Gucci คาดยอดขายร่วง 20% กระทบจากเศรษฐกิจจีน สวนทางคู่แข่ง LVMH และ Hermes 

Kering บริษัทแม่ของ Gucci ประกาศเตือน คาด Gucci จะทำยอดขายได้ลดลง 20% ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ จากยอดขายที่ชะลอลงในเอเชียโดยเฉพาะจากจีน

การคาดการณ์ของ Kering สวนทางกับผลประกอบการของคู่แข่งอย่าง LVMH และ Hermes ที่ยังทำยอดขายได้ดี ในตลาดสินค้าหรูเติบโตในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา 

หลังจาก Kering ประกาศคาดการณ์ออกมา ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทร่วงลงประมาณ 15% สูญเสียมูลค่าไปราว 8,600 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 3 แสนล้านบาท กลายเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์ พาให้ราคาหุ้นของบริษัทแบรนด์เนมรายใหญ่อย่าง LVMH และ Hermes ร่วงลงไปด้วย

Gucci คาดว่าจะทำยอดขายมากกว่า 1 ใน 3 จากจีนที่ขณะนี้เศรษฐกิจกำลังประสบภาวะถดถอย เมื่อเดือนที่แล้ว Kering ก็เพิ่งจะเปิดเผยว่า กำไรของบริษัทในปี 2023 ลดลง 17% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าด้วย

การคาดการณ์เตือนจาก Kering เน้นย้ำถึงความท้าทายของบริษัทที่กำลังพยายามกระตุ้นยอดขายของ Gucci ที่ทำยอดขายครึ่งหนึ่ง และทำกำไร 2 ใน 3 ให้กับบริษัท ประกอบกับรายได้จากแบรนด์อื่นภายใต้บริษัทแม่เดียวกันอย่าง Yves Saint Laurent, Balenciaga และ Bottega Veneta

ผลประกอบการของ Kering ในปีที่แล้ว สวนทางกับคู่แข่งอย่าง LVMH ที่เป็นเจ้าของแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton, Moët & Chandon และ Hennessy ที่ทำยอดขายได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้ง Hermes ก็เพิ่งจะเฉลิมฉลองกับผลประกอบการในปีที่แล้วโดยมีแผนที่จะให้โบนัสกับพนักงานทุกคน

ขณะที่คู่แข่งทำรายได้ได้ดีในตลาดสินค้าหรู Gucci ก็ต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคที่อายุน้อยกว่าซึ่งมีความเสี่ยงจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจมากกว่า 

เมื่อปีที่แล้ว Kering ได้แต่งตั้งให้ Jean-François Palus ขึ้นเป็นซีอีโอและตั้ง Sabato De Sarno เป็น Creative Director ถือเป็นความพยายามที่จะยกเครื่องการออกแบบใหม่เพื่อแย่งชิงพื้นที่ในตลาดที่สูญเสียไปคืนจาก Louis Vuitton และ Dior ของ LVMH

ที่มา – BBC, Reuters

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา