รู้จัก Happy Shopping น้องใหม่ใน TV Home Shopping ที่เน้นขาย Baby Boomer และ Generation X

แม้ตลาด TV Home Shopping ในประเทศไทยจะเติบโตช้าๆ โดยในปี 2562 เติบโตเพียง 7-8% คิดเป็นมูลค่า 14,000 ล้านบาท แต่ก็ยังมีหน้าใหม่อยากเข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาดนี้ อย่างล่าสุดคือ Happy Shopping

Happy Shopping
Happy Shopping

ต้องแตกต่างถึงจะอยู่รอดในตลาด

จากการที่ตลาด TV Home Shopping เติบโตค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับในอดีต ผ่านปัจจัยการปิดตัวของทีวีดิจิทัลบางช่อง และกำลังซื้อผู้บริโภคที่ไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ผู้เล่นบางรายที่เข้ามาในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาเริ่มถอยออกจากธุรกิจนี้ จนเหลือแต่รายที่ทำมานาน หรือมีช่องเป็นของตัวเอง

อย่างไรก็ตามด้วยกลุ่มผู้ซื้อหลักของ TV Home Shopping คือ Baby Boomer และ Generation X หรือคนที่เกิดก่อนปี 2524 เพราะพวกเขายังรับชมโทรทัศน์อยู่ แม้จะเริ่มไปรับชมความบันเทิงต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือแล้วก็ตาม ดังนั้นการจำหน่ายสินค้าที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้โดยเฉพาะก็น่าจะเป็นทางรอดของ TV Home Shopping

ภาพรวมตลาด TV Home Shopping

“การจะอยู่ในธุรกิจ TV Home Shopping ได้ในตอนนี้ต้องมีความแตกต่างจากตลาด และหาช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงที่สุด จุดนั้นเองทำให้ Happy Shopping ตัดสินใจเริ่มธุรกิจเมื่อเดือนพ.ค. 2562 และสามารถเติบโตจนมียอดขาย 185 ล้านบาท” อภิรวี พัชญเดชะ กรรมการผู้จัดการ แฮปปี้ กรุ๊ป กล่าว

ขายสินค้าเฉพาะกลุ่ม-ลงช่อง Nation ในช่วงแรก

ทั้งนี้ Happy Shopping ได้แพร่ภาพเพื่อจำหน่ายสินค้าครั้งแรกในวันที่ 10 พ.ค. 2562 ทางช่อง Nation TV 22 และแพร่ภาพเพียงช่องเดียวถึงปัจจุบัน แต่แค่ทำสัญญาเช่าเวลาเพียงช่องเดียว ก็สามารถมีลูกค้ากว่า 1 แสนราย ผ่านการจำหน่ายสินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่ม Baby Boomer และ Generation X โดยเฉพาะ

happy shopping
สินค้า House Brand ของ Happy Shopping

“เรามีตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภคที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในช่วงสูงอายุ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงการสร้างสินค้า House Brand เพื่อจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพในแบรนด์ Happy Life+, Thai Wisdom by Happy ที่ได้ความร่วมมือจากกลุ่ม OTOP และ Happy Experience ที่ขายทัวร์ท่องเที่ยวต่างประเทศ” อภิรวี เสริม

อย่างไรก็ตาม Happy Shopping ไม่ได้จำหน่ายแค่ผ่านช่องทางโทรทัศน์ เพราะมีช่องทางอีคอมเมิร์ซของตัวเอง และมีการใช้โทรศัพท์เข้าไปตามบ้านต่างๆ เพื่อจำหน่ายสินค้าโดยตรง นอกจากนี้เพื่อเพิ่มความสะดวกในการซื้อสินค้า จึงมีบริการเก็บเงินปลายทางเช่นกัน

happy shopping
ช่องทางของ Happy Shopping

ขยายไปทีวีดิจิทัลช่องอื่นปั้นยอด 530 ล้านบาท

“แม้จะมีช่องทางอื่นๆ นอกจากทีวีดิจิทัล แต่ 90% ก็ยังมาจากทีวีดิจิทัล ดังนั้นเพื่อกระจายความสำคัญของช่องทางอื่นๆ Happy Shopping ก็มีแผนกระตุ้นยอดขายออนไลน์ด้วยการปิดการขายบน Facebook และ LINE เพราะลูกค้าที่อายุ 40 ขึ้นไปนิยมสอบถามรายละเอียดสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าว” อภิรวี กล่าว

เมื่อมีทั้งสินค้า House Brand ที่แข็งแกร่ง และช่องทางอื่นๆ ที่เข้ามาเสริมทีวีดิจิทัล Happy Shopping จึงตั้งเป้ายอดขายสินค้าในปีนี้ที่ 530 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 186% ส่วนจำนวนลูกค้าจะเติบโต 200% ผ่านการเพิ่มสินค้ามากขึ้นเฉลี่ย 10 ชิ้น/เดือน พร้อมกับลงทุนเช่าเวลาในทีวีดิจิทัลช่องอื่นๆ ด้วย

Happy Shopping
กลุ่มลูกค้าของ Happy Shopping

“ตอนนี้ในตลาด TV Home Shopping มีผู้เล่นที่แข็งแกร่งอยู่ในตลาด 6 ราย บางก็ทำตลาดมานาน บ้างก็มีช่องโทรทัศน์เป็นของตัวเอง แต่ด้วยการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วของ Happy Shopping ทำให้เราตั้งเป้าว่าอีกนานจะสามารถครองส่วนแบ่ง 6 อันดับแรกของตลาดนี้ได้” อภิรวี กล่าว

สรุป

TV Home Shopping ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจเสมอ เพราะมันค่อนข้างแตกต่างจากการจำหน่ายสินค้าตามร้าน หรือช่องทางออนไลน์ และบริษัทที่เข้ามาใหม่ก็ต้องพร้อมสร้างความแตกต่างที่ผู้เล่นรายอื่นก็ทำไว้ค่อนข้างดี ดังนั้นต้องจับตากันว่า Happy Shopping จะเติบโตได้ตามเป้าหมายหรือไม่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา