เอะอะก็ของมันต้องมี! รู้จักกลุ่ม HENRY ทำรายได้สูง แต่ค่าใช้จ่ายเยอะจนไม่เหลือเงินเก็บ

ตอนเงินเดือนน้อย ก็อาจจะคิดว่า ถ้าเงินเดือนเยอะ เราน่าจะมีเงินเก็บเยอะขึ้น ชีวิตดีขึ้น แต่หลายๆ คนกลับเจอสถานการณ์ที่ เงินเดือนเยอะแล้ว ค่าใช้จ่ายก็เยอะตาม ไม่ว่าจะที่จำเป็นหรือสิ้นเปลือง

ถ้าชีวิตคุณเป็นแบบนี้อาจเข้าข่ายอยู่ในกลุ่ม HENRY ที่ย่อมาจาก High Earner, Not Rich Yet ที่ใช้เรียกกลุ่มคนที่ทำรายได้สูง แต่ใช้ชีวิตแบบค่อนข้างกินหรูอยู่แพงจนค่าใช้จ่ายมากตามเงินเดือน ไร้เงินเก็บ ถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีเงิน พูดง่าย ๆ ว่าเงินเดือนสูงแต่ยังไม่รวยสักที

คำว่า HENRY เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดย Shawn Tully เป็นผู้ใช้คำนี้เป็นคนแรกในบทความนิตรสาร Fortune เมื่อปี 2003 Melkorka Licea เขียนบทความลงใน New York Post อธิบายว่า คนกลุ่มนี้มักจะเป็นคนที่มีรายได้อย่างน้อย 100,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) ต่อปีหรือเป็นคู่รักที่มีรายได้รวมกัน 150,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 5.3 ล้านบาท) ต่อปีและส่วนใหญ่เป็นชาว Gen Y

Priya Malani ผู้ก่อตั้งบริษัทการเงิน Stash Wealth ที่มองตัวเองเป็น ‘บ้านของเหล่า HENRY’ ยังประมาณรายได้ของคนกลุ่มนี้ว่าอาจจะอยู่ที่ 70,000-500,000 ดอลลาร์หรือราว 2.4-17.4 ล้านบาทต่อปีก็ได้ 

นอกจากใช้เงินเดือนเป็นตัวจัดกลุ่มแล้ว ชาว HENRY ยังมีลักษณะสำคัญตรงที่มี ‘นิสัยรวย’ คือ มีชีวิตค่อนข้างหรูหรา สะดวกสบาย ไม่ต้องหักโหมทำงานเพื่อหารายได้ แต่กลับไม่มีเงินเก็บเพียงพอสำหรับอนาคตที่มั่นคงหากไม่มีรายได้ รายงานจากบริษัทการเงิน PYMNTS และ LendingClub เผยว่า มากกว่าครึ่งของชาวอเมริกันที่มีรายได้มากกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐต่อปีใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน

อายุส่วนใหญ่ของเหล่า HENRY จะอยู่ในช่วง Gen Y แต่จริง ๆ แล้วใคร ๆ ก็สามารถอยู่ในกลุ่มนี้ได้โดยไม่จำกัดอายุ Malani เผยว่าอายุเฉลี่ยของคนกลุ่มนี้จะอยู่ที่ 32 ปี แต่เธอมีลูกค้าเกือบทุกช่วงอายุตั้งแต่ 22-68 ปี ส่วน Gideon Drucker นักวางแผนการเงินที่บริษัท Drucker Wealth บอกว่า ลูกค้าของเขาอยู่ในช่วงอายุ 25-40 ปี

จะเป็นกลุ่ม HENRY ได้ก็ต้องเริ่มจากการมีรายได้เยอะก่อนทำให้คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในสายงานที่ทำรายได้สูงเมื่อเทียบกับสายงานอื่น ๆ อย่างสายเทคโนโลยี งานสร้างสรรค์ งานโฆษณา รวมถึงงานด้านการเงิน การแพทย์ และกฎหมาย 

HENRY มักจะมีเงินที่เก็บสะสมอยู่ราว 20,000 เหรียญหรือเกือบ 7 แสนบาทในช่วงระยะเวลาหลายปีที่เก็บสะสมมา ดูเหมือนจะเป็นเงินจำนวนมาก แต่ถ้าหากเทียบกับรายได้ปีละ 100,000 เหรียญจะเทียบเท่าเป็น 10% เท่านั้นเองและไม่ใช่การเก็บเงิน 10% ในทุก ๆ ปีแต่เป็นหลายปีรวมกันซึ่งถือว่าน้อยมาก

นอกจากนี้ คนกลุ่มนี้มักจะใช้ติดกักดักชีวิตหรูหราราคาแพงยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อมีรายได้มากขึ้นทำให้แม้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นก็ไม่ได้ทำให้คนกลุ่มนี้สะสมความมั่งคั่งเพื่ออนาคตได้มากกว่าเดิม แถมแม้ว่าจะมีรายได้มาก แต่ HENRY โดยเฉลี่ยมีหนี้การศึกษาถึง 80,000 เหรียญหรือ 2.8 ล้านบาท มากกว่าค่าเฉลี่ยทั้งประเทศถึง 50,000 เหรียญ

ทั้งนี้ ปัญหาในเรื่องการใช้จ่ายส่วนตัวไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำให้คนที่มีรายได้สูงไม่มีฐานะร่ำรวยสักที ส่วนหนึ่งมาจากภาวะเงินเฟ้อด้วยโดยข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐอเมริกาเผยว่า ปัจจุบันควรจะต้องมีรายได้ต่อปีอยู่ที่ 129,000 เหรียญหากต้องการมีกำลังซื้อเท่าผู้ที่มีเงินเดือน 100,000 เหรียญในช่วงเวลา 10 ปีก่อน เพราะตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา มีภาวะเงินเฟ้อสะสมอยู่ที่ 29%

แน่นอนว่ากลุ่ม HENRY มีอยู่โดยทั่วไปไม่ว่าจะรัฐไหนในสหรัฐอเมริกาแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตเมืองใหญ่ที่สามารถหางานรายได้สูงได้ อย่างในสหรัฐอเมริกาก็จะอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองนิวยอร์ก และกรุงวอชิงตันดีซี เป็นหลัก ในทางกลับกัน ค่าครองชีพในเมืองใหญ่ก็มักจะสูงกว่าเมืองอื่น ๆ 

SmartAsset พบว่าเมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายภาษีรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น บวกกับค่าครองชีพที่ชาว HENRY ต้องจ่ายหากอาศัยอยู่ในเมืองนิวยอร์กแล้ว รายได้ต่อปีที่อยู่ที่ 100,000 เหรียญหรือ 2.9 แสนบาทต่อเดือน ก็รู้สึกเหมือนมีค่าเพียง 35,791 เหรียญต่อปีหรือประมาณ 1.04 แสนบาทเท่านั้น

ทั้งค่าครองชีพ ภาษี รายจ่ายจากการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างหรูหราเลยทำให้ผู้คนที่อยู่ในกลุ่ม HENRY มีปัญหาเรื่องการหาสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตให้เต็มที่ในปัจจุบันและการออมเงินไว้ใช้สำหรับอนาคต

Brad Klontz นักวางแผนการเงินและนักจิตวิทยาการเงินของ Creighton University แนะนำว่า วิธีที่ดีที่จะสะสมความร่ำรวย คือ การจ่ายเงินให้ตัวเองก่อนเมื่อได้รับเงินเดือนมา โดยกำหนดว่าจะเก็บออมเงินคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนและเริ่มเก็บก่อนที่จะใช้ 

ที่มา – Business Insider, CNBC

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา