พังเพราะแทงสวน! ไห่ตี้เหลา เตรียมปิด 300 สาขา เพราะอัดเงินเปิดสาขาช่วง COVID-19 มากไป

ไห่ตี้เหลา

ไห่ตี้เหลา ร้านชาบูหม่าล่าขวัญใจหลายคน กำลังเผชิญปัญหาธุรกิจ โดยช่วงต้นเดือน พ.ย. ออกประกาศปิดสาขากว่า 300 แห่งภายสิ้นปี 2021

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง Zhang Yong ประธาน ไห่ตี้เหลา เร่งขยายสาขาเท่าตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 เพราะเขามั่นใจว่าถ้าขยายเร็ว โอกาสโตหลังวิกฤต COVID-19 ก็มาเร็ว

ถ้าให้พูดเป็นภาษานักพนันก็คงบอกว่า แทงสวน แต่แทนที่ผลลัพธ์จะออกมาเป็นบวก กลับกลายเป็น ไห่ตี้เหลา ต้องปรับกระบวนท่าครั้งใหญ่

เพราะอะไร Zhang Yong ถึงมั่นใจขนาดนี้ และนอกจากปิดสาขา 300 แห่ง ไห่ตี้เหลา ต้องทำอะไรอีก ติดตามได้หลังจากบรรทัดนี้

ไห่ตี้เหลา กับความมั่นใจที่มีมานาน

ไห่ตี้เหลา ก่อตั้งปี 1994 ที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดย Zhang Yong เน้นเรื่องรสชาติ และงานบริการมาตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ ทำให้ ไห่ตี้เหลา ค่อย ๆ เติบโต และขยายออกไปที่มณฑลอื่นในประเทศจีน

หลังจากเป็นที่รู้จัก และแข็งแกร่งในจีนเกือบ 20 ปี ในที่สุด ไห่ตี้เหลา ก็ได้เวลาโบยบินออกไปต่างประเทศ โดยที่แรกที่ไปเปิดคือที่สิงคโปร์ในปี 2011 และขยายไปที่สหรัฐอเมริกา, เกาหลี, ญี่ปุ่น และไต้หวัน

เมื่อแข็งแกร่ง และโตเร็วขนาดนี้ ไห่ตี้เหลา จึงประกาศจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในปี 2018 ด้วยจำนวนสาขา 466 แห่งทั่วโลก มากกว่าปีก่อนหน้าที่มีสาขา 273 แห่ง ง่าย ๆ คือจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวต่อปี

ถึงตรงนี้ยังไม่เห็นความผิดพลาดใด ๆ ของ ไห่ตี้เหลา และ Zhang Yong ยังมั่นใจในแผนขยายสาขาเกือบเท่าตัวต่อไป โดยสิ้นปี 2019 ไห่ตี้เหลา มี 768 สาขาทั่วโลก และตรงกับช่วงแรกของโรค COVID-19 ระบาดในจีน

แม้ช่วงปลายปี 2019 จะถูกปิดสาขาชั่วคราวในจีนไปบ้าง แต่ ไห่ตี้เหลา มองว่า ถ้าขยายสาขาไว้รองรับการเติบโตหลังวิกฤต COVID-19 สิ้นสุด จะช่วยสร้างการเติบโตในอนาคตให้บริษัทได้

ไห่ตี้เหลา จึงเดินหน้าขยายสาขาเกือบเท่าตัวเช่นเดิมในปี 2020 จนจบมีสาขาทั่วโลก 1,298 สาขา แบ่งเป็น 1,205 สาขาในประเทศจีน และ 93 สาขาในต่างประเทศ

คิดง่าย ๆ ปี 2020 ไห่ตี้เหลา เปิดสาขาใหม่ 1.5 สาขา/วัน ถือเป็นเรื่องแปลกในธุรกิจร้านอาหาร เพราะบริษัทอื่นเลือกเก็บเงินสด และคุมค่าใช้จ่าย แต่ ไห่ตี้เหลา กลับแทงสวน พร้อมทุ่มทุนขยายสาขา

COVID-19 ยืดยาว จนแผนทุกอย่างพัง

ขึ้นปี 2021 COVID-19 ยังสร้างปัญหาในจีน และทั่วโลก ทำให้แผนแทงสวนวิกฤตของ ไห่ตี้เหลา พังไม่เป็นท่า เพราะครึ่งแรกของปี 2021 ไห่ตี้เหลาเพิ่มสาขาเป็น 1,597 แห่งทั่วโลก แต่สุดท้ายต้องประกาศปิดถึง 300 สาขา

ไห่ตี้เหลา ให้เหตุผลว่า ต้องการคุมค่าใช้จ่าย, ปรับกลยุทธ์ธุรกิจทั้งใน และต่างประเทศ รวมถึงหยุดการขยายสาขาไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และสาขาเหล่านี้จะปิดภายในสิ้นเดือน ธ.ค. 2021

อย่างไรก็ตาม ไห่ตี้เหลา ให้คำมั่นว่าจะไม่มีการปลดพนักงานแม้แต่คนเดียว แถม Zhang Yong เองยังออกมารับผิดว่า เพราะมั่นใจเกินไป ผลลัพธ์ถึงออกมาแบบนี้

หากมาตรวจสุขภาพธุรกิจ ไห่ตี้เหลา จะพบว่า ปี 2020 มีรายได้รวม 28,614 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย กำไรสุทธิ 309 ล้านหยวน น้อยกว่าปีก่อนหน้านี้ที่ทำได้ 2,346 ล้านหยวน

ร้านอาหารจะทำเงินแค่ไหน หนึ่งในปัจจัยสำคัญคืออัตราการหมุนเวียนของโต๊ะ โดยในปี 2020 ไห่ตี้เหลา มีอัตราการหมุนเวียนของโต๊ะแค่ 3.5 ครั้ง/โต๊ะ/วัน ลดลงจากปี 2019 ที่ทำได้ 4.8 ครั้ง/โต๊ะ/วัน

ส่วนครึ่งแรกของปี 2021 อัตราดังกล่าวลดลงเหลือ 3 ครั้ง/โต๊ะ/วัน จึงไม่แปลกที่ ไห่ตี้เหลา ตัดสินใจแบบนี้เพื่อกลับมาตรวจสอบตัวเองว่า มั่นใจจนเกินไปในการทำธุรกิจหรือไม่

ส่องสถานการณ์ ไห่ตี้เหลา ในประเทศไทย

สำหรับประเทศไทย ไห่ตี้เหลา มีทั้งหมด 7 สาขา เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปี 2019 หากอ้างอิงข้อมูล กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะพบว่า บริษัท ไฮ้ ดิ เหลา พร็อพไพรเอทเทอร์รี่ (ไทยแลนด์) จำกัด มีรายได้รวม และกำไรสุทธิ ดังนี้

  • 2019 มีรายได้รวม 66 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 34 ล้านบาท
  • 2020 มีรายได้รวม 302 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 6 ล้านบาท

การปรับตัวในตลาดประเทศไทย นอกจาก ไห่ตี้เหลา จะหันมาจำหน่ายเมนูอาหารต่าง ๆ ผ่านช่องทางเดลิเวอรีเหมือนกับร้านอาหารอื่น ยังจำหน่ายหม้อไฟสำเร็จรูป และชุดเครื่องปรุงเพื่อประกอบอาหารที่บ้าน

แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่สามารถชดเชยรายได้จากการจำหน่ายอาหารภายในร้านได้ ยิ่งจุดแข็งของ ไห่ตี้เหลา คืองานบริการ เช่นพนักงานเสิร์ฟที่เอาใจใส่ และมีบริการทำเล็บอยู่หน้าร้าน ทำให้การทานที่บ้านอาจไม่จูงใจขนาดนั้น

ไห่ตี้เหลา ไม่ได้แจ้งว่า จะมีสาขาในจีน หรือต่างประเทศแห่งใดบ้างที่ต้องปิดทำการตามนโยบายนี้ ทำให้ไม่รู้ว่าอนาคตของ ไห่ตี้เหลา ในไทยจะยังมี 7 สาขาเหมือนเดิม หรือลดลงจากตัวนี้ดังกล่าว

สุดท้ายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การแทงสวน แม้หลายครั้งจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเล่นเกมตามภาพรวมตลาด แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงที่สูงกว่าเช่นกัน

อ้างอิง // Hai Di Lao, Fortune, Fitch

อ่านข่าวเกี่ยวกับ ไห่ตี้เหลา และร้านอาหารเพิ่มเติมได้ที่นี่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา