Honda City คือหนึ่งในรถยนต์ยอดนิยมของคนไทย เพราะยึดตำแหน่งเบอร์หนึ่งรถยนต์กลุ่ม Subcompact มากว่า 10 ปี และล่าสุด Honda City โฉมใหม่ก็ได้เปิดตัวแล้ว แถมคราวนี้มีสิ่งแตกต่างจากรุ่นเดิมมากมาย
Downsizing เครื่องยนต์เหลือ 1.0 ลิตร
ในที่สุด Honda ก็เปิดตัว Honda City โฉมใหม่ หรือโฉมที่ 5 ของการทำตลาดรถยนต์รุ่นนี้ และวางตำแหน่งเป็นรถยนต์กลุ่ม Subcompact หรือ B-Segment เช่นเดิม ในทางกลับกันก็มีข้อแตกต่างจากรุ่นเดิมอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกับตัวเครื่องยนต์ที่ลดขนาด หรือ Downsinzing จาก 4 สูบ 1.5 ลิตร เหลือ 3 สูบ 1.0 ลิตร
อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์ของ Honda City ก็ไม่ใช่ 1.0 ลิตรธรรมดา เพราะคือ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ Honda เคลมว่ามีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ผ่านกำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิด 173 นิวตันเมตร แต่ด้วยขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กลง ทำให้มีอัตราประหยัดน้ำมัน 23.8 กม./ลิตร
เรียกว่าผ่านเกณฑ์ ECO Car เฟสสองมาเล็กน้อย เนื่องจากเกณฑ์ของ ECO Car เฟสสองระบุว่า อัตราบริโภคนํ้ามันต้องไม่ตํ่ากว่า 23 กม./ลิตร ทำให้ Honda ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี และมีส่วนช่วยกดราคา Honda City โฉมใหม่ให้ต่ำลงมา แถมลดจำนวนรุ่นย่อยจาก 6 รุ่นย่อย เหลือ 4 รุ่นย่อย
เริ่มต้น 5.79 แสนบาท มีเกรด RS ครั้งแรก
สำหรับราคาของ Honda City โฉมใหม่เริ่มต้นที่ 5.79 แสนบาท สูงสุดที่ 7.39 แสนบาทในเกรด RS ซึ่งเป็นครั้งแรกของ Honda City ที่มีรุ่นชุดแต่ง RS ให้เลือก โดยทั้งหมดนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ และใช้ชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งหมด ไม่มีรุ่นเกียร์ธรรมดาให้เลือกอีกแล้ว
ตัว Honda City โฉมใหม่เปิดให้จองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยตัวรถจะจัดแสดงภายในงาน Thailand Motor Expo ก่อน หลังจากนั้นจะจัดแสดงในโชว์รูม Honda ทั่วประเทศในเดือนธ.ค. ก่อนส่งมอบรถยนต์ได้ตั้งแต่เดือนม.ค. 2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ Honda ตั้งเป้าจำหน่าย Honda City โฉมใหม่ในไทยที่ 3,500 คัน/เดือน และรักษาตำแหน่งผู้นำรถยนต์กลุ่ม Subcompact ได้เหมือนเดิม แม้ปัจจุบันจะมีคู่แข่งทยอยเปิดตัวรถยนต์กลุ่ม Subcompact โฉมใหม่ และ Minorchange กันหลายแบรนด์
ไม่เหลวเหมือน Brio และไม่ได้ลดตัวลงมาแข่ง
“เราไม่เคยบอกว่าเราประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมโครงการ ECO Car เฟส 1 แต่ครั้งนี้เราค่อนข้างมั่นใจว่า ECO Car เฟส 2 จะประสบความสำเร็จ เพราะ Honda City โฉมใหม่มันเกิน Class รถยนต์ Subcompact ไปแล้ว” พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) กล่าว
ทั้งนี้ Honda Brio และ Brio Amaze ยังมีจำหน่ายอยู่ แต่ Honda ก็เตรียมสรุปผลการเข้าร่วมโครงการ ECO Car เฟส 1 กับทางหน่วยงานภาครัฐ ส่วนแนวโน้มการผลิตนั้นก็อยู่ระหว่างวางแผน เพราะการเปิดตัว Honda City โฉมใหม่ก็ทำให้ทั้งสองรุ่นนั้นจำหน่ายได้ยากขึ้นโดยอัตโนมัติ
ขณะเดียวกัน “พิทักษ์” ยังมองว่า ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะไม่มีการแบ่งรถยนต์เป็น ECO Car หรือไม่ใช่ ECO Car อีกแล้ว เพราะ ECO Car เป็นเพียงโครงการสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน ดังนั้นการแบ่งกลุ่มรถยนต์ก็จะกลับมาแบ่งตามขนาด หรือเข้าสู่ Subcompact กับ B-Segment เหมือนในอดีต
สรุป
จริงๆ แล้ว Honda เคยทำตลาดรถเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตร มาแล้วในกลุ่มยุโรป และจีน โดยเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตรใน Honda City โฉมใหม่นั้นเป็นการนำเครื่องยนต์ดังกล่าวมาปรับปรุงใหม่ แต่ถึงจะลดขนาดเครื่องยนต์ลงมาเหลือ 1.0 ลิตร แต่ภาพจำของผู้บริโภคกับ Honda City ก็ยังเป็นรถยนต์ที่เหนือกว่า ECO Car อยู่ดี
ข้อมูลเพิ่มเติม // Honda มองว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยในปีนี้น่าจะมียอดขายใกล้เคียงกับปี 2561 ที่ 1.09 ล้านคัน แม้ช่วงครึ่งหลังจะมีตัวเลขออกมาไม่ดีนัก ส่วนในปี 2563 ด้วยการเข้มงวดในการปล่อยกู้ของสถาบันการเงิน ทำให้ตลาดรถยนต์กระทบเล็กน้อย แต่ยังเชื่อว่าจะมีจำนวนเทียบเท่า หรือต่ำกว่าปี 2562 เล็กน้อย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา