ศึกษา Vision 2030 ของ Honda กับการรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเต็มกำลัง เบิกร่องด้วยตระกูล Clarity

เมื่อโลกยานยนต์หมุนไปทางรถยนต์ไฟฟ้า แต่เมื่อมองไปที่ค่ายรถญี่ปุ่นก็คงมีแต่ Nissan ที่รุดหน้าไปก่อนใครเพื่อน ซึ่งจากมันจะไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว เพราะ Honda ก็เตรียมเหยียบมิดไมล์ไล่จี้ พร้อมเป้ายอดขายสุด Aggressive

Honda’s Clarity Fuel Cell vehicles to provide zero-emissions shuttle at COP23
Honda’s Clarity Fuel Cell

Vision 2030 และจุด Start ของรถยนต์ไฟฟ้า

ในอดีต Honda อาจเป็นอีกค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นที่เหมือนจะแทงกั๊กในเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการออกเครื่องยนต์ Hybrid แค่ไม่กี่รุ่น แถมทำตลาดแบบมาๆ หายๆ แต่หลังจากปีนี้มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นแล้ว เพราะ Honda ได้ปรับกระบวนความคิดตัวเองใหม่ พร้อมเดินหน้าธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรม

เมื่ออ้างอิงจากรายงานผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2560 ของ Honda จะพบว่า ค่ายรถญี่ปุ่นรายนี้กำลังยกเครื่องกระบวนความคิดครั้งใหญ่ผ่านการออก Vision 2030 หรือวิสัยทัศน์สำคัญในการเดินหน้าธุรกิจให้อยู่รอดในอุตสาหกรรมนี้ไปจนถึงปี 2050 ซึ่งตอนนั้น Honda ก็จะมีอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว

Vision 2030 ของ Honda

วิสัยทัศน์ครั้งนี้ไม่ได้มีแค่กลยุทธ์ใหม่ในการทำตลาดแต่ละภูมิภาค แต่นั่นหมายถึงการเดินหน้ารถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากในปี 2030 ทาง Honda ได้ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไว้เป็น 1 ใน 3 ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งในปีงบประมาณ 2560 ที่เพิ่งจบไป Honda ขายรถยนต์ไปกว่า 5 ล้านคัน

และเพื่อให้ธุรกิจเดินได้ตามวิสัยทัศน์ Honda เตรียมเพิ่มงบวิจัย และพัฒนาของปีงบประมาณ 2561 อีก 9.4% คิดเป็นมูลค่ากว่า 7.5 แสนล้านเยน (ราว 2.1 แสนล้านบาท) แถมเน้นหนักไปในเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า และระบบความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรถยนต์ไร้คนขับที่ Honda หวังว่าจะพัฒนาจนถึง Level 4 ภายในปี 2025

Clarity กับการลองผิดลองถูกเพื่อต่อยอด

แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น Honda ก็ส่งรถยนต์ไฟฟ้าตระกูล Clarity ที่มีทั้งเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid, Fuel-Cell และ Battery EV หรือรถยนต์ไฟฟ้า 100% วางขายในสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก เพื่อลองผิดลองถูกในตลาดนี้ก่อน หลังจากที่เคยทำตลาดแต่รถยนต์ Hybrid ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน

ขณะเดียวกัน Honda ยังเตรียมทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนโดยเฉพาะภายในปีงบประมาณ 2562 รวมถึงยังยืนยันว่าอยู่ระหว่างพิจารณาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในทุกตลาดอีกด้วย เพราะจากการเพิ่มงบวิจัย และพัฒนาก็ทำให้เกิด Electric Vehicle Development Division ที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เครื่องยนต์ จนถึงตัวถัง

Honda Clarity หลายรุ่น

ซึ่งปัจจุบัน Honda มีการเดินสายการผลิตแบบ Global Model มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรุ่น HR-V, CR-V, Civic รวมถึงรุ่นที่กำลังทยอยเปิดตัวอย่าง Accord ทำให้ต้นทุนในการผลิตก็ย่อมน้อยลงโดยอัตโนมัติ แต่ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นรายนี้ก็ยังไม่ทิ้ง Regional Model หรือรุ่นรถยนต์ที่พัฒนาสำหรับภูมิภาคนั้นๆ โดยเฉพาะ

เนื่องจาก Regional Model เป็นหนึ่งฟันเฟืองหลักของความสำเร็จที่ Honda สั่งสมมายาวนาน และตัวอย่างในตอนนี้ก็มีรุ่น Mobilio กับ BR-V ที่ทำตลาดในเอเชียโดยเฉพาะ และ Ridgeline กับ Odyssey ในอเมริกาเหนือ แต่ในทุกตลาดก็ทำงานประสานกัน เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งสู่ Inter-Regional

All-new Honda CR-V ที่อยู่ภายใต้แผน Global Model

พลิกธุรกิจให้กลับมากำไรกว่า 8.4 แสนล้านเยน

จากการเดินหน้ากลยุทธ์ Global Model มากขึ้น ประกอบกับปัจจัยบวกเรื่องค่าเงินทำให้ Honda ปิดปีงบประมาณ 2560 ได้ค่อนข้างดีด้วยกำไรกว่า 8.4 แสนล้านเยน (ราว 2.4 แสนล้านบาท) แม้ยอดขายจะลดลงเล็กน้อยเหลือ 13 ล้านล้านเยน (ราว 3.7 ล้านล้านบาท) ก็ถือว่าดี เพราะทำธุรกิจย่อมเน้นที่กำไรอยู่แล้ว

และเมื่อตรวจสอบรายงานไตรมาสล่าสุดของปีงบปะรมาณ 2561 ก็พบว่า 9 เดือนที่ผ่านมาปิดยอดขายได้ที่ 11.4 ล้านล้านเยน (ราว 3.3 ล้านล้านบาท) และมีกำไร 7 แสนล้านเยน (ราว 2 แสนล้านบาท) ซึ่งสุดท้ายแล้วยอดขาย และผลกำไรอาจมากกว่าปีก่อนหน้านี้เล็กน้อย

ยอดขาย และผลกำไรปีงบประมาณ 2560 ของ Honda

สำหรับธุรกิจของ Honda ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ รถยนต์, รถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์ต่างๆ โดยกลุ่มรถยนต์นั้นถือเป็นยอดขายหลัก รองลงมาเป็นรถจักรยานยนต์ สุดท้ายที่เครื่องยนต์ต่างๆ นอกจากนี้ทาง Honda ยังมีธุรกิจบริการทางการเงินเพิ่มเข้ามาในปีงบประมาณล่าสุดด้วย

ยอดขายแบ่งตามประเภทผลิตภัณฑ์ และภูมิภาคในปีงบประมาณ 2560 ของ Honda

ทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของ Honda ครั้งนี้น่าจะแสดงถึงความชัดเจนว่าการมุ่งไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นแบบใด ต่างเป็นวิธีที่ถูกต้องในการทำตลาดในอนาคต และส่วนตัวเชื่อว่าแบรนด์ Honda ไม่น่าจะหายไปจากตลาดง่ายๆ และคงอยู่กันเกิน 100 ปีตามเป้าหมายของ Vision 2030 แน่นอน

ยอดขาย 9 เดือนแรกในปีงบประมาณ 2561 ของ Honda

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา