรรมการตลาดต่างๆ ข้อมูลเหล่านี้ มักมีประโยชน์มากในการใช้จำแนกลูกค้าได้อย่างละเอียดและแม่นยำขึ้น เช่น ข้อมูลด้านอายุ พื้นที่อาศัย อาชีพ  ความสนใจหรือชื่นชอบ เป็นต้น โดยแบรนด์สามารถแชร์ข้อมูลเหล่านี้ให้กับอีกแบรนด์ภายใต้องค์กรเดียวกันผ่าน BUSINESS MANAGER เพื่อให้อีกแบรนด์สามารถนำไปสร้างแคมเปญการสื่อสารบน LINE OA และยิงแอดบน LINE Ads ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุนซ้ำซ้อนของบริษัทในการเก็บข้อมูลลูกค้า 

6) แชร์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่เคยเห็นหรือคลิกชมโฆษณาบน LINE Smart Channel ไปใช้ยิงโฆษณาบน LINE Ads ได้ 

แบรนด์สามารถใช้ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ LINE Smart Channel เป็นช่องทางโฆษณาที่เข้าถึงผู้ใช้งาน LINE จำนวนมาก กลุ่มเป้าหมายที่เคยรับชมหรือเคยคลิกโฆษณาบน LINE Smart Channel จึงมีจำนวนมากตามไปด้วย แบรนด์สามารถแชร์กลุ่มเป้าหมายที่เคยรับชมหรือเคยคลิกโฆษณาดังกล่าวนี้ ไปให้อีกแบรนด์ใช้ประโยชน์ในการยิงแอด ไม่เพียงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านความสนใจ แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในด้านจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่สามารถเข้าถึงได้ด้วย ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ที่เข้าชมโฆษณาบน LINE Smart Channel อาจไม่ใช่ฐานลูกค้าเดิม การใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าใหม่สนใจและเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์มากยิ่งขึ้น

สรุป 

BUSINESS MANAGER คือ เครื่องมือสำคัญสำหรับการทำตลาดของธุรกิจยุคนี้ ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายบนแพลตฟอร์ม LINE สามารถส่งต่อไปยังแบรนด์ลูก แบรนด์พี่ แบรนด์น้อง ทำให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้นผ่านการใช้ข้อมูลที่แชร์กันได้สะดวก โดยมีการทดสอบจาก LINE ว่าการทำการตลาดแบบนี้ หรือที่เรียกว่า Cross Targeting สามารถช่วยให้แบรนด์เพิ่ม CTR ได้มากขึ้นถึง 46% เรียกได้ว่า ไม่ใช่แค่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความแม่นยำ แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดต้นทุนด้วย

LINE BUSINESS MANAGER

แบรนด์สามารถใช้งาน BUSINESS MANAGER ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม! สามารถติดต่อเอเจนซี่ที่ดูแลแบรนด์ของท่านได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือสามารถเลือกติดต่อเอเจนซี่พันธมิตรของ LINE ได้ที่ https://lineforbusiness.com/th/partner ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BUSINESS MANAGER ได้ที่ https://lineforbusiness.com/th/service/businessmanager 

#LINEBUSINESSMANAGER #LINEforBusiness

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา