มุมมองการลงทุนครึ่งปีหลังจาก Citi ที่ยังชื่นชอบตลาดเกิดใหม่ และเอเชีย รวมไปถึงมุมมองเศรษฐกิจ และ 4 ประเด็นในการลงทุนที่จะทำให้การลงทุนของนักลงทุนมองเห็นภาพในครึ่งปีหลัง
ดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังภาพรวมของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลกจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากหลากหลายปัจจัยที่สนับสนุน อาทิ อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นทั่วโลก การปฏิรูปภาษีในสหรัฐอเมริกา การประเมินมูลค่าราคาของตลาดเกิดใหม่ หรือ Emerging Markets ที่ยังคงถูกกว่าตลาดอื่นๆ และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของตลาดเกิดใหม่
ในด้านของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาที่เหลือของปี 2018 และยังคาดการณ์ว่าอัตราแลกเปลี่ยนในค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น แต่จะอ่อนค่าลงต่อไปในระยะปานกลางถึงระยะยาว เนื่องจากการขาดดุลที่เพิ่มขึ้นและความตึงเครียดทางการค้ากับประเทศจีนและโซนยุโรป
ปีนี้เศรษฐกิจยังดีทั่วโลก
เศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลัง 2018 คาดว่าจะมีการขยายตัว 3.4% ซึ่งสูงสุดในรอบ 8 ปี โดยมีปัจจัย เช่น การเพิ่มขึ้นของมาตรการกระตุ้นการเงินของสหรัฐอเมริกา และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เป็นต้น อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเป็นบวกในทุกภูมิภาคหลัก
สำหรับกลุ่มประเทศพัฒนา GDP เติบโตเฉลี่ย 2.3% ส่วนกลุ่มประเทศเกิดใหม่ GDP เติบโตเฉลี่ย 4.8% ฉะนั้นการเติบโตระดับนี้ยังเป็นบรรยากาศที่ดีในการลงทุน
มุมมองเศรษฐกิจไทย
Citi คาดการณ์เศรษฐกิ
อย่างไรก็ตาม Citi ยังคงมองถึงปัจจัยเสี่ยงที่
กำไรบริษัทก็ดี
กำไรของบริษัททั่วโลกไปปีนี้เติบโตถึง 13% ส่วนบริษัทในดัชนี S&P 500 เติบโตถึง 19.7% ซึ่งถือว่าเติบโตสูงมาก ส่วนภูมิภาคอื่นๆ เช่นยุโรป เติบโตถึง 11% รวมไปถึง Emerging Markets เติบโตถึง 15% อย่างไรก็ดีเราจะเห็นได้ว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกเติบโตพร้อมกัน ซึ่ง Citi ยังคงมีมุมมองที่ดีในการลงทุน
แต่ถ้าหากมองว่าหุ้นแพงไปหรือยัง Citi มีมุมมองที่ว่าถ้าหากมองในปีนี้จะถือว่าไม่ถูก แต่ถ้าหากมองกำไรในปีนี้แล้วเทียบไปข้างหน้าแล้วจะพบว่าราคาอยู่ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย ฉะนั้นถ้ามองภาพรวมหุ้นโลกยังถือว่าลงทุนได้
เตือนเรื่องสภาพคล่อง
Citi ยังได้เตือนเรื่องของสภาพคล่องของตลาดหลังจากหมดนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน หรือ QE และถ้าคิดผลรวมจากธนาคารกลางแต่ละแห่งที่พิมพ์เงินเข้ามาหรือว่าเลิกนโยบายนี้ จะเห็นว่าปีนี้ไม่มีเม็ดเงินใหม่ๆ เข้ามา ซึ่งนักลงทุนเริ่มเข้าใจในเรื่องนี้ ในอดีตตลาดจะชินกับการปั๊มเม็ดเงินเข้ามาทำให้ราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีความเสี่ยงบ้างถ้าหากธนาคารกลางรีบขึ้นดอกเบี้ยเซอร์ไพรส์นักลงทุน ซึ่งอาจทำให้เกิดความผันผวนในสินทรัพย์ได้
4 เรื่องสำคัญในการลงทุน
Citi ได้เน้นย้ำถึง 4 เรื่องหลักในการลงทุนครึ่งปีหลังดังต่อไปนี้
- Managing Volatility เราจะเห็นว่าปีนี้จะเป็นอีกปีที่มีความผันผวนในราคาสินทรัพย์สูงมาก และความผันผวนจะยังมีต่อไป ไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเมือง หรือแม้แต่การขึ้นดอกเบี้ย Citi มองว่าพอร์ตการลงทุนจะต้องปกป้องในเรื่องนี้ด้วย
- Benefit from Growth Expansion ผลดีจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้ Emerging Markets และรวมไปถึงเอเชียได้รับผลประโยชน์ โดยเฉพาะระยะกลางและยาว Citi มองว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่า
- Seek Shelter with Income ดอกเบี้ยกำลังจะปรับตัวขึ้น มุมมองของ Citi แนะนำให้ลงทุนตราสารหนี้ที่ทำให้ผลตอบแทนต่อเนื่อง เช่น ตราสารหนี้ที่อยู่ในเกรดที่น่าลงทุน หรือแม้กระทั่ง High Yield Bond ด้วย
- Return of USD weakness เนื่องด้วยนโยบายของรัฐบาลสหรัฐในปัจจุบันจะเน้นให้ดอลลาร์อ่อนค่าระยะยาว นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้อาจเริ่มมองหาการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินในต่างประเทศ เช่น กองทุนที่มีหน่วยลงทุนเป็นเงินยูโร
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา