สารัชถ์ รัตนาวะดี ส่ง กัลฟ์ ไบแนนซ์ ชิงดำเบอร์หนึ่งตลาด พร้อมหาพาร์ตเนอร์ดันธุรกิจเติบโตยั่งยืน

สารัชถ์ รัตนาวะดี ส่ง กัลฟ์ ไบแนนซ์ บุกตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมกางแผนผสานความแข็งแกร่งด้านเงินลงทุน และเครือข่ายกัลฟ์ เช่น เอไอเอส กับเทคโนโลยีของไบแนนซ์ ยกระดับการให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งเป้าครองเบอร์หนึ่งของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

Gulf Binance

กัลฟ์ ไบแนนซ์ ผสานสองความแข็งแกร่ง

สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ กัลฟ์ กล่าวว่า หลังจากเปิดตัว กัลฟ์ ไบแนนซ์ เผื่อทำตลาดเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้ชื่อ Binance TH by Gulf Binance หรือ Binance TH ทางบริษัทมีแผนยกระดับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยด้วยวิธีต่าง ๆ

หนึ่งในนั้นคือการอาศัยความแข็งแกร่งของกัลฟ์ที่มีเครือข่ายธุรกิจที่หลากหลาย ครอบคลุมพลังงาน และโทรคมนาคม และการเป็นเบอร์ 1 ในระดับโลกของไบแนนซ์ เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลได้ง่ายขึ้น เช่น ไบแนนซ์มีการหารือกับเอไอเอสเพื่อยกระดับงานให้บริการร่วมกัน

นอกจากนี้ กัลฟ์ ไบแนนซ์ อยู่ระหว่างมองหาพาร์ตเนอร์เพื่อดำเนินธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ เน้นการสนับสนุนกัน และกันเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต โดย กัลฟ์ ไบแนนซ์ จดทะเบียนวันที่ 17 พ.ค. 2023 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 190 ล้านบาท

มองเรื่อง Virtual Banking เป็นโอกาส

ในทางกลับกัน กัลฟ์ ยังอยู่ระหว่างเดินหน้าเข้าร่วมโครงการ Virtual Bank ผ่านการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเอไอเอสที่ปัจจุบันมีลูกค้า 45 ล้านเลขหมาย กับธนาคารกรุงไทย รวมถึง บมจ. ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก หรือ โออาร์ ถือเป็นกลุ่มทุนใหญ่ที่น่าสนใจหากผ่านเกณฑ์การทำตลาด Virtual Bank

มากกว่านั้น กัลฟ์ ยังอยู่ระหว่างแสวงหาความร่วมมือใหม่ ๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยในปี 2023 กัลฟ์ มีรายได้รวม 1.16 แสนล้านบาท เติบโต 23% กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 14,858 ล้านบาท เติบโต 30.1%

ด้าน ริชาร์ด เทง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไบแนนซ์ เสริมว่า การใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยเติบโตเป็นอย่างมาก เนื่องจากการใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน จน 10-20% ของคนไทยเคยมีประสบการณ์ครอบครองสินทรัพย์ดิจิทัล

ตั้งเป้าเป็นเบอร์ 1 ของสินทรัพย์ดิจิทัล

นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กัลฟ์ ไบแนนซ์ แจ้งว่า ปัจจุบันคนไทยติดอันดับที่ 10 ของโลกในอันดับดัชนีการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัล แต่สิ่งที่ตลาดนี้ในไทยขาดคือผู้นำที่มีความน่าเชื่อถือ และผลักดันอุตสาหกรรมนี้ไปอย่างสร้างสรรค์ ซึ่ง กัลฟ์ ไบแนนซ์ พร้อมเป็นผู้ขับเคลื่อนรายสำคัญในตลาดนี้

“เรามีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในเรื่องนี้ ผ่านบริการ BinanceTH และนำความเป็นอันดับ 1 ในระดับโลกมายกระดับบริการในประเทศไทย พร้อมตั้งเป้าเป็นเบอร์ 1 ของประเทศไทย ไม่ใช่แค่มูลค่าการซื้อขาย แต่หมายรวมถึงการสร้างระบบนิเวศให้กับอุตสาหกรรมนี้ด้วย”

กัลฟ์ ไบแนนซ์ มีแผนทำความร่วมมือกับองค์กรรัฐ และเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลให้เติบโตไปในอนาคต ล้อไปกับความนิยมของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยังมีแนวโน้มเติบโตในประเทศไทยหลังจากนี้

ผู้เชี่ยวชาญมองตลาดนี้ยังไปได้ไกล

วิชัล ซาชีนดรัน หัวหน้าฝ่ายตลาดภูมิภาคของ Binance มองว่า สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นมากกว่าการซื้อขายบนกระดาน เพราะสามารถนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันได้ ผ่านการเป็นหน่วยเงินตราในการซื้อขายแลกเปลี่ยน อำนวยความสะดวกคล้ายกับสกุลเงินที่ใช้กันในแต่ละประเทศ

ยูโดโนะ ราวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tokocrypto หนึ่งในผู้ให้บริการกระดานซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในอินโดนีเซีย เสริมว่า คนรุ่นใหม่ในอินโดนีเซียค่อนข้างให้ความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัล และยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ยิ่งค่าเงินของอินโดนีเซียค่อนข้างมีปัญหาอ่อนค่า สินทรัพย์ดิจิทัลก็เป็นอีกทางออก

สัญชัย ปอปลี ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังอยู่ในช่วงคล้ายกับยุคดอตคอมบูม และทุกคนจะเข้าใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และลงทุน หรือนำไปใช้กันอย่างมีประสิทธิภาพ

อ้างอิง // Gulf Binance

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา