เตรียมโบกมือลาฮ่องกง? รัฐบาลจีนเดินหน้าวางแผนปั้นเกาะไหหลำเป็นเมืองเศรษฐกิจแห่งใหม่

ฮ่องกงเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และการค้าสำคัญทั้งในประเทศจีน และทวีปเอเชีย แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความพยายามของทางการจีนที่จะค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปบริหารจัดฮ่องกง ทำให้ชาวฮ่องกงไม่พอใจ และเกิดเหตุการณ์ประท้วงอย่างรุนแรงหลายครั้ง

รัฐบาลจีนจึงมีแผนที่จะเนรมิตเกาะไหหลำ ที่มีพื้นที่ราว 35,000 ตารางกิโลเมตร ให้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าเสรี และเศรษฐกิจแห่งใหม่ภายในปี 2035 ซึ่งศูนย์กลางการค้าเสรีนี้จะมีขนาดใหญ่มากกว่าเซินเจิ้น หรือเซี่ยงไฮ้

โดยจะลดการจัดเก็บภาษีเงินได้ส่วนบุคคล และภาษีเงินได้จากบริษัทต่างๆ ลงเหลือเพียง 17% รวมถึงผ่อนปรนมาตรการขอวีซ่าสำหรับนักนักเที่ยว และชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาทำงานในเกาะไหหลำอีกด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาทางเรือ จะสามารถอยู่ในเกาะไหหลำได้นาน 15 วันโดยไม่ต้องของวีซ่า

ที่ผ่านมาสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของประเทศจีน เคยประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2018 ว่าในอนาคตเกาะไหหลำจะกลายเป็นพื้นที่การค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน รวมถึงก่อนหน้านี้ไหหลำยังเคยได้ส่งคณะผู้แทนไปที่ฮ่องกง สิงคโปร์ และดูไบ เพื่อศึกษาระบบการค้าเสรีแล้วด้วย

ด้านสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนมีแผนที่จะยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าที่ฮ่องกงเคยได้รับ หลังจากที่มีการวางแผนจะบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่กับฮ่องกง ซึ่งจะทำให้การค้าในฮ่องกงได้รับผลกระทบ ผู้ที่ต้องการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีในอัตราเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่

นอกจากการปรับลดภาษีเงินได้ลงเหลือเพียง 15% แล้ว ทางรัฐบาลจีนยังวางแผนที่จะยกเว้นภาษีการนำเข้าให้กับเกาะไหหลำ โดยเฉพาะการนำเข้าเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต ยานพาหนะ เรือ เครื่องบิน วัตถุดิบต่างๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค ส่วนด้านการลงทุน รัฐบาลจีนวางแผนที่จะลดขั้นตอนการขออนุญาตที่ยุ่งยาก ตราบเท่าที่การทำธุรกิจต่างๆ เป็นไปตามข้อตกลงที่ให้กับรัฐบาลไว้

อย่างไรก็ตาม Steve Tsang อาจารย์จากมหาวิทยาลัย London มองว่า การที่เกาะไหหลำจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้าเสรีแห่งใหม่ทดแทนฮ่องกง หรือกลายเป็นฮ่องกงแห่งที่ 2 คงเป็นเรื่องยาก เพราะยังขาดกฎหมายสำคัญๆ บางประการ รวมถึงความกดดันจากภายนอกประเทศก็มีส่วน

รวมถึงที่ผ่านมา เติ้ง เสี่ยวผิง อดีตประธานาธิบดีของจีนก็เคยวางแผนพัฒนาเกาะไหหลำ ให้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญของจีนมาก่อนแล้วเมื่อช่วงปี 1988 โดยหวังว่าเกาะไหหลำจะกลายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่มีความก้าวหน้าในระดับเดียวกับเซินเจิ้น แต่กลายเป็นว่าเกาะไหหลำกลายเป็นศูนย์รวมของการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย และเต็มไปด้วยนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรจากอสังหาริมทรัพย์

ที่มา – SCMP

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา