ผลการศึกษาชี้ ถ้าผู้ชายโสดอยากมีความรัก “อย่าถ่ายรูปคู่กับแมว” เพราะผู้หญิงไม่ชอบ

ใครจะไปคิดว่าการถ่ายรูปคู่กับสัตว์เลี้ยงจะส่งผลต่อมุมมองของคน

ล่าสุด ผลของการที่ผู้ชายถ่ายรูปคู่กับแมวมีผลต่อการตัดสินใจของผู้หญิงว่าเธอจะสนใจผู้ชายคนนี้หรือไม่ ผลการศึกษาสรุปออกมาแล้วว่า ผู้หญิงให้ความสนใจผู้ชายที่ไม่ถ่ายรูปคู่กับแมวมากกว่า

ภาพโดย Pexels จาก Pixabay

ผลการศึกษานี้จัดทำโดย Lori Kogan และ Shelly Volsche จากวิทยาลัยสัตวแพทยศาสตร์และชีวเวชศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยโคโลราโด ทั้ง Kogan และ Volsche สำรวจจากผู้หญิงจำนวน 708 คน อายุระหว่าง 18-24 ปี โดยให้ผู้หญิงดูรูปผู้ชายสองรูป รูปหนึ่งเป็นผู้ชายที่ถ่ายคู่กับแมว อีกรูปหนึ่งเป็นผู้ชายที่ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับแมว พบว่า ผู้หญิงมีความสนใจผู้ชายที่ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับแมวมากกว่า

ผู้หญิงเทคะแนนความสนใจให้กับผู้ชายที่ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับแมวมากกว่า โดยการให้คะแนนนี้ จะให้คะแนนทั้งด้านบุคลิกภาพ ความเป็นชาย โอกาสในการนัดเดท และความเป็นไปได้ในการมีความสัมพันธ์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

photo by freepik

ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงให้ความสนใจผู้ชายที่ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับแมวมากกว่า เพราะการถ่ายรูปคู่กับแมวทำให้พวกเธอมองเขาว่ามีความเป็นชายน้อยกว่า น่าเดทน้อยกว่าสำหรับการสานต่อความสัมพันธ์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนี้ เธอยังมองว่าพวกเขาอาจจะกังวลง่าย เครียดง่าย แต่ในแง่บวก เธอก็มองว่าเขาน่าจะเป็นมิตรและเป็นคนเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ มากด้วย

ขณะที่ผู้ชายที่ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับแมวนั้น ผู้หญิงมองว่า มีความเป็นผู้ชายมากกว่า น่าเดทด้วยมากกว่า น่าสานสัมพันธ์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวมากกว่า

Photo by Veronika Bochkareva on Unsplash

หลังจากที่เห็นภาพผู้ชายที่ไม่ได้ถ่ายภาพคู่กับแมว พบว่า 38% ผู้หญิงระบุว่า พวกเขาดูน่าสนใจที่จะออกเดทด้วย ขณะที่ 37% มองว่า อาจจะเดทกับพวกเขาจริงจัง ส่วนอีก 9% ไม่คิดที่จะเดทกับพวกเขา แต่เมื่อดูภาพผู้ชายคนเดียวกันที่ถ่ายรูปคู่กับแมว พวกเขาได้รับความสนใจน้อยกว่า มีเพียง 33% ที่อาจจะเดทกับพวกเขา ซึ่งก็เป็นอัตราเดียวกับพวกที่คิดจะเดทกับเขาจริงจัง และมี 14% ไม่คิดจะเดทกับเขาเลย

เรื่องนี้ Kogan และ Volsche แนะนำว่า ผลการศึกษาดังกล่าวน่าจะมาจากผลผลิตทางวัฒนธรรมที่มีลักษณะเหมารวม ที่พูดถึงคนบุคลิกแมวและบุคลิกหมา (cat person และ dog person) ในวัฒนธรรมอเมริกันจะแบ่งแยกเป็น cat men และ dog men โดย cat men จะมีลักษณะที่มีความเป็นชายน้อยกว่า ขณะที่ dog men มักสื่อถึงผู้ชาย ที่มีความสนใจ หรือชอบเพศตรงข้ามมากกว่า

Photo by Aziz Acharki on Unsplash

ผลการศึกษาดังกล่าว เขาก็อ้างถึงงานศึกษาเมื่อปี 2015 เรื่อง Personalities of Self-Identified “Dog People” and “Cat People” ที่ศึกษาโดย Samuel D Gosling จาก University of Texas at Austin ซึ่งพบว่า มีการกำหนดตัวเองว่าเป็น dog people และ cat people ที่มีบุคลิกภาพแตกต่างกัน ซึ่งงานศึกษานี้ มีกลุ่มตัวอย่างเป็นอาสาสมัคร 4,565 คน มีอายุตั้งแต่ 10 ปี – 95 ปี อายุเฉลี่ยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 23.4 ปี เป็นผู้หญิง 63.3%

แบ่งเป็นสัญชาติอเมริกัน 66.7% แคนาดา 5.1% อังกฤษ 3.5% ออสเตรเลีย 2.4% อินเดีย 1.6% ฟิลิปปินส์ 1.6% สัญชาติอื่นๆ 11.1% และไม่ระบุ 8%

เขาแบ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพ 5 ข้อ คือ ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น (Extraversion), เข้าใจคนอื่น เป็นมิตร (Agreebleness), มีระเบียบวินัย พึ่งพาได้ (Conscientiousness), กังวลต่อหลายสิ่งโดยที่ไม่จำเป็น เครียดง่าย (Neuroticism) และเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ (Openness)

Photo by Preillumination SeTh on Unsplash

โดย dog people จะมีลักษณะที่มีความสนใจต่อสิ่งภายนอก นึกถึงใจคนอื่น เข้าใจคนอื่น และมีระเบียบวินัย พึ่งพาได้ ขณะที่ cat people นั้นมีลักษณะที่จะกังวลง่าย เครียดง่าย แต่ก็จะเปิดกว้าง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เกี่ยวกับวัฒนธรรมมุมมองของแต่ละพื้นที่ด้วย

นอกจากนี้งานศึกษานี้ยังอ้างถึงบุคลิกแบบ canine person (ความหมายเดียวกับ dog people) ด้วยว่า มีลักษณะซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา ใจดี ยึดถือผลประโยชน์เป็นสำคัญ ให้ความช่วยเหลือ มีลักษณะทำงานเป็นทีม

อย่างไรก็ตาม Kogan และ Volsche ก็ระบุไว้ก่อนหน้าแล้วว่า มันอาจจะอิงจากการศึกษาที่เหมารวมมุมมองที่มีต่อ dog people และ cat people หากแบ่งตามสัญชาติที่งานนั้นศึกษาก็เน้นไปที่ชาติตะวันตกมากกว่าตะวันออก อาจกล่าวได้ว่า ถ้าเอาภาพดังกล่าวให้คนในชาติตะวันออกหรือเอเชียมองก็อาจจะมีแนวคิดที่แตกต่างออกไป

ภาพที่ใช้ในงานศึกษา

ที่มา – VICE, Taylor & Francis Online, MDPI

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา