Internet of Things เป็นเรื่องที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนปี 2563 จะมีอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ถึง 20,000 ล้านชิ้น คงไม่แปลกที่ตลาดนี้จะแข่งหนัก และเป็นอีกตัวแปรในการล้มเหลวของ Startup อย่าง Hello ที่ขายอุปกรณ์ติดตามการนอน
โตเร็ว-มีเงิน ใช้ว่าจะรอด
แม้จะระดมทุนได้กว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,350 ล้านบาท แต่ด้วยการแข่งขัน รวมถึงการบริหารจัดการภายในที่ไม่ดีนัก ทำให้ Hello กลุ่ม Startup ที่พัฒนาอุปกรณ์ตรวจจับพฤติกรรมการนอนหลับ หรือ Sleep Monitor ตัดสินใจปลดพนักงาน และขายกิจการให้กับผู้สนใจ
โดยวันจันทร์ที่ผ่านมา ตัวสำนักงานใน San Francisco ของ Hello ก็ได้ปิดตัวลงอย่างเงียบๆ มีทั้งรถบรรทุกเข้ามาขนของออกไป และด้วยตัวสำนักงานที่เป็นลักษณะกระจกใสในด้านหน้า ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า ข้างในไม่มีอะไรเหลือเลย แต่เชื่อว่าตัว Hello คงย้ายของไปที่ใดซักแห่งในระแวก Bay Arena
ในทางกลับกัน James Proud ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Hello ไม่มีการเปิดเผยถึงปัญหาใดๆ ของ Startup ที่ก่อตั้งขึ้นมา รวมถึงการไม่หยุดจำหน่ายสินค้าบนเว็บไซต์ของตัวเอง และ Amazon แม้ตอนนี้หากผู้บริโภคมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้งาน Hello ก็ไม่สามารถติดต่อ Call Center ได้ก็ตาม
สำหรับ Hello ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 เริ่มจากพัฒนาอุปกรณ์ติดตามกิจกรรมขณะสวมใส่ หรือ Wearable Tracker ก่อน แต่จากนั้นก็หันมาเน้นที่การติดตามพฤติกรรมการนอนหลับแทน และจากแนวคิดดังกล่าว Hello สามารถระดมทุนผ่าน Kickstarter ได้กว่า 2.4 ล้านดอลลาร์ในปี 2557 และจากนั้นก็มีทั้งกลุ่ม Temasek และอดีตผู้บริหาร Facebook รวมถึง Twitter เข้ามาลงทุนด้วย
อ้างอิง // Axios
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา