สวนสนุกในฮ่องกง กำลังเผชิญกับช่วงเวลาตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี จากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสวนสนุกคู่แข่งจากประเทศอื่นๆ และภาวะเศรษฐกิจในจีนที่เป็นฐานลูกค้าหลัก เริ่มเติบโตช้าลง
สวนสนุกที่เป็น “หัวหอก” ของเกาะฮ่องกงอย่าง Hong Kong Disneyland ที่ประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง (นับตั้งแต่เปิดกิจการในปี 2005 มีกำไรเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น) แถมจำนวนผู้เข้าชมสวนสนุกยังลดลง 10% ในปีนี้ อันเป็นผลมาจากปัญหาเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้ทัวริสต์จากจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาเที่ยวน้อยลง
Hong Kong Disneyland พยายามแก้ปัญหาโดยประกาศแผนการลงทุนครั้งใหญ่มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ โดยจะมีเครื่องเล่นใหม่ๆ ทยอยเปิดตัวในช่วงปี 2018-2023 ตัวชูโรงคือโซนใหม่ที่ใช้ธีมจากการ์ตูนเรื่อง Frozen ซึ่งจะเป็นดิสนีย์แลนด์แห่งแรกที่มี Frozen ด้วย
ตัวแทนจาก Hong Kong Disneyland ยืนยันว่าไม่ได้รับผลกระทบจากการเปิด Shanghai Disneyland ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งใหญ่กว่า อลังการกว่า และจับกลุ่มคนจีนเหมือนกัน โดยตัวแทนของ Disney ระบุว่าไม่เห็นผลกระทบใดๆ ทางตัวเงิน และการเปิดดิสนีย์แลนด์ที่เซี่ยงไฮ้ ยิ่งช่วยเสริมพลังของแบรนด์ดิสนีย์ในเอเชียให้มากขึ้นไปอีก
สวนสนุกชื่อดังอีกแห่งของฮ่องกงคือ Ocean Park ที่กลับไม่ค่อยขาดทุนแบบดิสนีย์แลนด์ (เคยขาดทุนครั้งเดียวในปี 2003 อันเป็นผลมาจากโรค SARS ระบาด) แต่ในปีนี้กลับขาดทุน 241 ล้านฮ่องกงดอลลาร์ ถือเป็นการขาดทุนครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 30 ปี
เหตุผลที่ Ocean Park ขาดทุนก็มาจากปัจจัยเรื่องนักท่องเที่ยวจีนลดลงเช่นกัน (นักท่องเที่ยวจีนคิดเป็น 60% ของลูกค้าทั้งหมดของ Ocean Park) และการแข่งขันจากสวนสนุกรายอื่นๆ ในภูมิภาค โดยเฉพาะในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ตอนนี้มีสวนสนุกแนวสวนน้ำหรือทะเลรวมกว่า 40 แห่งแล้ว แถมยังใหญ่กว่าและใหม่กว่า Ocean Park อีกด้วย
ที่มา – Nikkei
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา