เงินอยู่ในอากาศ อยู่ที่ว่าจะคว้ามันได้ไหม ถอดบทเรียน ‘วิชาฝ่าวิกฤต’ จากคุณตัน

ถ้ารู้สึกท้อ ให้บอกกับตัวเองว่าสู้ๆ นะ ไม่มีอะไรที่เราทำได้ (อ้าว)

ตัน ภาสกรนที

ท่ามกลางข่าวสารบ้านเมือง ปัญหาวุ่นวายไปทั่วโลก แถมเศรษฐกิจในประเทศก็ยังไม่ดี คำถามคือ พวกเราจะฝ่าวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร?

‘ตัน ภาสกรนที’ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยบนเวที ‘Creative Talk Conference 2025’ ว่า ตั้งแต่ทำงานมาจนถึงปัจจุบัน วิกฤตครั้งนี้หนักสุด โดยสิ่งที่น่ากลัวสำหรับการทำธุรกิจหรือการลงทุนคือ มันมีความไม่แน่นอน ไม่รู้จะเอาอย่างไร และไปต่อไม่ได้

ต่อให้เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่โตขนาดไหน แต่ ‘ตัน’ สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป เพราะเขาเองก็มีกิจการทั้งตลาดนัดและโรงแรม ทำให้เห็นเลยว่าคนหายไปจริงๆ

“ในภาพรวม ผมรู้เลยว่าทุกอย่างหยุดหมด ทุกคนรอหมด ยกเว้นไม่กี่คน ผมเป็นหนึ่งในนั้นที่ชอบบรรยากาศแบบนี้ แต่ว่าอย่าเลียนแบบผมนะ อันนี้เป็นของชอบส่วนตัว แต่ถ้านักธุรกิจหรือบริษัทใหญ่ๆ ตอนนี้ทุกคนพูดคือ หยุด” ตันกล่าว

เอ๊ะ แล้วที่พูดว่า “ผมคือหนึ่งในนั้นที่ชอบบรรยากาศแบบนี้” หมายความว่าอะไร มาดูกัน

วิกฤตคือโอกาสทองของคนที่กล้าและมองเห็น

ตัน ภาสกรนที

แม้ตันจะพูดเองว่า วิกฤตครั้งนี้หนักจริงๆ แต่ก็ไม่อยากให้ทุกคนตกใจไป เพราะสำหรับเขาแล้ว นี่คือโอกาสของคนที่กล้าและมองเห็น สวนกระแสทุกคนที่เลือกหมอบหมด

“มันเป็นโอกาสของเรา เพียงแต่เรามองเห็นไหม เราอึดพอไหมที่จะผ่านมัน ส่วนใหญ่แล้ว เวลามีวิกฤต อย่างโควิด ที่เชียงใหม่มีวันนิมมาน ค่าเช่านี่แทบจะลด 50% บางร้านต้องแถมเงินเขาด้วย มึงอยู่เถอะ มึงเชื่อกู เพราะว่าคุณต้องอยู่จนพ้นจุดที่มันจะขึ้น”

ตันเป็นคนที่อยู่ด้วยความเชื่อ และเขาเชื่อว่า พระอาทิตย์ขึ้นแล้วลง น้ำขึ้นแล้วลง เช่นเดียวกันกับวิกฤต

“วิกฤตผ่านไปปุ๊ป มันก็จะรุ่ง เราอยู่ไหมตอนรุ่ง แค่นี้เอง” 

ดังนั้น ตันมองว่า วิกฤตคือโอกาสทองของใครหลายคน แต่มันขึ้นอยู่กับว่า คุณเชื่อและกล้าไหม เพราะถ้าเชื่อว่าทำได้ ออกไปหาโอกาสทุกวัน เดี๋ยวก็เจอ

แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะหาโอกาสเจอ?

ตันคงให้คำแนะนำไม่ได้ เพราะตัวเขาเองยังมองหาโอกาสอยู่เรื่อยๆ เช่นกัน โดยบอกว่า ที่ตนมีวันนี้ ก็เพราะเป็นหนี้ร้อยล้านในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง

“ถ้าวันนั้นผมไม่เป็นหนี้ร้อยล้าน วันนี้ไม่มีคุณตันหรอก” เพราะมันทำให้เขาฉลาดขึ้น ป้องกันตัวเองทัน และมองเห็นถึงโอกาส ซึ่งในมุมมองของเขา วิกฤตมาทุก 5 ปีอยู่แล้ว หากโดนเข้ากับตัวเลย ก็จะตั้งรับได้เก่งกว่าเดิม

เงินอยู่ในอากาศ ต่อให้มีวิกฤต ก็ยังมีเงินอยู่ตรงนั้น

คุณอาจคิดว่า คุณตันก็พูดได้นี่ เพราะถ้าล้ม ยังไงเงินก็เหลือ แต่ตันบอกว่า จริงๆ แล้ว ไม่ได้มีใครต่ำกว่าเขาไปเสียเท่าไรหรอก

พื้นเพของตันคือ เรียนไม่จบแม้แต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทิ้งการเรียนแล้วไปทำงานแบกของบ้าง ขายหนังสือพิมพ์บ้าง ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อคือ เราทุกคนทำได้อยู่แล้ว เพียงแค่จะเชื่อในตนเองไหมเท่านั้นนี่สิ

“ถ้าคุณเชื่อ คุณก็ทำได้ แล้วเชื่อไม่เชื่อ มันต่างกันตรงไหนรู้ไหม? มันคือการบั่นทอนจิตใจของตนเอง ง่ายนิดเดียว ตื่นเช้ามา โอ๊ย เศรษฐกิจไม่ดี  พ่อแม่เราก็ไม่รวย เราก็ไม่หล่อไม่สวย เราก็เรียนน้อย จบ งั้นก็อย่าไปเลย อยู่บ้านนอนต่อ กับอีกคนหนึ่ง กูจะออกไปหา กูต้องรวย เงินอยู่บนอากาศเต็มไปหมดเลย วิกฤตมันก็มีเงิน เพียงแต่ว่ามันอาจจะน้อยหน่อย”

ตันยอมรับว่า ในตอนแรก เป็นคนที่ไม่มีความรู้และไม่มีประสบการณ์ ส่วนธุรกิจที่ทำมา จนประสบความสำเร็จ ก็มาจากการไปครูพักลักจำคนอื่นเขา

“จริงๆ ความรู้ผมได้มาจากการฟัง แล้วตอนเด็กๆ ผมเป็นคนที่ประหยัดมาก แต่เงินที่ประหยัดทั้งหมด ผมเอาไปใช้หมดเลย เที่ยวหมดเลย ผมประหยัด แล้วผมก็เอาเงินของผมไปฟังคนอื่นพูด ไปเที่ยว ไปดู ไปก็อปปี้ ทุกอย่างที่ผมเห็น ผมก็รวบมา แล้วก็เลยเป็นธุรกิจของผม” ตันกล่าว

จะไม่ออกจากห้องซาวนา จนกว่าจะคิดออก

ตัน ภาสกรนที

หลักคิดของแต่ละคนก็สำคัญ โดยตันเป็นคนที่ชอบดูหนังญี่ปุ่น แนวซามูไร ที่จะฮาราคีรีหรือฆ่าตัวตายเมื่อทำพลาด ส่งผลให้เขาเชื่อว่า หากรับงานอะไรมาแล้ว ต้องทำงานให้สำเร็จ มิเช่นนั้น อาจมีจุดจบเฉกเช่นในภาพยนตร์

อีกหนึ่งวิธีการคิดของตันคือ เขาเป็นคนที่ชอบเข้าห้องซาวนาเวลาคิดอะไรไม่ออก แต่ไม่ได้เข้าไปเพื่อพักผ่อน แต่เข้าไปทรมานตนเองด้วยการเพิ่มอุณหภูมิห้องให้สูงกว่าปกติ และใช้เวลาอยู่ในนั้นจนกว่าจะคิดออก

จริงๆ แล้ว แนวคิดของตันก็ถือว่าดี แต่อาจไม่เหมาะกับทุกคนเท่าไร เพราะในความเป็นจริง มันไม่มีกลยุทธ์หรือคำแนะไหนที่จะเอามาใช้ได้กับทุกๆ สถานการณ์ 

สิ่งที่ตันทำแล้วประสบความสำเร็จ ใช่ว่าจะทำให้ทุกคนพาตนเองไปถึงเป้าหมายเหมือนกันได้หมด แต่ไม่ว่าคุณอยากลองผิดลองถูกด้วยวิธีไหน สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ วันนี้คุณเริ่มหรือยัง?

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา