ร้านอาหาร Greyhound Cafe บุกลอนดอนได้อย่างสมใจหมาย วางเป้าเป็นประตูในการขยายสู่ประเทศอื่นในยุโรป ประเดิมสาขาแรกที่ย่าน Fitzrovia พร้อมการตกแต่งแบบร้านโชห่วยสไตล์ Thailand Only
ลุยสาขาแรกในโซนยุโรป
ถึงแม้ว่าแบรนด์ Greyhound จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ อยู่ภายใต้ บริษัท มันแมน จำกัด (มหาชน) ที่ได้เข้าซื้อกิจการตั้งแต่ปี 2557 โดยมีทิศทางที่ขยายแบรนด์ให้กว้างขึ้น และขยายไปยังต่างประเทศ ทำร้านอาหารไทยไปไกลยังต่างแดน แต่ “ภานุ อิงควัต” ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารกลุ่มบริษัทเกรฮาวด์ ก็ยังคงบริหารแบรนด์ดังเดิม
ทั้งนี้แผนการทำตลาดของทั้งร้านอาหาร Greyhound Cafe และ Greyhound แฟชั่นในปัจจุบัน และอนาคต โดยที่ให้น้ำหนักกับ Greyhound Cafe มากขึ้น เพราะเป็นเทรนด์ในเรื่องของอาหารการกินที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากขึ้น เน้นการทำตลาดต่างปะเทศ ในณะที่เกรฮาวด์ มีการแตกสินค้าไลฟ์สไตล์
ล่าสุด Greyhound Cafe ได้ทุกการบุกเมืองลอนดอนประเทศอังกฤษเป็นที่เรียบร้อย เป็นไปตามทิศทางที่ได้วางแผนไว้ตั้งแต่ต้นปี ร้านมีพื้นที่ขนาด 253 ตารางเมตร ซึ่งสาขานี้ตั้งอยู่ที่หัวมุมถนน Berners street ในย่าน Fitzrovia ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งฮิปแห่งใหม่ในกรุงลอนดอน ไม่ใกล้ไม่ไกลจาก SOHO
เคยได้พูดคุยกับภานุเขาได้เล่าถึงความสำคัญในการเปิดสาขาที่ลอนดอนไว้ว่า
“สาขาที่ลอนดอนจะเป็นสาขาสำคัญ เหมือนเป็นสาขาโชว์เคสเป็นประตูสู่ยุโรปในประเทศอื่นๆ ได้ ทั้งแถบเยอรมัน หรือโซนสแกดิเนเวียก็มีโอกาส เพราะคนกลุ่มนี้ชอบอาหารไทยเยอะ ที่ลอนดอนจะเป็นการลงทุนเองเพราะสาขาควบคุมคุณภาพได้ มองว่าน่าจะเปิดได้ 3-4 สาขา วางจุดยืนเป็นร้านอาหารไทยแบบโมเดิร์น ยอมรับว่าคู่แข่งเยอะ ผู้บริโภคมีลิ้นที่ต่างกัน ต้องมีการสร้างจุดเด่นให้แตกต่าง ส่วนสาขาอื่นที่ยุโปรจะใช้วิธีขายแฟรนไชส์ถ้ามีคนสนใจเปิดร้าน”
ภาณุยังเสริมอีกว่ารูปแบบการทำร้าน Greyhound Cafe ในไทย กับต่างประเทศจะมีความใกล้เคียงกัน 80% ด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์ Identity ของแบรนด์เหมือนกัน แต่มีการเปลี่ยนเรื่องการตกแต่งร้านที่จะแตกต่างไปแต่ละโลเคชั่น หรือมีการเปลี่ยนบางเมนูบ้างให้เข้ากับคนในแต่ละพื้นที่
ปัจจุบัน Greyhound Cafe มีสาขาในประเทศไทยรวม 14 สาขา มีการขยายไปต่างจังหวัดมากขึ้น เช่น พัทยา และหัวหิน เริ่มต้นจากทำเลสถานที่ท่องเที่ยวก่อน แต่ได้ปิดบางสาขาที่มีปัญหาอย่างเมเจอร์ รัชโยธิน เพราะมีการทำถนนทาด้านหน้า ทำให้ไม่สะดวก ส่วนสาขาที่เป็นไฮไลท์ทำรายได้ดีที่สุดยังคงเป็นสยามพารากอน เมกาบงนา เซ็นทรัลชิดลม และเอ็มควอเทียร์
กลยุทธ์สำคัญคือการบุกตลาดต่างประเทศ ได้เริ่มบุกตลาดในเอเชียแล้ว ได้แก่ ประเทศจีน 5 สาขา ฮ่องกง 7 สาขา สิงคโปร์ 1 สาขา มาเลเซีย 2 สาขา อินโดนีเซีย 1 สาขา และอังกฤษ 1 สาขา เป้าหมายคือบุกโซนยุโรปต่อ
ตกแต่งสไตล์โชห่วย! เหมือนยกกรุงเทพฯ มาลอนดอน
การตกแต่งของร้านสาขานี้เหมือนได้ยกความเป็นไทยมาเกือบทั้งหมด ภาพรวมยังคงคุมโทนด้วยสีดำที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน หน้าร้านได้ต้อนรับด้วยกระ ”ถัง” ต้นไม้ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากถังที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปริมถนนในกรุงเทพฯ ทั้งคนไทย และชาวลอนดอนคงกริ๊ด เพราะไม่เคยได้เห็นแบบนี้ที่ไหนในลอนดอนมาก่อนแน่นอน
ส่วนภายในร้านได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ร้านโชห่วย” ในซอยบ้านที่คุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ที่เป็นไฮไลท์ก็คือไซดักปลาขนาดใหญ่พร้อมด้วยฝูงปลาตะเพียนสานจากทองเหลือง ซึ่งถ้าได้เห็นต้องร้องว่า Thailand Only เอามากๆ เป็นเหมือน Installation Art ชิ้นเด่นที่แหวกว่ายอยู่กลางอากาศภายในร้านของเรา
งานนี้ได้ “จอย – อนันดา ฉลาดเจริญ” Stylist มือฉมังในวงการมาสร้างสรรค์ผลงาน Made in Bangkok สู่สายตา Londoner
ยกเมนูจากกรุงเทพฯ ข้ามเกาะอังกฤษ
เมนูไหนที่ขึ้นชื่อของ Greyhound Cafe ได้ถูกยกมาแทบจะทั้งหมด ทั้งแซลม่อนแช่พริก, ก๋วยเตี๋ยวห่อหมูสับ, ปีกไก่แดดเดียวทอดน้ำปลา สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม หรือปูผัดข้าว พร้อมทั้งยังมีเมนูใหม่ๆ สไตล์ Greyhound ที่พัฒนาขึ้นที่นี่โดยเฉพาะ ความสำคัญคือเพื่อให้ชาวลอนดอนได้รู้จักกรุงเทพฯ ในแง่มุมต่างๆ ผ่านจานอาหาร ได้แก่ ขาหมูทอดเสิร์ฟกับแจ่วและน้ำพริกมะขาม, เมื่ยงปลาเผา, ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง หรืออาหารยอดฮิตติดปากชาวเราอย่างข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวก็ยังมี
ส่วนคอปาร์ตี้ได้มีเครื่องดื่มให้แฮงเอาท์ตอนกลางคืนได้ ได้มีการอิมพอร์ตเบียร์ชาละวัน, ชาตรี และบุษบา คราฟเบียร์สัญชาติไทย ข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังเกาะอังกฤษ พร้อมด้วย Cocktail กลิ่นอายไทยอย่าง บางยี่ขันซาวเวอร์ (Bangyikhan Sour) และ สำเพ็งฟูล (Sampeng Fool) ก็มี
สรุป
- การเปิดสาขาแห่งแรกที่กรุงลอนดอนของ Greyhound Cafe ต้องการสร้างเป็นแฟล็กชิพสโตร์เพื่อการขยายสาขาต่อไปในอนาคต เป็นเหมือนใบเบิกทางให้ผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์ เป็นการขยายแบรนด์ต่อไปสู่ยุโรป
- ความน่าสนใจของสาขานี้คือการผสานความเป็นโมเดิร์น กับความเป็นไทย สามารถสร้างชื่อให้ประเทศไทยต่อไปได้อีกผ่านวัฒนธรรมอาหาร
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา