เมื่อนึกถึงการเลือกซื้อยางรถยนต์ หลายคนมักให้ความสนใจไปที่แบรนด์ และซีรีส์ที่แตกต่างกันไป แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า การเลือกลายดอกยางที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ได้มากขึ้น และยืดอายุการใช้งานของยางได้อย่างมาก วันนี้เรามาทำความรู้จักกับประเภทของลายดอกยาง และการเลือกใช้ให้เหมาะกับการใช้งานกันดีกว่า
ลายดอกยางมีประเภทอะไรบ้าง
ในการเลือกซื้อยางรถยนต์ส่วนใหญ่ หลายคนอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลายดอกยางมีกี่ประเภท และแตกต่างกันอย่างไร เราจะมาอธิบายให้หายงงกัน
ลายดอกยางแบบสมมาตร (Symmetric Pattern)
ลายดอกยางแบบสมมาตรเป็นลายดอกยางแบบดั้งเดิมที่พบเห็นได้ทั่วไป ลักษณะเด่นคือมีรูปแบบที่เหมือนกันทั้งสองด้านของยาง สามารถสลับตำแหน่งหรือหมุนได้โดยไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ลายดอกประเภทนี้มักมีร่องขวางตัวยางหลายร่องเพื่อช่วยในการระบายน้ำและป้องกันการลื่นไถล
ลายดอกยางแบบอสมมาตร (Asymmetric Pattern)
ลายดอกยางแบบอสมมาตรมีลักษณะพิเศษคือมีลายดอกที่แตกต่างกันระหว่างด้านในและด้านนอกของยาง โดยด้านในมักออกแบบมาเพื่อระบายน้ำ ส่วนด้านนอกออกแบบเพื่อเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะถนนขณะเข้าโค้ง ยางประเภทนี้จะมีเครื่องหมายบ่งบอกด้าน “OUTSIDE” และ “INSIDE” อย่างชัดเจน
ลายดอกยางแบบทิศทางเดียว (Directional Pattern)
ลายดอกยางแบบทิศทางเดียวหรือที่เรียกว่า “ยางบังคับทิศทาง” มีลักษณะคล้ายรูปตัว V หรือลูกศรที่ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน ออกแบบมาเพื่อการระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง ยางประเภทนี้ต้องติดตั้งให้ลูกศรชี้ไปด้านหน้าของรถเท่านั้น และสามารถสลับได้เฉพาะล้อซ้าย-ขวาในแกนเดียวกันเท่านั้น
การเลือกลายดอกยางให้เหมาะกับการใช้งาน
ในการเลือกใช้ยางที่มีดอกยางแตกต่างกัน จำเป็นจะต้องคิดทำความเข้าใจปัจจัยและเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้
การใช้งานในสภาพถนนต่าง ๆ
- ถนนแห้ง : ลายดอกยางแบบอสมมาตรเหมาะกับการขับขี่บนถนนแห้ง เพราะให้พื้นที่สัมผัสกับถนนมาก ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะและความมั่นคงในการขับขี่
- ถนนเปียก : ลายดอกยางแบบทิศทางเดียวเหมาะสมที่สุด เพราะช่วยระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสการเกิดอาการ เหินน้ำหรือการลื่นไถลบนผิวน้ำ
- ถนนลื่น : ยางที่มีร่องดอกลึกและมีบล็อกดอกยางจำนวนมากจะช่วยเพิ่มแรงเกาะบนพื้นถนนที่มีฝุ่นหรือกรวดทราย
การใช้งานในสภาพอากาศ
- ฤดูฝน : ควรเลือกยางที่มีร่องระบายน้ำกว้างและลึก เช่น ลายดอกแบบทิศทางเดียว ซึ่งช่วยระบายน้ำออกจากใต้ดอกยางได้ดี
- ฤดูร้อน : ลายดอกยางแบบสมมาตรหรืออสมมาตร ที่มีพื้นที่สัมผัสกับถนนมากจะช่วยระบายความร้อนและลดการสึกหรอของยาง
สำหรับประเทศไทยซึ่งไม่มีสภาพอากาศหนาวจัดหรือหิมะ ยางรถยนต์ที่ใช้ส่วนใหญ่จึงเป็นยางสำหรับทุกฤดูกาล (All Season Tires) ซึ่งต่างจากประเทศในเขตหนาวที่มีการแบ่งยางตามฤดูกาลอย่างชัดเจน เช่น ยางฤดูหนาว (Winter Tires) หรือยางสำหรับหิมะ ดังนั้นคนไทยส่วนใหญ่จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับยางตามสภาพอากาศมากนัก แต่มักเน้นที่ประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไปและความปลอดภัยในช่วงฤดูฝน
ประเภทรถที่ใช้
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคล : เหมาะกับลายดอกยางแบบสมมาตรหรืออสมมาตร เน้นความนุ่มนวลและเสียงรบกวนต่ำ
- รถกระบะ : ควรเลือกยางที่รับน้ำหนักได้มาก มีลายดอกที่ทนทาน ส่วนใหญ่เป็นลายดอกแบบสมมาตรที่มีร่องลึก
- รถ SUV : เหมาะกับลายดอกแบบอสมมาตรหรือทิศทางเดียว ให้การยึดเกาะดีบนทุกสภาพถนน โดยเฉพาะเมื่อต้องขับบนเส้นทางที่หลากหลาย
นอกจากความสำคัญของลายดอกยางแล้ว การเลือกใช้ยางรถยนต์คุณภาพดีอย่าง NEXEN TIRE แบรนด์ยางสัญชาติเกาหลี ที่ตอบโจทย์สมรรถนะการขับขี่และความคุ้มค่า ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคนใช้รถเป็นประจำ โดยสามารถซื้อได้ที่ร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ศูนย์บริการ B-Quik และ MMS ทุกสาขา รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง Shopee และ Lazada
พิเศษสุด! โปรโมชั่นรับประกันยางบาด บวม แตก ภายใน 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อซื้อยาง 4 เส้น/ใบเสร็จ และลงทะเบียนภายใน 14 วัน สอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก NEXEN TIRE THAILAND
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา