HMC Polymers สร้างการเติบโตด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ขยายตลาดต่างประเทศ ชูแนวคิด INNOVATE ENDLESS POSSIBILITIES

เม็ดพลาสติก ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมล้ำสมัย ยิ่งปัจจุบันมีการคิดค้นและใช้เทคโนโลยีใหม่ ในกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้เม็ดพลาสติกที่มีคุณภาพ ถือเป็นก้าวสำคัญที่นอกจากตอบโจทย์การใช้งาน ยังมีส่วนช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งหมดเป็นแนวทางของ บริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด หรือ HMC Polymers ตามแนวคิด INNOVATE ENDLESS POSSIBILITIES นวัตกรรมสร้างสรรค์ไม่สิ้นสุด

HMC Polymers

HMC Polymers ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน หรือ PP รายแรกและใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและชั้นแนวหน้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้แนวคิด “INNOVATE ENDLESS POSSIBILITIES”  หรือนวัตกรรมสร้างสรรค์ไม่สิ้นสุด ขับเคลื่อนการเติบโตให้กับธุรกิจในฐานะผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PP เกรดพรีเมียม

Mr.Corso Uzielli (คอร์โซ อูซีลลี่) ประธานบริษัท HMC Polymers เปิดเผยว่า การก้าวสู่ปีที่ 40 HMC Polymers  ยังคงเดินหน้าคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ พัฒนาสู่ความเป็นเลิศทั้งในด้านฐานการผลิตและการดำเนินธุรกิจทุก ๆ มิติอย่างต่อเนื่อง มุ่งผลักดันให้สายการผลิตที่ 4 ของโรงงานโพลีโพรพิลีน (โรงงาน PP4) ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 ดำเนินการผลิตสูงสุดเต็มศักยภาพ เพื่อให้ได้เม็ดพลาสติก PP รวมกว่า 1 ล้านตันต่อปีตามเป้าหมาย 

ส่วนสำคัญ คือ การนำเทคโนโลยี Spherizone อันทันสมัยที่สุดในการผลิตเม็ดพลาสติก PP จากบริษัท LyondellBasell ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ HMC Polymers เพื่อการผลิตเม็ดพลาสติก PP เกรดพิเศษ (Specialty) และเกรดคุณภาพสูง (Differentiated) ช่วยสร้างความแตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่น ๆ ในตลาด เพื่อการนำไปใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มการแพทย์และสุขอนามัย กลุ่มบรรจุภัณฑ์ทั้งแบบคงรูปและแบบอ่อนตัว และกลุ่มชิ้นส่วนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

HMC Polymers

พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมขยายตลาดภูมิภาค

พรชัย พิชิตวุฒิกร รองประธานอาวุโส สายงานกลยุทธ์ นวัตกรรม และพาณิชยกิจ กล่าวเสริมว่า หลังสายการผลิตที่ 4 ก่อสร้างแล้วเสร็จ  HMC Polymers ได้วางแผนการดำเนินงานไว้ 2 เรื่องหลัก ได้แก่ หนึ่ง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยปี 2566 นี้มุ่งเน้นที่การผลิตเม็ดพลาสติก PP เกรดพิเศษ (Specialty) จากเทคโนโลยีชั้นนำที่เรียกว่า Spherizone เพื่อสร้างความแตกต่างและความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง กอปรกับตอบรับทุกความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ลดต้นทุน และเพิ่มอัตราการผลิตให้สูงขึ้น ควบคู่กับการขยายโอกาสการขายผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในตลาดในประเทศและต่างประเทศ  ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน  

สอง การขยายตลาดสู่ภูมิภาคอื่นๆ อาทิ เอเชียกลาง แอฟริกา อเมริกาใต้ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก PP เกรดพิเศษ (Specialty) ของ HMC Polymers และช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของบริษัทฯ และเศรษฐกิจของไทยในฐานะผู้นำคู่แข่งแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

HMC Polymers

ESG หัวใจสำคัญของธุรกิจยุคใหม่

HMC Polymers ยังให้ความสำคัญกับการนำหลัก ESG (Environment, Social and Governance) ของสากลมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานและการบริหารความยั่งยืน (Sustainability Management) ซึ่งแบ่งเป็น 3 เสาหลัก ได้แก่ 

  1. Carbon Neutrality : อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  2. Connectivity : การสร้างความสมดุลของชุมชนและสังคม ผ่านการดำเนินโครงการต่าง ๆ
  3. Circularity เน้นการลดการใช้ทรัพยากรใหม่ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาเม็ดพลาสติก PCR หรือ Post-Consumer Recycled กล่าวคือ การนําพลาสติก PP ที่ผ่านการใช้งานโดยผู้บริโภคแล้ว มาผ่านกระบวนการทําความสะอาด ปรับปรุงคุณสมบัติ ด้วยเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม ให้สามารถนํากลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง รวมถึงการทดลองจัดทำโครงการ PP Reborn อันเป็น Waste Management Platform ของบริษัทฯ เพื่อกระตุ้นภาคสังคมให้เห็นความสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียนในวงกว้างด้วย

HMC Polymers

รายได้เติบโตจากการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่

อังคณี สุนทรสวัสดิ์ รองประธาน สายการเงิน บัญชี และงานสนับสนุนองค์กร กล่าวถึงภาพรวมและแผนกลยุทธ์การเงินของ HMC Polymers ว่า แม้จะมีปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้เกิดขึ้นทั่วโลก เช่น ภาวะสงครามระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและยูเครน รวมถึงนโยบาย Zero-Covid ของสาธารณรัฐประชาชนจีน กอปรกับการมีโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PP ใหม่ ๆ เกิดขึ้นหลายแห่ง  แต่จากนโยบายการดำเนินงานด้วยความเป็นเลิศ (Operational Excellence) ทำให้ผลประกอบการปี 2565 HMC Polymers มีรายได้รวม 3.2 หมื่นล้านบาทหรือเติบโตกว่า 4% โดยมีสัดส่วนการขายสินค้าเกรดพิเศษ SPDP (Specialty-Differentiated) กว่า 50% ของยอดขายและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกสู่ตลาดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 10 ต่อปี  

ภาพรวมฐานะการเงินมีความแข็งแกร่ง ด้วยสัดส่วนของทุนที่สูง และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ต่ำ 0.7 เท่า มีสินทรัพย์รวม ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท กระแสเงินสดมีสภาพคล่องในระดับเพียงพอ และจากฐานะทางการเงิน ที่แข่งแกร่งนี้ ส่งผลให้ HMC Polymers ได้รับการจัดอันดับเครดิต Rating โดย Fitch Rating Agency อยู่ในระดับ A-

HMC Polymers กับการก้าวสู่ปีที่ 40 ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่การนำไปใช้งานที่หลากหลาย พร้อมตอบโจทย์และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค  บนพื้นฐานของความการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นหลัก เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ทุกชีวิตในสังคม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Branded Content เป็นบทความที่ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์